กรมอนามัยสำรวจกองขยะเสี่ยงไฟไหม้ทั่วประเทศ จ่อชงใช้งบท้องถิ่นแต่ละแห่งปรับเป็นสวนสาธารณะถวาย “ในหลวง” เผยเตรียมออกกฎกระทรวงดันเก็บค่าบำบัดขยะ แก้ปัญหาขยะล้นเมือง
จากกรณีไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา จ.สมุทรปราการ ล่าสุด นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า คณะกรรมการ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มีมติให้กรมอนามัยไปสำรวจว่าทั่วประเทศมีกองขยะเสี่ยงเกิดไฟไหม้กี่แห่ง หากได้จำนวนที่แน่ชัดแล้วจะนำเสนอเข้าบอร์ดทำแผน และมอบให้แต่ละจังหวัดนำบ่อขยะไปปรับเป็นสวนสาธารณะถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น สวนหลวง ร.9 เป็นต้น โดยขอให้ใช้งบประมาณจากท้องถิ่นซึ่งมีอยู่แล้ว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีมติที่จะให้ออกกฎกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ของแต่ละพื้นที่เก็บค่าบำบัดขยะด้วย โดยเก็บตามน้ำหนักของขยะ แต่บ้านใดน้ำหนักขยะไม่เกิน 4 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะสาเหตุที่ทำให้ขยะล้นเมืองจนถึงทุกวันนี้ คือไม่มีการเก็บเงินค่าบำบัดขยะ มีเพียงเก็บเงินค่าเก็บขยะเท่านั้น ทั้งที่ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 กับ พ.ร.บ.การพัฒนาท้องถิ่น นั้นระบุว่าต้องมีค่าบำบัดขยะด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการอบรมชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการแยกขยะระดับครัวเรือนก่อน
“การเรียกเก็บค่าบำบัดขยะมีแนวคิดมาสักระยะแล้ว แต่ต้องรอให้มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ รมว.สาธารณสุขคนใหม่ก่อน เพื่อนำเรื่องเข้า ครม.และออกเป็นกฎกระทรวง เทศบาลจะได้นำไปออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อเก็บค่าบำบัดขยะได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการการสาธารณสุขระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ตั้งแล้ว 32 จังหวัด และตั้งเป้าว่าจะตั้งให้ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยเมื่อชาวบ้านได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมก็สามารถร้องเรียนได้ หากตรวจสอบแล้วพบมีผู้กระทำความผิดจริง จะมีโทษจำคุก 1 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
จากกรณีไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา จ.สมุทรปราการ ล่าสุด นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า คณะกรรมการ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มีมติให้กรมอนามัยไปสำรวจว่าทั่วประเทศมีกองขยะเสี่ยงเกิดไฟไหม้กี่แห่ง หากได้จำนวนที่แน่ชัดแล้วจะนำเสนอเข้าบอร์ดทำแผน และมอบให้แต่ละจังหวัดนำบ่อขยะไปปรับเป็นสวนสาธารณะถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น สวนหลวง ร.9 เป็นต้น โดยขอให้ใช้งบประมาณจากท้องถิ่นซึ่งมีอยู่แล้ว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีมติที่จะให้ออกกฎกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ของแต่ละพื้นที่เก็บค่าบำบัดขยะด้วย โดยเก็บตามน้ำหนักของขยะ แต่บ้านใดน้ำหนักขยะไม่เกิน 4 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะสาเหตุที่ทำให้ขยะล้นเมืองจนถึงทุกวันนี้ คือไม่มีการเก็บเงินค่าบำบัดขยะ มีเพียงเก็บเงินค่าเก็บขยะเท่านั้น ทั้งที่ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 กับ พ.ร.บ.การพัฒนาท้องถิ่น นั้นระบุว่าต้องมีค่าบำบัดขยะด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการอบรมชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการแยกขยะระดับครัวเรือนก่อน
“การเรียกเก็บค่าบำบัดขยะมีแนวคิดมาสักระยะแล้ว แต่ต้องรอให้มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ รมว.สาธารณสุขคนใหม่ก่อน เพื่อนำเรื่องเข้า ครม.และออกเป็นกฎกระทรวง เทศบาลจะได้นำไปออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อเก็บค่าบำบัดขยะได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการการสาธารณสุขระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ตั้งแล้ว 32 จังหวัด และตั้งเป้าว่าจะตั้งให้ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยเมื่อชาวบ้านได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมก็สามารถร้องเรียนได้ หากตรวจสอบแล้วพบมีผู้กระทำความผิดจริง จะมีโทษจำคุก 1 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
