ปูดกองทุน ช.พ.ค.ส่อถังแตก เหตุเอาเงินปล่อยกู้ให้องค์การค้าฯ จนป่านนี้ยังไม่มีใช้คืน แถมองค์การค้าฯ ยังติดหนี้ สพฐ.สำนักปลัด ศธ. ด้าน รองเลขาฯ สกสค.ออกโรงโต้ไม่มีปล่อยกู้ แต่ สกสค.ค้ำประกันให้ตอนกู้ยืม ธ.กรุงศรีฯ วงเงิน 700 ล.บาท ย้ำมีการใช้หนี้ตามปกติ
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วงเงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ที่สะสมมานานนับตั้งแต่มีกองทุนปี พ.ศ.2494 เป็นเงินหลายพันล้านบาท และมีสมาชิกที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ประมาณ 9 แสนกว่าคน อาจมีปัญหาในอนาคตได้ อันเนื่องจากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) อนุมัติให้นำเงินสะสมของ ช.พ.ค.ที่มีหลายพันล้านบาทไปให้องค์การค้าของ สกสค. กู้ยืมไปลงทุนรวมแล้วเกือบพันล้านบาท และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการคืนเงินกู้ดังกล่าวกลับคืนมา เนื่องจากองค์การค้าฯ ไม่มีผลกำไรที่จะนำมาใช้หนี้สินได้ อีกทั้งองค์การค้าฯ ไม่ได้เป็นหนี้เฉพาะ ช.พ.ค.เท่านั้น แต่ยังติดหนี้สินกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานปลัด ศธ.ซึ่งก็ยังไม่ได้มีการชำระหนี้สินที่ขอยืมเงินไป
แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวต่อว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้น่าจะส่งผลต่อความมั่นคงของ ช.พ.ค.ได้ เพราะเคยมีตัวอย่างของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์หลายแห่งที่ล้มไปเนื่องจากสาเหตุดังกล่าวจนทำให้ขาดสภาพคล่อง และพอถึงเวลาสมาชิกเสียชีวิตมากๆ ก็ไม่มีเงินมาจ่าย
ด้าน นายวัฒนา วรรณโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ในฐานะที่เคยดูแล ช.พ.ค.ขอชี้แจงว่า ไม่ได้มีการนำเงิน ช.พ.ค.ไปปล่อยกู้ให้องค์การค้าฯ แต่ส กสค.ได้เข้าไปค้ำประกันการกู้เงินขององค์การค้าฯ กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประมาณ 700 ล้านบาท ในช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา และจากการติดตามก็ได้มีการชำระหนี้สินตามปกติ
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความน่าเป็นห่วงเงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ที่สะสมมานานนับตั้งแต่มีกองทุนปี พ.ศ.2494 เป็นเงินหลายพันล้านบาท และมีสมาชิกที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ประมาณ 9 แสนกว่าคน อาจมีปัญหาในอนาคตได้ อันเนื่องจากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) อนุมัติให้นำเงินสะสมของ ช.พ.ค.ที่มีหลายพันล้านบาทไปให้องค์การค้าของ สกสค. กู้ยืมไปลงทุนรวมแล้วเกือบพันล้านบาท และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการคืนเงินกู้ดังกล่าวกลับคืนมา เนื่องจากองค์การค้าฯ ไม่มีผลกำไรที่จะนำมาใช้หนี้สินได้ อีกทั้งองค์การค้าฯ ไม่ได้เป็นหนี้เฉพาะ ช.พ.ค.เท่านั้น แต่ยังติดหนี้สินกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานปลัด ศธ.ซึ่งก็ยังไม่ได้มีการชำระหนี้สินที่ขอยืมเงินไป
แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวต่อว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้น่าจะส่งผลต่อความมั่นคงของ ช.พ.ค.ได้ เพราะเคยมีตัวอย่างของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์หลายแห่งที่ล้มไปเนื่องจากสาเหตุดังกล่าวจนทำให้ขาดสภาพคล่อง และพอถึงเวลาสมาชิกเสียชีวิตมากๆ ก็ไม่มีเงินมาจ่าย
ด้าน นายวัฒนา วรรณโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ในฐานะที่เคยดูแล ช.พ.ค.ขอชี้แจงว่า ไม่ได้มีการนำเงิน ช.พ.ค.ไปปล่อยกู้ให้องค์การค้าฯ แต่ส กสค.ได้เข้าไปค้ำประกันการกู้เงินขององค์การค้าฯ กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประมาณ 700 ล้านบาท ในช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา และจากการติดตามก็ได้มีการชำระหนี้สินตามปกติ