กรมอนามัยทำคู่มือเลี้ยงลูกไม่ให้อ้วนสำหรับคุณแม่มือใหม่ และลูกน้อย ผุดโปรเจกต์จับเด็กว่ายน้ำตั้งแต่ 3 เดือน หลังพบไอเดียจากจีน เริ่มแล้วที่ศูนย์อนามัยโคราช หวังสกัดเด็กอ้วนสร้างปัญหาให้ประเทศ
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันพบนักเรียนชั้นประถมศึกษาของไทยประมาณ 1 ใน 5 มีภาวะอ้วน และมีแนวโน้มอ้วนเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากการเลี้ยงดูและค่านิยมที่ผิด เพราะผู้ปกครองคิดว่าเด็กอ้วนท้วมเป็นเด็กที่น่ารัก จึงให้เด็กกินขนมหวานและขนมกรุบกรอบ ส่งผลให้เด็กกลุ่มที่มีภาวะอ้วน ตั้งแต่อายุยังน้อย และ 1 ใน 4 ของเด็กกลุ่มจ้ำม่ำตั้งแต่ชั้นประถมจะมีภาวะอ้วนไปตลอดชีวิต และเมื่อปล่อยให้อ้วนมาถึงชั้นมัธยมจะมีโอกาสเป็นผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างอ้วนได้ถึง 3 ใน 4 การแก้ปัญหาจึงต้องแก้ตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มจากผู้ปกครองที่ต้องมีการฝึกบุตรกินอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะการกินผักและผลไม้ ซึ่งผู้ปกครองต้องเป็นตัวอย่างให้บุตร ทั้งการออกกำลังกายและการกินผักผลไม้
นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า กรมอนามัยเห็นถึงความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ด้วยการกระตุ้นแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ว่าจะเลี้ยงบุตรอย่างไรเมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว ผ่านหลักสูตรเกี่ยวกับโภชนาการอาหารที่จะใส่เข้าไปไว้ในสมุดฝากครรภ์ของแม่ โดยการทำหลักสูตรนั้นจะแบ่งเป็น 2 คู่มือ คือ คู่มือสำหรับแม่ และคู่มือสำหรับลูก โดยเนื้อหาในหลักสูตรจะมีการระบุว่า ควรมีการปรุงอาหารแบบใดให้บุตรบ้าง โดยจะแบ่งอาหารที่ควรรับประทานในแต่ละช่วงวัยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ในหลักสูตรยังจะมีการบอกถึงโรคและโทษของเด็กอ้วนอย่างชัดเจน เช่น เด็กอ้วนมีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าเด็กปกติ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีหลักสูตรลักษณะนี้ออกมาบ้างแล้ว แต่เนื้อหาจะไม่เข้มข้นเท่าของใหม่นี้ และคาดว่าหลักสูตรดังกล่าวจะเสร็จภายในปีนี้
“จากการดูงานที่จีนพบว่า จีนมีเด็กอ้วนน้อยมาก เนื่องจากพอเด็กเข้าอนุบาลทางโรงเรียนก็จะจัดให้เด็กว่ายน้ำให้ได้สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง ผมจึงนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้กับเด็กไทย ขณะนี้ได้มีการเริ่มทำศูนย์สาธิตสอนเด็กตั้งแต่ 3 เดือนให้ว่ายน้ำแล้วที่ศูนย์อนามัย จ.โคราช โดยในการว่ายน้ำนั้น จะใช้เครื่องชูชีพใส่ให้กับเด็ก ซึ่งจะมีลักษณะที่เป็นห่วงยาง เมื่อใส่แล้วจะคล้ายการใส่ผ้ากันเปื้อนซึ่งมีความปลอดภัย ส่วนเรื่องสระว่ายน้ำนั้นจะใช้สระว่ายน้ำแบบพลาสติกแทน ซึ่งมีราคาถูก” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า การออกมากระตุ้นและให้ความรู้ผู้ปกครองนั้นก็เพื่อให้ผู้ปกครองมีความตระหนัก เนื่องจากคาดว่าในอนาคตโรคอ้วนในเด็กจะเป็นปัญหาของประเทศ ดังนั้นจึงต้องให้ความรู้อย่างจริงจังเพราะไม่เช่นนั้นคนไทย 1 ใน 4 จะกลายเป็นคนอ้วนและมีโรคต่างๆ ตามมา
