ASTV ผู้จัดการรายวัน - เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องผู้ป่วยพิเศษในโรงพยาบาลพระราม 2 หลังเพลิงสงบ พบศพผู้ป่วยชายนอนถูกไฟคลอกเกือบทั้งตัว มีผ้ามัดมือเท้ากับเตียง ผอ.รพ. เผยคนไข้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง พยายามทำร้ายตัวเองต้องมัดมือเท้า ก่อนเกิดเหตุขอพยาบาลสูบบุหรี่แต่ไม่อนุญาต รอตำรวจพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ยันไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าคาดผู้ตายอาจสูบบุหรีแล้วเผลอหลับไป มากกว่าการตั้งใจฆ่าตัวตาย ด้าน สบส.ยัน รพ.พระราม 2 ได้มาตรฐาน
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. เวลา 23.40 น. มีรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลพระราม 2 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จุดเกิดเหตุเป็นอาคารสูง 6-7 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องผู้ป่วยพิเศษหมายเลข 405 ชั้น 4 ทางโรงพยาบาลต้องขนย้ายผู้ป่วยและเร่งดับเพลิงในเวลาไม่นานนักเพลิงจึงสงบลง
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชาย สภาพศพนอนอยู่บนเตียง มีผ้ามัดมือเท้ากับเตียง ถูกไฟไหม้ร้อยละ 90 ข้างศพมีสายปรับระดับเตียง สายเรียกพยาบาล ทางโรงพยาบาลได้ขอสงวนนาม และไม่ยืนยันว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ นอกจากนี้ ไม่ยืนยันว่าชายที่เสียชีวิตถูกมัดมือมัดเท้าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต หรือมัดไว้เพื่อป้องกันดึงสายน้ำเกลือ-เข็มหรือไม่
ขณะเดียวกัน ทางโรงพยาบาลได้ทำการอพยพผู้ป่วยในไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้เคียง พร้อมกับเร่งระบายควัน โดยมีรถเจ้าหน้าที่ร่วม 20 คันให้ความช่วยเหลือ
ต่อมาเวลา 01.45 น.วานนี้ (24 มี.ค.) นายแพทย์พีระ คณานุวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 แถลงข่าวระบุว่า คนไข้เป็นผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง เข้ารับการรักษาโดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค เข้า-ออกโรงพยาบาลหลายครั้ง ส่วนเหตุที่มีการผูกข้อมือและเท้าเพราะคนไข้พยายามทำร้ายตัวเอง
ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นต้นเพลิงมาจากเตียงคนไข้ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยพยาบาลเข้าตรวจอาการล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. คนไข้พยายามขอสูบบุหรี่ แต่พยาบาลไม่อนุญาต จากนั้นจึงเกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจที่เกิดเหตุ โดยยังไม่สรุปว่าคนไข้จุดไฟเองหรือไม่ เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าคนไข้ไม่ได้ผูกข้อมือด้านขวา
ขณะที่การช่วยเหลือคนไข้รายอื่นๆ นั้นได้ย้ายคนไข้บางส่วนไปโรงพยาบาลเพชรเกษม 1 และโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 แล้ว
*** สบส.ตรวจ รพ.พระราม 2 ยันไม่่ผิดมาตรฐาน
ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าสถึงกรณีเหตุไฟไหม้รพ.พระราม 2 จนมีผู้ป่วยเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ลงไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยขณะเกิดเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล มีทางหนีไฟ และทำตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะเข้าไปดู 3 ส่วนคือ ก่อนเพลิงไหม้ ขณะเกิดเพลิงไหม้ และหลังเกิดเพลิงไหม้มีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบมีการดำเนินการที่ผิดมาตรฐานสถานพยาบาล โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยโรคปอดและมีอาการดั้งเดิมไม่อยู่นิ่ง จึงจำเป็นต้องมีการมัดมือ มัดเท้าบางส่วน ซึ่งในวันเกิดเหตุแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจตามปกติ เมื่อได้กลิ่นควันก็ช่วยกันดับไฟในห้องดังกล่าวจนสามารถดับไฟได้ และพบผู้ป่วยเสียชีวิต
"ขณะนี้ได้ส่งศพให้นิติเวชทำการชันสูตร โดยไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงคนไข้เป็นหลัก และในช่วงที่เกิดเหตุโรงพยาบาลได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ในอาคารเดียวกับห้องที่เกิดเหตุออกทั้งหมด และได้ประสานขอความร่วมมือโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่อส่งต่อผู้ป่วย แต่เมื่อสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จึงได้นำผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในอาคารเช่นเดิม" รองอธิบดี สบส. กล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล ยอมรับว่านับเป็นแห่งแรกที่มีการเกิดขึ้น ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบของวิศวกรและสถาปนิกพบว่า ไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงผู้ป่วยเป็นหลัก มีเขม่าภายในห้อง จึงไม่เป็นปัญหาต่อโครงสร้างหลักของอาคาร เบื้องต้นจึงประสานให้โรงพยาบาลดังกล่าว ปิดให้บริการในส่วนที่เกิดเพลิงไหม้เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและจากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลมีการซักซ้อมแผนการเผชิญอัคคีภัยตามปกติ
“ตามหลักวิชาชีพหากผู้ป่วยมีอาการบางอย่างและจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษสามารถที่จะมัดมือ มัดเท้าผู้ป่วยได้ จากนี้ สบส.จะส่งหนังสือเตือนไปยังโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้ดำเนินการซักซ้อมแผนเผชิญอัคคีภัยตามมาตรฐานที่กำหนด ส่วนกรณีโรงพยาบาลนี้จะทำหนังสือถึงสภาวิชาชีพ ทั้งแพทยสภาและสภาการพยาบาลในการเข้าตรวจสอบมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยต่อไป ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ต้องดำเนินการต่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ” รองอธิบดี สบส. กล่าว
