ถ้าเราได้มีโอกาสผ่านไปแถวๆ สนามหลวง คลองหลอด หรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเวลากลางคืน เราอาจจะพบหญิงสาวและชายหนุ่มมากมายมายืนเตร็ดเตร่คอยขายบริการทางเพศกับลูกค้าอยู่ริมถนน แต่สิ่งที่ทำให้น่าประหลาดใจมากไปกว่านั้นก็คือการได้พบเห็นว่ามีเด็กบางคนที่อายุแค่ไม่กี่ขวบปี ยืนรอขายบริการอยู่มากมายเช่นกัน นี่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเสื่อมโทรมฟอนเฟะของสังคมที่คงต้องเร่งหาทางแก้ไขอย่างจริงจังเสียที
ทำไมเด็กตัองมาขายตัว
1.โดนบังคับ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่โดนผู้ใหญ่ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของเด็กเองบังคับให้เด็กขายตัว เคยมีกรณีที่น่าสลดใจคือ ยายติดเหล้างอมแงมบังคับให้หลานสาวสองคนวัยเพียง 14 ปี กับ 13 ปี เร่ขายตัวในหมู่บ้าน เพื่อจะได้เงินในการขายบริการเพียงครั้งละ 100-200 บาท หรือเพียงเพื่อจะแลกกับเหล้าหรือเบียร์ แต่ในที่สุดเด็กก็ทนไม่ไหวจึงนำเรื่องไปปรึกษากับคุณครูประจำชั้น ยายถูกจับดำเนินคดี ส่วนเด็กหญิงทั้งสองคนได้รับการช่วยเหลือนำตัวไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของความเลวร้ายของสังคมที่เกิดขึ้น แต่ปัจจุบันก็ยังมีเด็กๆ จำนวนมากที่ถูกผู้ใหญ่บังคับให้ขายบริการทางเพศ
2.ต้องการเงิน ปัญหาความยากจนเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กต้องขายตัว สำหรับเด็กที่เกิดในครอบครัวยากจนก็จะพยายามดิ้นรนที่จะหาเงินมาใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องและชำระหนี้สิน เด็กบางคนไม่ได้อยากจะทำเช่นนี้เลย แต่คิดว่าตนไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้จึงจำยอมต้องทำ เรามักจะเห็นอยู่บ่อยๆ ว่า เด็กที่เกิดในครอบครัวที่ยากจนแล้วรู้สึกว่าตนเองมีความทุกข์หาทางออกไม่ได้ หรือต้องการหนีปัญหา ก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะไปลักขโมย เป็นเด็กแว้น เด็กสก้อย ติดยาเสพติด และขายยาเสพติด และส่วนใหญ่เมื่อเข้าไปพัวพันกับสิ่งไม่ดีแล้วก็มักจะหนีไม่พ้นที่จะลงเอยด้วยการขายตัวด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็เป็นเรื่องน่าสลดใจที่ปัจจัยทางการเงินมีผลต่อเด็กอย่างมากจนถึงขั้นต้องมาขายบริการ
3.ค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคบริโภคนิยม ซึ่งส่งผลให้คนในสังคมทุกเพศทุกวัยต่างโหยหาบริโภคในสิ่งที่ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่ล้ำสมัย สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นช่วงวัยแห่งการแสวงหาและต้องการเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป จึงต้องพยายามซื้อหาสิ่งของฟุ่มเฟือยมาอวดกัน ซึ่งถ้าฐานะของครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยไม่สามารถมีเงินมาให้เด็กนำไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ได้ จึงมีเด็กหลายคนสมัครใจยอมเข้าสู่วงจรของการขายบริการทางเพศ เพื่อที่จะมีเงินมาซื้อสิ่งของเหล่านี้ได้ โดยไม่คำนึงว่าการทำเช่นนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ ขอเพียงให้มีเงินเต็มกระเป๋าก็พอใจแล้ว อย่างที่เราเคยได้ยินว่ามีเด็กผู้หญิงบางคนยอมขายตัวเพื่อแลกกระเป๋าแบรนด์เนม รถหรู หรือเด็กผู้ชายบางคนยอมขายตัวเพื่อแลกกับโทรศัพท์มือถือ แท็บเลต หรือคอนโด
วิธีการแก้ไข
1.ควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการขายบริการ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืนกระทำชำเรา การอนาจาร โดยเพิ่มบทลงโทษให้มีความรุนแรงและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนมีความเกรงกลัวไม่กล้าทำผิดในเรื่องนี้อีก
2.ควรให้โรงเรียน สถานศึกษา สถาบันทางศาสนา เข้ามามีบทบาทในการอบรมสั่งสอนด้านศีลธรรมจริยธรรมให้แก่เด็กๆ และคนในสังคมหรือในชุมชนในเรื่องการไม่ส่ำส่อนทางเพศ การรักนวลสงวนตัว บาปของการประพฤติผิดในกาม อีกทั้งให้ความรู้ถึงโทษและโรคภัยที่เกิดจากการส่ำส่อนทางเพศ
3.สื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ ควรนำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาในการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กและคนในสังคมมากกว่าการนำเสนอสิ่งที่มีเนื้อหาในการส่งเสริมความฟุ้งเฟ้อหรือค่านิยมที่ผิด และควรงดการนำเสนอสิ่งที่มีเนื้อหาส่อไปในทางลามกอนาจาร หรือไม่สนับสนุนบุคคลที่ประพฤติตนเสื่อมเสีย เพราะอาจเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กได้
ในปัจจุบันปัญหาเด็กขายบริการทางเพศนับว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นความเสียหายต่อตัวเด็กเอง ต่อครอบครัวและต่อสังคมแล้ว ก็ยังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อศีลธรรม วัฒนธรรม และภาพลักษณ์อันดีงามของประเทศชาติด้วย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ควรต้องคอยดูแลเอาใจใส่เด็กๆ ให้มาก อย่าให้เด็กๆของเราต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ไม่ควรทำนี้ เพื่อที่ปัญหาเด็กขายตัวจะลดน้อยลงและหมดไปจากสังคมไทยเสียที