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันพบนักเรียนชั้นประถมศึกษาของไทยประมาณ 1 ใน 5 มีภาวะอ้วน และมีแนวโน้มอ้วนเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากการเลี้ยงดูและค่านิยมที่ผิด เพราะผู้ปกครองคิดว่าเด็กอ้วนท้วมเป็นเด็กที่น่ารัก จึงให้เด็กกินขนมหวานและขนมกรุบกรอบ ส่งผลให้เด็กกลุ่มที่มีภาวะอ้วน ตั้งแต่อายุยังน้อย และ 1 ใน 4 ของเด็กกลุ่มจ้ำม่ำตั้งแต่ชั้นประถมจะมีภาวะอ้วนไปตลอดชีวิต และเมื่อปล่อยให้อ้วนมาถึงชั้นมัธยมจะมีโอกาสเป็นผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างอ้วนได้ถึง 3 ใน 4 การแก้ปัญหาจึงต้องแก้ตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มจากผู้ปกครองที่ต้องมีการฝึกบุตรกินอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะการกินผักและผลไม้ ซึ่งผู้ปกครองต้องเป็นตัวอย่างให้บุตร ทั้งการออกกำลังกายและการกินผักผลไม้
นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า กรมอนามัยเห็นถึงความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ด้วยการกระตุ้นแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ว่าจะเลี้ยงบุตรอย่างไรเมื่อลูกคลอดออกมาแล้ว ผ่านหลักสูตรเกี่ยวกับโภชนาการอาหารที่จะใส่เข้าไปไว้ในสมุดฝากครรภ์ของแม่ โดยการทำหลักสูตรนั้นจะแบ่งเป็น 2 คู่มือ คือ คู่มือสำหรับแม่ และคู่มือสำหรับลูก โดยเนื้อหาในหลักสูตรจะมีการระบุว่า ควรมีการปรุงอาหารแบบใดให้บุตรบ้าง โดยจะแบ่งอาหารที่ควรรับประทานในแต่ละช่วงวัยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ในหลักสูตรยังจะมีการบอกถึงโรคและโทษของเด็กอ้วนอย่างชัดเจน เช่น เด็กอ้วนมีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าเด็กปกติ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีหลักสูตรลักษณะนี้ออกมาบ้างแล้ว แต่เนื้อหาจะไม่เข้มข้นเท่าของใหม่นี้ และคาดว่าหลักสูตรดังกล่าวจะเสร็จภายในปีนี้
“จากการดูงานที่จีนพบว่า จีนมีเด็กอ้วนน้อยมาก เนื่องจากพอเด็กเข้าอนุบาลทางโรงเรียนก็จะจัดให้เด็กว่ายน้ำให้ได้สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง ผมจึงนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้กับเด็กไทย ขณะนี้ได้มีการเริ่มทำศูนย์สาธิตสอนเด็กตั้งแต่ 3 เดือนให้ว่ายน้ำแล้วที่ศูนย์อนามัย จ.โคราช โดยในการว่ายน้ำนั้น จะใช้เครื่องชูชีพใส่ให้กับเด็ก ซึ่งจะมีลักษณะที่เป็นห่วงยาง เมื่อใส่แล้วจะคล้ายการใส่ผ้ากันเปื้อนซึ่งมีความปลอดภัย ส่วนเรื่องสระว่ายน้ำนั้นจะใช้สระว่ายน้ำแบบพลาสติกแทน ซึ่งมีราคาถูก” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า การออกมากระตุ้นและให้ความรู้ผู้ปกครองนั้นก็เพื่อให้ผู้ปกครองมีความตระหนัก เนื่องจากคาดว่าในอนาคตโรคอ้วนในเด็กจะเป็นปัญหาของประเทศ ดังนั้นจึงต้องให้ความรู้อย่างจริงจังเพราะไม่เช่นนั้นคนไทย 1 ใน 4 จะกลายเป็นคนอ้วนและมีโรคต่างๆ ตามมา
