“อภิชาติ” ขู่พบรีดไถครูแลกตำแหน่งเชือดทันที กำชับเขตพื้นที่ฯ ห้ามไม่ให้หน่วยงาน หรือบุคคลใดทำการเรียกร้องเงินครูเด็ดขาด พร้อมสั่งสำรวจข้อมูล และบุคลากรเขตพื้นที่ฯ ส่งมายัง สพฐ.ภายใน 1 เดือนเพื่อจัดทำภาพรวม และวางแผนจัดสรรตำแหน่ง
วันนี้ (5 ก.พ.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยกลุ่มบริหารงานบุคคล ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ขอให้ ผอ.กลุ่มบุคคลฯ ไปสำรวจข้อมูลครู และบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษา และส่งกลับมาภายใน 1 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมา สพฐ.ขาดข้อมูลบุคคลในภาพรวม พร้อมทั้งให้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ไปวางแผนการจัดสรรตำแหน่งด้วย รวมทั้งได้สั่งการให้เขตพื้นที่ฯ เร่งแก้ปัญหากรณีสั่งการให้ครูไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ขาดครู แต่ไม่ได้ทำการตัดโอนอัตราส่งผลให้โรงเรียนต้นทางขาดครู เนื่องจากไม่สามารถที่จะบรรจุครูมาทดแทนได้ ทั้งนี้ ได้กำชับให้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ตรวจสอบหากมีตำแหน่งว่างในโรงเรียนที่ครูไม่เกินเกณฑ์ให้รับย้ายครูช่วยราชการ โดยตัดโอนอัตรา และเงินเดือนไป เพื่อให้โรงเรียนต้นทางสามารถหาครูมาทดแทนได้
“ที่ผ่านมามีครูร้องเรียนว่ามีการเรียกร้องเงินทองในการจัดลงตำแหน่ง ผมจึงได้กำชับว่าห้ามไม่ให้หน่วยงาน หรือบุคคลใดเรียกร้องเงินทอง หรือใช้ดุลพินิจในทางที่ผิด หากพบว่ามีการไถเงินครูผมจะดำเนินการสอบสวนทางวินัยทันที อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ครูที่ร้องเรียนมามักจะกลัวทำให้เวลาส่งเรื่องร้องเรียนมาก็ไม่ยอมลงชื่อทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ครูช่วยราชการลงตำแหน่งอย่าอ้างว่าตำแหน่งไม่ตรงกับตำแหน่งที่ว่าง โดยในกรณีโรงเรียนประถมศึกษาไม่จำเป็นต้องลงตำแหน่งตรงวิชาเอก และถึงแม้จะเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีความจำเป็นต้องจัดอัตราครูลงให้ตรงวิชาเอกก็ได้ขอให้เขตพื้นที่ฯ ช่วยกันแก้ปัญหาด้วย พร้อมกันนี้ ให้แต่ละเขตรายงานจำนวนครูที่สั่งไปช่วยราชการ รวมทั้งการคืนอัตราในโรงเรียนต้นสังกัดมายัง สพฐ.ด้วย ทั้งนี้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ได้กำชับให้ครู และผู้บริหารโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แทนครูในคณะกรรมการฯ และอนุกรรมกรรมการระดับชาติ เช่น คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คุรุสภา และสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กลับไปทำงานตามภาระหน้าที่ที่โรงเรียนด้วย เนื่องจากมีครูหลายโรงเรียนร้องเรียนมาเพราะต้องทำหน้าที่แทน
วันนี้ (5 ก.พ.) นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยกลุ่มบริหารงานบุคคล ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ขอให้ ผอ.กลุ่มบุคคลฯ ไปสำรวจข้อมูลครู และบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษา และส่งกลับมาภายใน 1 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมา สพฐ.ขาดข้อมูลบุคคลในภาพรวม พร้อมทั้งให้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ไปวางแผนการจัดสรรตำแหน่งด้วย รวมทั้งได้สั่งการให้เขตพื้นที่ฯ เร่งแก้ปัญหากรณีสั่งการให้ครูไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ขาดครู แต่ไม่ได้ทำการตัดโอนอัตราส่งผลให้โรงเรียนต้นทางขาดครู เนื่องจากไม่สามารถที่จะบรรจุครูมาทดแทนได้ ทั้งนี้ ได้กำชับให้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ตรวจสอบหากมีตำแหน่งว่างในโรงเรียนที่ครูไม่เกินเกณฑ์ให้รับย้ายครูช่วยราชการ โดยตัดโอนอัตรา และเงินเดือนไป เพื่อให้โรงเรียนต้นทางสามารถหาครูมาทดแทนได้
“ที่ผ่านมามีครูร้องเรียนว่ามีการเรียกร้องเงินทองในการจัดลงตำแหน่ง ผมจึงได้กำชับว่าห้ามไม่ให้หน่วยงาน หรือบุคคลใดเรียกร้องเงินทอง หรือใช้ดุลพินิจในทางที่ผิด หากพบว่ามีการไถเงินครูผมจะดำเนินการสอบสวนทางวินัยทันที อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ครูที่ร้องเรียนมามักจะกลัวทำให้เวลาส่งเรื่องร้องเรียนมาก็ไม่ยอมลงชื่อทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ครูช่วยราชการลงตำแหน่งอย่าอ้างว่าตำแหน่งไม่ตรงกับตำแหน่งที่ว่าง โดยในกรณีโรงเรียนประถมศึกษาไม่จำเป็นต้องลงตำแหน่งตรงวิชาเอก และถึงแม้จะเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีความจำเป็นต้องจัดอัตราครูลงให้ตรงวิชาเอกก็ได้ขอให้เขตพื้นที่ฯ ช่วยกันแก้ปัญหาด้วย พร้อมกันนี้ ให้แต่ละเขตรายงานจำนวนครูที่สั่งไปช่วยราชการ รวมทั้งการคืนอัตราในโรงเรียนต้นสังกัดมายัง สพฐ.ด้วย ทั้งนี้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ ได้กำชับให้ครู และผู้บริหารโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แทนครูในคณะกรรมการฯ และอนุกรรมกรรมการระดับชาติ เช่น คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คุรุสภา และสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กลับไปทำงานตามภาระหน้าที่ที่โรงเรียนด้วย เนื่องจากมีครูหลายโรงเรียนร้องเรียนมาเพราะต้องทำหน้าที่แทน