สบส.ตรวจเหตุไฟไหม้ รพ.พระราม 2 สั่งปิดบริการชั่วคราว เฉพาะห้องเกิดเหตุ ระบุยังไม่พบการทำผิดมาตรฐานสถานพยาบาล ประสานแพทยสภา-สภาการพยาบาลตรวจสอบมาตรฐานดูแลผู้ป่วย พร้อมร่อนหนังสือเตือน รพ.เอกชน ทุกแห่ง ซักซ้อมแผนอัคคีภัย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีเหตุไฟไหม้ รพ.พระราม 2 จนมีผู้ป่วยเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยขณะเกิดเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล มีทางหนีไฟ และทำตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะเข้าไปดู 3 ส่วนคือ ก่อนเพลิงไหม้ ขณะเกิดเพลิงไหม้ และหลังเกิดเพลิงไหม้มีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบมีการดำเนินการที่ผิดมาตรฐานสถานพยาบาล โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยโรคปอดและมีอาการดั้งเดิมไม่อยู่นิ่ง จึงจำเป็นต้องมีการมัดมือ มัดเท้าบางส่วน ซึ่งในวันเกิดเหตุแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจตามปกติ เมื่อได้กลิ่นควันก็ช่วยกันดับไฟในห้องดังกล่าวจนสามารถดับไฟได้ และพบผู้ป่วยเสียชีวิต
“ขณะนี้ได้ส่งศพให้นิติเวชทำการชันสูตร โดยไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงคนไข้เป็นหลัก และในช่วงที่เกิดเหตุโรงพยาบาลได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ในอาคารเดียวกับห้องที่เกิดเหตุออกทั้งหมด และได้ประสานขอความร่วมมือโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่อส่งต่อผู้ป่วย แต่เมื่อสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จึงได้นำผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในอาคารเช่นเดิม” รองอธิบดี สบส.กล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล ยอมรับว่านับเป็นแห่งแรกที่มีการเกิดขึ้น ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบของวิศวกรและสถาปนิกพบว่า ไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงผู้ป่วยเป็นหลัก มีเขม่าภายในห้อง จึงไม่เป็นปัญหาต่อโครงสร้างหลักของอาคาร เบื้องต้นจึงประสานให้โรงพยาบาลดังกล่าว ปิดให้บริการในส่วนที่เกิดเพลิงไหม้เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและจากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลมีการซักซ้อมแผนการเผชิญอัคคีภัยตามปกติ
“ตามหลักวิชาชีพหากผู้ป่วยมีอาการบางอย่างและจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษสามารถที่จะมัดมือมัดเท้าผู้ป่วยได้ จากนี้ สบส.จะส่งหนังสือเตือนไปยังโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้ดำเนินการซักซ้อมแผนเผชิญอัคคีภัยตามมาตรฐานที่กำหนด ส่วนกรณีโรงพยาบาลนี้จะทำหนังสือถึงสภาวิชาชีพ ทั้งแพทยสภาและสภาการพยาบาลในการเข้าตรวจสอบมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยต่อไป ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ต้องดำเนินการต่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ” รองอธิบดี สบส.กล่าว
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีเหตุไฟไหม้ รพ.พระราม 2 จนมีผู้ป่วยเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยขณะเกิดเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล มีทางหนีไฟ และทำตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะเข้าไปดู 3 ส่วนคือ ก่อนเพลิงไหม้ ขณะเกิดเพลิงไหม้ และหลังเกิดเพลิงไหม้มีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบมีการดำเนินการที่ผิดมาตรฐานสถานพยาบาล โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยโรคปอดและมีอาการดั้งเดิมไม่อยู่นิ่ง จึงจำเป็นต้องมีการมัดมือ มัดเท้าบางส่วน ซึ่งในวันเกิดเหตุแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจตามปกติ เมื่อได้กลิ่นควันก็ช่วยกันดับไฟในห้องดังกล่าวจนสามารถดับไฟได้ และพบผู้ป่วยเสียชีวิต
“ขณะนี้ได้ส่งศพให้นิติเวชทำการชันสูตร โดยไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงคนไข้เป็นหลัก และในช่วงที่เกิดเหตุโรงพยาบาลได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ในอาคารเดียวกับห้องที่เกิดเหตุออกทั้งหมด และได้ประสานขอความร่วมมือโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่อส่งต่อผู้ป่วย แต่เมื่อสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จึงได้นำผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในอาคารเช่นเดิม” รองอธิบดี สบส.กล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล ยอมรับว่านับเป็นแห่งแรกที่มีการเกิดขึ้น ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบของวิศวกรและสถาปนิกพบว่า ไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงผู้ป่วยเป็นหลัก มีเขม่าภายในห้อง จึงไม่เป็นปัญหาต่อโครงสร้างหลักของอาคาร เบื้องต้นจึงประสานให้โรงพยาบาลดังกล่าว ปิดให้บริการในส่วนที่เกิดเพลิงไหม้เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและจากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลมีการซักซ้อมแผนการเผชิญอัคคีภัยตามปกติ
“ตามหลักวิชาชีพหากผู้ป่วยมีอาการบางอย่างและจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษสามารถที่จะมัดมือมัดเท้าผู้ป่วยได้ จากนี้ สบส.จะส่งหนังสือเตือนไปยังโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้ดำเนินการซักซ้อมแผนเผชิญอัคคีภัยตามมาตรฐานที่กำหนด ส่วนกรณีโรงพยาบาลนี้จะทำหนังสือถึงสภาวิชาชีพ ทั้งแพทยสภาและสภาการพยาบาลในการเข้าตรวจสอบมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยต่อไป ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ต้องดำเนินการต่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ” รองอธิบดี สบส.กล่าว