xs
xsm
sm
md
lg

ตร.คาดผู้ป่วยเผลอสูบบุหรี่แล้วหลับ ทำไฟไหม้ รพ.พระราม 2 มากกว่าประเด็นฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)รูปจากมูลนิธิร่วมกตัญญู
ตำรวจคาดสาเหตุเพลิงไหม้ รพ.พระราม 2 จนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตคากองเพลิงนั้น ผู้ป่วยอาจสูบบุหรี่แล้วเผลอหลับไป แต่ยังไม่ด่วนสรุปรอผลตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์จากศริราชก่อนว่าในกระเพราะอาหารมียากล่อมประสาท หรือสารตกค้างหรือไม่ และตรวจว่าสำลักควันก่อนเสียชีวิตหรือไม่

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (24 มี.ค.) ที่โรงพยาบาลพระราม 2 ถ.พระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. นายคูณมี แสงสุรัตน์ ผู้ชำนาญการกลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ 7 นางกฤติมา วิญญูจิตร ผู้ชำนาญการสำนักความปลอดภัยแรงงาน นพ.พีระ คณานุวัฒน์ ผอ.ร.พ.พระราม 2 เจ้าหน้าที่สนับสนุนสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข และกลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ 7 ร่วมกันประชุมหารือในกรณีจากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้องพิเศษ 405 ชั้น 4 โรงพยาบาลพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.ขณะที่แพทย์และพยาบาลต้องช่วยอพยพผู้ป่วยทั้งหมดลงมายังจุดรวมพลบริเวณชั้น 1 พร้อมส่งชุดผจญเพลิงเข้าไปฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ก่อนจะเร่งทำการระบายควันออกจากตัวอาคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถูกไฟคลอกนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ที่บริเวณใบหน้ามีเครื่องช่วยหายใจต่อท่อคาอยู่ ที่บริเวณแขน และขา ทั้ง 4 ข้าง ถูกผ้ามัดติดกับเตียง ทราบชื่อต่อมาคือนายมาโนช เทพสงวน อายุ 42 ปี ผู้ป่วยโรคปอดเมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา

นพ.พีระ กล่าวว่า ระบบการรักษาความปลอดภัยทางโรงพยาบาลได้ใช้แบบตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ซึ่งที่ชั้น 4 ได้มีการปรับปรุงฝ้าเพดานจึงต้องถอดกล้องวงจรปิดและอุปกรณ์ตรวจจับความร้อนออกไปก่อน จึงไม่มีสัญญาณตรวจจับความร้อน และจากตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าผู้เสียชีวิตได้หันตัวไปทางด้านซ้าย และจุดเกิดเหตุอยู่แค่บนเตียงเท่านั้น ส่วนที่ได้รับความเสียหายมีเพียงเพดานของห้องเท่านั้น ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากการสูบบุหรี่หรือไม่ โดยปกติทางโรงพยาบาลมีมาตรการป้องกันคนไข้ที่สูบบุหรี่ภายในห้องอยู่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะทำการยึดบุหรี่ของคนไข้ไว้ถ้าหากคนไข้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อใดจะคืนให้ นอกจากนี้ได้มีการติดสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ในทั่วโรงพยาบาลตามกฎกระทรวงสาธารณสุขด้วย แต่ถ้าคนไข้จะนำบุหรี่เข้ามาสูบแล้วแอบซ่อนไว้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ อย่างไรก็ตามต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ (พฐ.) ตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท ผกก.สน.ท่าข้าม กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติคนไข้ทราบว่าคนไข้เข้ามารักษาโรควัณโรคเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมากับเพื่อนจำนวน 2 คน และในช่วงบ่ายของวันที่ 22 มี.ค.ได้มีเพื่อนของผู้ตายเข้ามาเยี่ยม คาดว่าเพื่อนที่มาเยี่ยมคงจะซื้อบุหรี่เข้ามาเยี่ยม เนื่องจากพบเศษพลาสติกห่อไฟแช็กตกอยู่บริเวณข้างเตียง ซึ่งปกติแล้วผู้ตายเป็นคนสูบบุหรี่อยู่แล้ว ซึ่งนอกระเบียงได้พบก้นบุหรี่ตกอยู่หลายอัน ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้สันนิษฐานว่าผู้ตายคงสูบบุหรี่แล้วเผลอหลับไปแล้วทำให้ไฟจากบุหรี่ไหม้ที่นอน แต่ถ้าเป็นการฆ่าตัวตายก็ไม่น่าจะเป็นได้ เนื่องจากว่าสภาพศพที่เจอเหมือนไม่มีการดิ้นทุรนทุราย ต้องตรวจสอบประวัติพยาบาลว่ามีการให้ยากล่อมประสาทหรือไม่ ก่อนเกิดประมาณ 5 ทุ่มพยาบาลได้เข้ามาวัดความดันและให้นม โดยปกติจะเข้ามาดูแลคนไข้ทุกครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ ได้เก็บของใช้ส่วนตัวของผู้ตายไปตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจสอบของ พฐ.อีกครั้ง และต้องรอผลการชนสูตรศพจากแพทย์ รพ.ศิริราช ว่าคนตายมีสารตกค้างจากยากล่อมประสาทด้วยหรือไม่ และตรวจสอบด้วยว่าผู้ตายสำลักควันก่อนตายหรือว่าถูกไฟคลอกก่อนตาย