ทำไมเด็กตัองมาขายตัว
1.โดนบังคับ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่โดนผู้ใหญ่ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของเด็กเองบังคับให้เด็กขายตัว เคยมีกรณีที่น่าสลดใจคือ ยายติดเหล้างอมแงมบังคับให้หลานสาวสองคนวัยเพียง 14 ปี กับ 13 ปี เร่ขายตัวในหมู่บ้าน เพื่อจะได้เงินในการขายบริการเพียงครั้งละ 100-200 บาท หรือเพียงเพื่อจะแลกกับเหล้าหรือเบียร์ แต่ในที่สุดเด็กก็ทนไม่ไหวจึงนำเรื่องไปปรึกษากับคุณครูประจำชั้น ยายถูกจับดำเนินคดี ส่วนเด็กหญิงทั้งสองคนได้รับการช่วยเหลือนำตัวไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของความเลวร้ายของสังคมที่เกิดขึ้น แต่ปัจจุบันก็ยังมีเด็กๆ จำนวนมากที่ถูกผู้ใหญ่บังคับให้ขายบริการทางเพศ
2.ต้องการเงิน ปัญหาความยากจนเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กต้องขายตัว สำหรับเด็กที่เกิดในครอบครัวยากจนก็จะพยายามดิ้นรนที่จะหาเงินมาใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องและชำระหนี้สิน เด็กบางคนไม่ได้อยากจะทำเช่นนี้เลย แต่คิดว่าตนไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้จึงจำยอมต้องทำ เรามักจะเห็นอยู่บ่อยๆ ว่า เด็กที่เกิดในครอบครัวที่ยากจนแล้วรู้สึกว่าตนเองมีความทุกข์หาทางออกไม่ได้ หรือต้องการหนีปัญหา ก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะไปลักขโมย เป็นเด็กแว้น เด็กสก้อย ติดยาเสพติด และขายยาเสพติด และส่วนใหญ่เมื่อเข้าไปพัวพันกับสิ่งไม่ดีแล้วก็มักจะหนีไม่พ้นที่จะลงเอยด้วยการขายตัวด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็เป็นเรื่องน่าสลดใจที่ปัจจัยทางการเงินมีผลต่อเด็กอย่างมากจนถึงขั้นต้องมาขายบริการ
3.ค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคบริโภคนิยม ซึ่งส่งผลให้คนในสังคมทุกเพศทุกวัยต่างโหยหาบริโภคในสิ่งที่ฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่ล้ำสมัย สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นช่วงวัยแห่งการแสวงหาและต้องการเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป จึงต้องพยายามซื้อหาสิ่งของฟุ่มเฟือยมาอวดกัน ซึ่งถ้าฐานะของครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยไม่สามารถมีเงินมาให้เด็กนำไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ได้ จึงมีเด็กหลายคนสมัครใจยอมเข้าสู่วงจรของการขายบริการทางเพศ เพื่อที่จะมีเงินมาซื้อสิ่งของเหล่านี้ได้ โดยไม่คำนึงว่าการทำเช่นนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ ขอเพียงให้มีเงินเต็มกระเป๋าก็พอใจแล้ว อย่างที่เราเคยได้ยินว่ามีเด็กผู้หญิงบางคนยอมขายตัวเพื่อแลกกระเป๋าแบรนด์เนม รถหรู หรือเด็กผู้ชายบางคนยอมขายตัวเพื่อแลกกับโทรศัพท์มือถือ แท็บเลต หรือคอนโด
วิธีการแก้ไข
1.ควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการขายบริการ การล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืนกระทำชำเรา การอนาจาร โดยเพิ่มบทลงโทษให้มีความรุนแรงและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนมีความเกรงกลัวไม่กล้าทำผิดในเรื่องนี้อีก
2.ควรให้โรงเรียน สถานศึกษา สถาบันทางศาสนา เข้ามามีบทบาทในการอบรมสั่งสอนด้านศีลธรรมจริยธรรมให้แก่เด็กๆ และคนในสังคมหรือในชุมชนในเรื่องการไม่ส่ำส่อนทางเพศ การรักนวลสงวนตัว บาปของการประพฤติผิดในกาม อีกทั้งให้ความรู้ถึงโทษและโรคภัยที่เกิดจากการส่ำส่อนทางเพศ
3.สื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ ควรนำเสนอข่าวที่มีเนื้อหาในการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กและคนในสังคมมากกว่าการนำเสนอสิ่งที่มีเนื้อหาในการส่งเสริมความฟุ้งเฟ้อหรือค่านิยมที่ผิด และควรงดการนำเสนอสิ่งที่มีเนื้อหาส่อไปในทางลามกอนาจาร หรือไม่สนับสนุนบุคคลที่ประพฤติตนเสื่อมเสีย เพราะอาจเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กได้
ในปัจจุบันปัญหาเด็กขายบริการทางเพศนับว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นความเสียหายต่อตัวเด็กเอง ต่อครอบครัวและต่อสังคมแล้ว ก็ยังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อศีลธรรม วัฒนธรรม และภาพลักษณ์อันดีงามของประเทศชาติด้วย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ควรต้องคอยดูแลเอาใจใส่เด็กๆ ให้มาก อย่าให้เด็กๆของเราต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ไม่ควรทำนี้ เพื่อที่ปัญหาเด็กขายตัวจะลดน้อยลงและหมดไปจากสังคมไทยเสียที
