การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่ง ตามพระพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ ขณะเดียวกัน การได้เกิดมาว่ายากแล้ว การดำรงชีวิตให้ยืนยาวก็ยากยิ่งไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ที่ยากจะคาดเดาได้ว่ามันจะมาเยี่ยมเยือนเราตอนไหน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำ ควรสุขภาพตั้งแต่วันนี้
นพ.ยงยุทธ คงธนารัตน์ แพทย์ประจำศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาลเจ้าพระยา กล่าวถึงความจำเป็นในการที่เราต้องไปตรวจสุขภาพว่า ร่างกายคนเรามีความพิเศษแตกต่างจากรถราที่ถ้ามีปัญหา มักจะส่งเสียงหรือส่งสัญญาณบอก แต่สำหรับร่างกายมนุษย์ ถึงแม้น้ำตาลจะสูงถึง 150 คุณก็จะไม่มีอาการ คุณไม่รู้ เพราะมันไม่ส่งสัญญาณ แต่มันจะส่งก็ตอนที่เส้นเลือดอุดตันแล้ว หรือเวียนศีรษะมากแล้ว ตาหรือไตเสียแล้ว ซึ่งรู้ตอนนั้นก็เหมือนเครื่องยนต์ไม่ได้เปลี่ยนมาสามปี เปลี่ยนใหม่ก็ช่วยไม่ได้
“หลายคนถามว่า แล้วเราจะตรวจต้องไปตรวจสุขภาพเมื่อไหร่ จริงๆ แล้ว เราตรวจสุขภาพตั้งแต่เด็ก อย่างเราพาลูกน้อยไปหาหมอเรื่อยๆ ตั้งแต่แรกเกิด แต่เราไม่เรียกว่าเป็นการตรวจสุขภาพ อย่างไรก็ดี พอถึงวัยหนุ่มสาวก็อาจจะได้เปรียบหน่อยตรงที่เหมือนเครื่องยนต์กำลังดี เสียก็ไม่เท่าไหร่ ปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ ยกเว้นแต่คนที่มีประวัติ เช่น พ่อแม่พี่น้องเป็นโรครุนแรง แต่โดยรวม ตรวจปีละครั้งก็ถือว่าเพียงพอ”
นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มโรคหลักๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจก็คือ น้ำตาลในเลือดเราเยอะหรือเปล่า ไตเราเสียหรือเปล่า ตับของเรายังดีอยู่ไหม เจาะเลือดดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เอกซเรย์ปอด ซึ่งถือเป็นโปรแกรมของการตรวจโรคขั้นพื้นฐานทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าเน้นเฉพาะเจาะจงลงไปที่ผู้หญิง ส่วนมากจะมีความกังวลเกี่ยวกับสองโรคหลักๆ คือ มะเร็งเต้านม กับมะเร็งปากมดลูก นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องการตรวจมะเร็งปากมดลูก สำหรับคนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยหรือเคยมีแฟนมาหลายคน ก็อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นๆ ในการที่จะได้รับเชื้อเอชพีวี (HPV) ผู้หญิงกลุ่มนี้จำเป็นต้องตรวจ ยิ่งต้องตรวจ ส่วนที่เป็นสาวบริสุทธิ์ ก็อาจจะมีความจำเป็นน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ก็มีวัคซีนที่จะฉีดป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แล้ว
ส่วนอีกหนึ่งโรค อย่างมะเร็งเต้านมที่เป็นอีกหนึ่งกังวลในชีวิตผู้หญิง นพ.ยงยุทธ แนะนำว่า ถ้าอายุ 40-45 ก็ควรได้รับการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยการทำเมโมแกรม กระนั้นก็ตาม ถ้าจะให้ดีจริงๆ สำหรับผู้หญิง ถ้าไม่มีความอาย ก็ควรไปให้หมอตรวจเต้านมตั้งแต่อายุ 30 โดยไม่จำเป็นต้องทำเมโมแกรม ก็สามารถช่วยได้ระดับหนึ่ง
