“อ๋อย” ลั่น รบ.พ้นสภาพได้เมื่อศาล รธน.สั่ง-รัฐประหาร ดักคอ ผบ.ทบ.ศาล รธน.บ้าระห่ำกล้าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ระบุไม่มีรัฐบาลชุดใหม่ต้องทำหน้าที่รักษาการต่อ ย้ำเรื่องนี้ไม่จบ อย่าหวังศาลวินิจฉัยครบ 30 วัน ครม.ต้องออกแบบง่ายๆ
วันนี้ (3 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลรักษาการของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะหมดหน้าที่ในวันที่ 4 มี.ค.ว่า ข้อกำหนดให้เปิดประชุมรัฐสภาภายใน 30 วันหลังจากมีการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.นั้น เป็นข้อกำหนดในการเลือกตั้งปกติ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ปกติมีปัญหาขัดขวางการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งไม่แล้วเสร็จ จึงต้องมาดูรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้อง ว่าจะต้องมีการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันซึ่งก็ต้องดูว่า กกต.จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งแล้วเสร็จตามที่กำหนด และเมื่อยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่รัฐบาลชุดนี้ต้องรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง หากจะมี ครม.อื่นมารับหน้าที่ได้โดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็จะเกิดได้สองทางเท่านั้น คือ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ครม.ปัจจุบันพ้นหน้าที่ไป และมีการทำรัฐประหาร
" ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ครม.ชุดปัจจุบันพ้นหน้าที่ผมก็จะไม่ทำหน้าที่ รมว.ศธ.ต่อ แต่ก็ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกล้าวินิจฉัยไปในทางที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นเรื่องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่บ้าระห่ำถึงขั้นวินิจฉัยแบบขัดรัฐธรรมนูญ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทบ.) ไม่บ้าระห่ำทำรัฐประหาร ครม.ชุดปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ต่อไป ผมก็จะทำหน้าที่ รมต.ศึกษาฯต่อไป จนกว่าจะมี ครม.ใหม่ที่มาจากการลือกตั้ง ดังนั้นใครที่คิดว่าเรื่องจะจบเร็วๆ ก็ ควรจะเข้าใจว่าจะไม่จบง่ายๆ จะหวังว่าเดี๋ยวศาลก็วินิจฉัยออกมาว่าครบ 30 วันแล้ว ครม.ชุดนี้ก็จะต้องออกไปแบบง่ายจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน” ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามหากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล และศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคนอืิ่นๆ ก็จะยังอยู่ ตนก็จะทำงานต่อไม่ใช่ต้องพ้นตามไปด้วย
ต่อข้อถามว่าการแสดงความเห็นนี้จะเป็นการพูดดักคอศาลรัฐธรรมนูญ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐมนตรีก็มีสิทธิ์พูดดักคอและวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องใช้อำนาจหน้าที่ก้าวก่ายศาลรัฐธรรมนูญ แต่ใช้สิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์
วันนี้ (3 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลรักษาการของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะหมดหน้าที่ในวันที่ 4 มี.ค.ว่า ข้อกำหนดให้เปิดประชุมรัฐสภาภายใน 30 วันหลังจากมีการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ.นั้น เป็นข้อกำหนดในการเลือกตั้งปกติ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ปกติมีปัญหาขัดขวางการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งไม่แล้วเสร็จ จึงต้องมาดูรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้อง ว่าจะต้องมีการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันซึ่งก็ต้องดูว่า กกต.จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งแล้วเสร็จตามที่กำหนด และเมื่อยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่รัฐบาลชุดนี้ต้องรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง หากจะมี ครม.อื่นมารับหน้าที่ได้โดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็จะเกิดได้สองทางเท่านั้น คือ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ครม.ปัจจุบันพ้นหน้าที่ไป และมีการทำรัฐประหาร
" ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ครม.ชุดปัจจุบันพ้นหน้าที่ผมก็จะไม่ทำหน้าที่ รมว.ศธ.ต่อ แต่ก็ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะกล้าวินิจฉัยไปในทางที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นเรื่องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่บ้าระห่ำถึงขั้นวินิจฉัยแบบขัดรัฐธรรมนูญ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทบ.) ไม่บ้าระห่ำทำรัฐประหาร ครม.ชุดปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ต่อไป ผมก็จะทำหน้าที่ รมต.ศึกษาฯต่อไป จนกว่าจะมี ครม.ใหม่ที่มาจากการลือกตั้ง ดังนั้นใครที่คิดว่าเรื่องจะจบเร็วๆ ก็ ควรจะเข้าใจว่าจะไม่จบง่ายๆ จะหวังว่าเดี๋ยวศาลก็วินิจฉัยออกมาว่าครบ 30 วันแล้ว ครม.ชุดนี้ก็จะต้องออกไปแบบง่ายจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน” ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามหากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล และศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคนอืิ่นๆ ก็จะยังอยู่ ตนก็จะทำงานต่อไม่ใช่ต้องพ้นตามไปด้วย
ต่อข้อถามว่าการแสดงความเห็นนี้จะเป็นการพูดดักคอศาลรัฐธรรมนูญ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐมนตรีก็มีสิทธิ์พูดดักคอและวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องใช้อำนาจหน้าที่ก้าวก่ายศาลรัฐธรรมนูญ แต่ใช้สิทธิ์ในการวิพากษ์วิจารณ์