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. เวลา 23.40 น. มีรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลพระราม 2 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จุดเกิดเหตุเป็นอาคารสูง 6-7 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องผู้ป่วยพิเศษหมายเลข 405 ชั้น 4 ทางโรงพยาบาลต้องขนย้ายผู้ป่วยและเร่งดับเพลิงในเวลาไม่นานนักเพลิงจึงสงบลง
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชาย สภาพศพนอนอยู่บนเตียง มีผ้ามัดมือเท้ากับเตียง ถูกไฟไหม้ร้อยละ 90 ข้างศพมีสายปรับระดับเตียง สายเรียกพยาบาล ทางโรงพยาบาลได้ขอสงวนนาม และไม่ยืนยันว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ นอกจากนี้ ไม่ยืนยันว่าชายที่เสียชีวิตถูกมัดมือมัดเท้าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต หรือมัดไว้เพื่อป้องกันดึงสายน้ำเกลือ-เข็มหรือไม่
ขณะเดียวกัน ทางโรงพยาบาลได้ทำการอพยพผู้ป่วยในไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้เคียง พร้อมกับเร่งระบายควัน โดยมีรถเจ้าหน้าที่ร่วม 20 คันให้ความช่วยเหลือ
ต่อมาเวลา 01.45 น.วานนี้ (24 มี.ค.) นายแพทย์พีระ คณานุวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 แถลงข่าวระบุว่า คนไข้เป็นผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง เข้ารับการรักษาโดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค เข้า-ออกโรงพยาบาลหลายครั้ง ส่วนเหตุที่มีการผูกข้อมือและเท้าเพราะคนไข้พยายามทำร้ายตัวเอง
ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นต้นเพลิงมาจากเตียงคนไข้ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยพยาบาลเข้าตรวจอาการล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. คนไข้พยายามขอสูบบุหรี่ แต่พยาบาลไม่อนุญาต จากนั้นจึงเกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจที่เกิดเหตุ โดยยังไม่สรุปว่าคนไข้จุดไฟเองหรือไม่ เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าคนไข้ไม่ได้ผูกข้อมือด้านขวา
ขณะที่การช่วยเหลือคนไข้รายอื่นๆ นั้นได้ย้ายคนไข้บางส่วนไปโรงพยาบาลเพชรเกษม 1 และโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 แล้ว
*** สบส.ตรวจ รพ.พระราม 2 ยันไม่่ผิดมาตรฐาน
ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าสถึงกรณีเหตุไฟไหม้รพ.พระราม 2 จนมีผู้ป่วยเสียชีวิต ว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ลงไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยขณะเกิดเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล มีทางหนีไฟ และทำตามมาตรฐานหรือไม่ โดยจะเข้าไปดู 3 ส่วนคือ ก่อนเพลิงไหม้ ขณะเกิดเพลิงไหม้ และหลังเกิดเพลิงไหม้มีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบมีการดำเนินการที่ผิดมาตรฐานสถานพยาบาล โดยผู้ป่วยที่เสียชีวิตเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยโรคปอดและมีอาการดั้งเดิมไม่อยู่นิ่ง จึงจำเป็นต้องมีการมัดมือ มัดเท้าบางส่วน ซึ่งในวันเกิดเหตุแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจตามปกติ เมื่อได้กลิ่นควันก็ช่วยกันดับไฟในห้องดังกล่าวจนสามารถดับไฟได้ และพบผู้ป่วยเสียชีวิต
"ขณะนี้ได้ส่งศพให้นิติเวชทำการชันสูตร โดยไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงคนไข้เป็นหลัก และในช่วงที่เกิดเหตุโรงพยาบาลได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่พักรักษาตัวอยู่ในอาคารเดียวกับห้องที่เกิดเหตุออกทั้งหมด และได้ประสานขอความร่วมมือโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่อส่งต่อผู้ป่วย แต่เมื่อสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จึงได้นำผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในอาคารเช่นเดิม" รองอธิบดี สบส. กล่าว
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานพยาบาล ยอมรับว่านับเป็นแห่งแรกที่มีการเกิดขึ้น ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบของวิศวกรและสถาปนิกพบว่า ไฟไหม้ส่วนที่เป็นเตียงผู้ป่วยเป็นหลัก มีเขม่าภายในห้อง จึงไม่เป็นปัญหาต่อโครงสร้างหลักของอาคาร เบื้องต้นจึงประสานให้โรงพยาบาลดังกล่าว ปิดให้บริการในส่วนที่เกิดเพลิงไหม้เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและจากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลมีการซักซ้อมแผนการเผชิญอัคคีภัยตามปกติ
“ตามหลักวิชาชีพหากผู้ป่วยมีอาการบางอย่างและจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษสามารถที่จะมัดมือ มัดเท้าผู้ป่วยได้ จากนี้ สบส.จะส่งหนังสือเตือนไปยังโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้ดำเนินการซักซ้อมแผนเผชิญอัคคีภัยตามมาตรฐานที่กำหนด ส่วนกรณีโรงพยาบาลนี้จะทำหนังสือถึงสภาวิชาชีพ ทั้งแพทยสภาและสภาการพยาบาลในการเข้าตรวจสอบมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยต่อไป ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ต้องดำเนินการต่อโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ” รองอธิบดี สบส. กล่าว