“หรือถ้าไม่อย่างนั้น ผู้หญิงก็สามารถทำการตรวจคลำด้วยตัวเองได้ เพียงแต่มันก็อาจจะมีทั้งข้อดีข้อด้อย ซึ่งข้อด้อยก็คือ เวลาเจออะไรนิดอะไรหน่อย อาจจะเกิดความตื่นเต้นว่านี่ใช่หรือเปล่า นำไปสู่ความกังวลได้ เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุด ก็อาจจะจำเป็นต้องไปให้หมอตรวจครับ” นพ.ยงยุทธ กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
นพ.ยงยุทธ คงธนารัตน์ แพทย์ประจำศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาลเจ้าพระยา กล่าวถึงความจำเป็นในการที่เราต้องไปตรวจสุขภาพว่า ร่างกายคนเรามีความพิเศษแตกต่างจากรถราที่ถ้ามีปัญหา มักจะส่งเสียงหรือส่งสัญญาณบอก แต่สำหรับร่างกายมนุษย์ ถึงแม้น้ำตาลจะสูงถึง 150 คุณก็จะไม่มีอาการ คุณไม่รู้ เพราะมันไม่ส่งสัญญาณ แต่มันจะส่งก็ตอนที่เส้นเลือดอุดตันแล้ว หรือเวียนศีรษะมากแล้ว ตาหรือไตเสียแล้ว ซึ่งรู้ตอนนั้นก็เหมือนเครื่องยนต์ไม่ได้เปลี่ยนมาสามปี เปลี่ยนใหม่ก็ช่วยไม่ได้
“หลายคนถามว่า แล้วเราจะตรวจต้องไปตรวจสุขภาพเมื่อไหร่ จริงๆ แล้ว เราตรวจสุขภาพตั้งแต่เด็ก อย่างเราพาลูกน้อยไปหาหมอเรื่อยๆ ตั้งแต่แรกเกิด แต่เราไม่เรียกว่าเป็นการตรวจสุขภาพ อย่างไรก็ดี พอถึงวัยหนุ่มสาวก็อาจจะได้เปรียบหน่อยตรงที่เหมือนเครื่องยนต์กำลังดี เสียก็ไม่เท่าไหร่ ปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ ยกเว้นแต่คนที่มีประวัติ เช่น พ่อแม่พี่น้องเป็นโรครุนแรง แต่โดยรวม ตรวจปีละครั้งก็ถือว่าเพียงพอ”
นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มโรคหลักๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจก็คือ น้ำตาลในเลือดเราเยอะหรือเปล่า ไตเราเสียหรือเปล่า ตับของเรายังดีอยู่ไหม เจาะเลือดดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เอกซเรย์ปอด ซึ่งถือเป็นโปรแกรมของการตรวจโรคขั้นพื้นฐานทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ถ้าเน้นเฉพาะเจาะจงลงไปที่ผู้หญิง ส่วนมากจะมีความกังวลเกี่ยวกับสองโรคหลักๆ คือ มะเร็งเต้านม กับมะเร็งปากมดลูก นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องการตรวจมะเร็งปากมดลูก สำหรับคนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยหรือเคยมีแฟนมาหลายคน ก็อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นๆ ในการที่จะได้รับเชื้อเอชพีวี (HPV) ผู้หญิงกลุ่มนี้จำเป็นต้องตรวจ ยิ่งต้องตรวจ ส่วนที่เป็นสาวบริสุทธิ์ ก็อาจจะมีความจำเป็นน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ก็มีวัคซีนที่จะฉีดป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แล้ว
ส่วนอีกหนึ่งโรค อย่างมะเร็งเต้านมที่เป็นอีกหนึ่งกังวลในชีวิตผู้หญิง นพ.ยงยุทธ แนะนำว่า ถ้าอายุ 40-45 ก็ควรได้รับการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยการทำเมโมแกรม กระนั้นก็ตาม ถ้าจะให้ดีจริงๆ สำหรับผู้หญิง ถ้าไม่มีความอาย ก็ควรไปให้หมอตรวจเต้านมตั้งแต่อายุ 30 โดยไม่จำเป็นต้องทำเมโมแกรม ก็สามารถช่วยได้ระดับหนึ่ง
“หรือถ้าไม่อย่างนั้น ผู้หญิงก็สามารถทำการตรวจคลำด้วยตัวเองได้ เพียงแต่มันก็อาจจะมีทั้งข้อดีข้อด้อย ซึ่งข้อด้อยก็คือ เวลาเจออะไรนิดอะไรหน่อย อาจจะเกิดความตื่นเต้นว่านี่ใช่หรือเปล่า นำไปสู่ความกังวลได้ เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุด ก็อาจจะจำเป็นต้องไปให้หมอตรวจครับ” นพ.ยงยุทธ กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo
