เยาวชนสอนมวยผู้ใหญ่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง จวกนักการเมืองไม่รู้จักบทบาทตัวเอง ชี้ชัดเป็นแค่ผู้แทน ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ สุดท้ายประเทศไทยจะกลายเป็นระบอบ “ม็อบลิซึม” วอนทุกฝ่ายรับฟังกันและกัน อย่าอคติพัฒนาประเทศ
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตนมีโอกาสเข้าร่วมเวทีอภิปรายการพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของสถาบัน National Democratic Institute (NDI) มีเยาวชนจากจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ใน กทม.เข้าร่วมกว่า 100 คน พบว่า ความคิดเห็นทางการเมืองของเยาวชนปัจจุบัน มีความคิดเห็นที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์อย่างมากในการที่รัฐบาล พรรคการเมือง ควรจะต้องมานั่งรับฟัง ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบไปถึงนักเรียน นักศึกษา ในหลายจังหวัด
นายพชรพรรษ์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่เยาวชนพูดถึงโดยมากคือ เยาวชนมองการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยและการเมืองในประเทศปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ในประเด็นนี้เยาวชนแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย แต่มีทิศทางไปในรูปแบบเดียวกัน คืออยากให้ทั้งรัฐบาล ผู้ชุมนุม หันหน้าเข้าหารือเจรจากัน อย่านำคำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ ใน 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็มีการตั้งเวทีชุมนุมล้มรัฐบาลในทุกรัฐบาล ซึ่งตรงนี้หากเรารับฟังเสียงส่วนใหญ่ เคารพเสียงส่วนน้อยก็คงไม่มีปัญหา ส่วนอุปสรรคในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยหนีไม่พ้นเรื่อง “นักการเมือง” บางคนยังไม่รู้บทบาทของอาชีพตนเอง ว่าตนเองนั้นเป็นผู้แทนของประชาชน ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ ความเข้าใจของคำว่าประชาธิปไตยแตกต่างกันไปตามชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ สุดท้ายคือวงจรปีศาจที่มีการชุมนุมบ่อยครั้ง จนประเทศไทยกลายเป็นระบอบ “ม็อบลิซึม”
“หากรัฐบาล พรรคการเมือง หรือกลุ่มผู้ชุมนุม ทุกกลุ่มเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คงจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้ อยากให้ทุกฝ่ายรับฟังเสียงของกันและกัน อย่าอคติในการพัฒนาประเทศ ถึงเวลาแล้วที่นักการเมือง จะต้องลดผลประโยชน์ของตนเอง และหันกลับมาพัฒนาประเทศไทยของเรา ให้เป็นเมืองที่มีแต่รอยยิ้ม มีความสุขดังเช่นที่เคยเป็น” นายพชรพรรษ์ กล่าว
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตนมีโอกาสเข้าร่วมเวทีอภิปรายการพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของสถาบัน National Democratic Institute (NDI) มีเยาวชนจากจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ใน กทม.เข้าร่วมกว่า 100 คน พบว่า ความคิดเห็นทางการเมืองของเยาวชนปัจจุบัน มีความคิดเห็นที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์อย่างมากในการที่รัฐบาล พรรคการเมือง ควรจะต้องมานั่งรับฟัง ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบไปถึงนักเรียน นักศึกษา ในหลายจังหวัด
นายพชรพรรษ์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่เยาวชนพูดถึงโดยมากคือ เยาวชนมองการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยและการเมืองในประเทศปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ในประเด็นนี้เยาวชนแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย แต่มีทิศทางไปในรูปแบบเดียวกัน คืออยากให้ทั้งรัฐบาล ผู้ชุมนุม หันหน้าเข้าหารือเจรจากัน อย่านำคำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ ใน 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็มีการตั้งเวทีชุมนุมล้มรัฐบาลในทุกรัฐบาล ซึ่งตรงนี้หากเรารับฟังเสียงส่วนใหญ่ เคารพเสียงส่วนน้อยก็คงไม่มีปัญหา ส่วนอุปสรรคในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยหนีไม่พ้นเรื่อง “นักการเมือง” บางคนยังไม่รู้บทบาทของอาชีพตนเอง ว่าตนเองนั้นเป็นผู้แทนของประชาชน ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ ความเข้าใจของคำว่าประชาธิปไตยแตกต่างกันไปตามชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจ สุดท้ายคือวงจรปีศาจที่มีการชุมนุมบ่อยครั้ง จนประเทศไทยกลายเป็นระบอบ “ม็อบลิซึม”
“หากรัฐบาล พรรคการเมือง หรือกลุ่มผู้ชุมนุม ทุกกลุ่มเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คงจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้ อยากให้ทุกฝ่ายรับฟังเสียงของกันและกัน อย่าอคติในการพัฒนาประเทศ ถึงเวลาแล้วที่นักการเมือง จะต้องลดผลประโยชน์ของตนเอง และหันกลับมาพัฒนาประเทศไทยของเรา ให้เป็นเมืองที่มีแต่รอยยิ้ม มีความสุขดังเช่นที่เคยเป็น” นายพชรพรรษ์ กล่าว