ความคืบหน้าล่าสุดนายแพทย์พีระ คณานุวัฒ ผู้อำนวยการ รพ.พระราม 2 พร้อมด้วย ร.ต.ท.เฉลียว วอกลาง พนักงานสอบสวนสน.ท่าข้ามและคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระราม 2 ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าจากกรณีที่มีแพลิงไหม้ปริศนาภายในห้องคนไข้ ของโรงพยาบาลพระราม 2 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นคนไข้ 1รายเมื่อกลางดึกวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดขญะนี้พบหลักฐานชิ้นสำคัญคือเศษชิ้นส่วนของไฟแช็คที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิงก่อนจะสรุปว่าสาเหตุของเพลิงไหม้อาจเกิดมาจากตัวผู้เสียชีวิตเอง
นายแพทย์ พีระกล่าวว่าจากการตรวจหาหลักฐานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและพนักงานสอบสวนสน.ท่าข้ามภายหลังเกิดเหตุไม่พบชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิงแต่อย่างใดจนกระทั้งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนสน.ท่าข้ามเข้าร่วมตรวจสอบอีกครั้งพร้อมคณะแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลโดยใช้แม่เหล็กเขี่ยไปตามบริเวณบนเตียงจนพบเศษชิ้นส่วนเหล็กซึ่งเป็นชิ้นส่วนของไฟแช็คอยู่บริเวณ จุดกลางของต้นเพลิงซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญอย่างมากอีกทั้งยังตรงกับผลของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ลักฐานที่ว่าไฟค่อยๆลุกลามจากจุดเล็กบนผ้าปูที่นอนก่อนจะขยายออกมาเป็นวงกว้างจึงยืนยันได้ว่าสาเหตุของเพลิงไหม้จะเกิดจากตัวคนไข้เองโดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 22.00น.พยาบาลได้เดินเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักของผู้ป่วยตามปกติแต่กลับพบว่า มือด้านขวาของผู้ป่วยนั้นได้หลุดออกจากผ้าที่มัดไวอีกทั้งคนไข้ยังชูแขนขวาขึ้นมาก่อนจะพูดกับพยาบาลว่าสามารถแก้ผ้าออกมาได้แล้วดังนั้นจึงยืนยันว่าก่อนเสียชีวิตมือขวาของผู้เสียชีวิตเป็นอิสระแต่ทางพยาบาลไม่ได้เข้าไปมัดใหม่เนื่องจากเข้าไปตรวจเพียงคนเดียวจึงเกรงกลัวว่าคนไข้จะทำร้ายได้เนื่องจากคนไข้มีประวัติทางประสาทภายหลังจากที่เข้าทำการรักษาตั้งแต่วันที่ 21มี.คที่ผ่านมามีรายงานจากเจ้าหน้าที่พยาบาลว่าคนไข้เริ่มมีอาการทางประสาท ข่มขู่พยาบาลเสียดังโวยวาย รบกวนคนไข้คนอื่นๆ ทางทีมแพทย์จึงได้ตัดสินใจ มีคำสั่งให้ใช้ผ้ามัดที่แขนและขาอย่างหลวมๆเป็นครั้งคร่าวเพื่อให้เพียงให้ขยับลำบากและไม่ลุกหนีไปไม่ได้ในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ และได้สั่งฉีดยากล่อมประสาท ในช่วงเวลา 21.00น.คืนเกิดเหตุ จึงอาจเป็นไปได้ว่าคนไข้ได้มีการแอบสูบบุหรี่ภายในห้องพัก เป็นขณะเดียวกับที่ยากล่อมประสาท ได้ออกฤทธิ์ทางประสาทจนเผลอหลับจนทำให้บุหรี่ค่อยๆลุกติดกับผ้าปูเตียงอย่างช้าๆตรงกับผลผ่าพิสูจน์เบื้องต้นของแพทย์พบว่าภายในปอดมี เศษคาร์บอนในปอดจึงยืนยันได้ว่าคนไข้เสียชีวิตจากการสำลักควันไฟไม่ได้เสียชีวิตก่อนเหตุเพลิงไหม้
นายแพทย์พีระกล่าวต่อว่า มีพยานยืนยันหลายคนว่าผู้ป่วยเคยและพยามสูบบุหรี่ภายในโรงพยาบาลหลายครั้ง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน้าโรงพยาบาลเห็นคนไข้ ยืนอยู่ภายนอกระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ก่อนจะตะโกนต่อว่าคนไข้ ส่วนบุหรี่และไฟแช็คนั้นคนไข้นำมาจากที่ใดนั้นทางโรงพยาบาลได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ในวันที่21มี.ค.เมื่อคนไข้เข้ารับการรักษาไม่พบ ไฟแช็คและบุหรี่แต่อย่างใดอาจเป็นไปได้ว่าคนไข้จะนำมาจากเพื่อนที่มาเยี่ยมในช่วงเช้าของวันที่ 22วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปตรวจสอบซ้ำ

ด้าน ร.ต.ท.เฉลียวกล่าวว่า จากการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุอย่างละเอียด นอกจากจะพบเศษชิ้นส่วนไฟแช็คบนเตียงและยังพบก้นบุหรี่ยี่ห้อเดียวกัน ชนิดเดียวกันบริเวณระเบียงห้องของคนไข้จึงได้นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นของผู้เสียชีวิตหรือไม่อย่างไรก็ตามจะต้องรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเพลิงของเพลิงไหม้ก่อรจะสามารถสรุปคดีได้
(แฟ้มภาพ)รูปจากมูลนิธิร่วมกตัญญู
กำลังโหลดความคิดเห็น