กป.อพช.แถลงการณ์ประณามความรุนแรงในวันเลือกตั้งล่วงหน้า 26 ม.ค.ที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดการสูญเสีย ชี้ รัฐบาลและสตช.ปัดความรับผิดชอบต่อความรุนแรงดังกล่าวไม่ได้ พร้อมเรียกร้องให้ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล รธน.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และให้ใช้สติแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี
วันนี้ (27 ม.ค.) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) แถลงการณ์ประณามความรุนแรง สนับสนุนสันติวิธีและการเจรจา มีใจความว่า ตามที่กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) ร่วมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ได้พยายามรณรงค์คัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้า ณ หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าต่างๆ ในวันที่ 26 มกราคม 2557 ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง บริเวณหน่วยเลือกตั้งวัดศรีเอี่ยม บางนา กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ นายสุทิน ธราทิน อดีตผู้ปฏิบัติงานขององค์กรพัฒนาเอกชน แกนนำของ กปท.ถูกสังหารด้วยอาวุธปืน และผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งถูกทำร้าย คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ซึ่งรับทราบเหตุร้ายดังกล่าวด้วยความสะเทือนใจยิ่ง ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวตลอดจนญาติมิตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ และใคร่ขอแสดงความเห็นและข้อเรียกร้องไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.ขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุร้ายครั้งนี้ ทั้งผู้ลงมือกระทำการ และผู้อยู่เบื้องหลัง เราเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิด “สิทธิในชีวิต” อันเป็นสิทธิสูงสุดของมนุษย์
2.เราเห็นว่าการที่ผู้เสียชีวิตถูกยิงอย่างเหี้ยมโหดที่บริเวณศีรษะ ตลอดจนการที่กลุ่มคนร้ายได้ทำร้ายผู้ชุมนุมในลักษณะที่อุกอาจ ทำให้เกิดข้อกังขาที่ว่า อาจมีผู้จงใจที่จะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง โดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง หรือหวังผลทางการเมืองเฉพาะหน้า เราขอเรียกร้องให้บุคคลเหล่านี้เหนี่ยวรั้งการกระทำอันไร้ซึ่งมนุษยธรรมและเมตตาธรรมของตน โดยต้องตระหนักว่า การกระทำเช่นนี้จะโหมกระพือความโกรธแค้นระหว่างคู่ขัดแย้ง ทำให้สังคมไทยสุ่มเสี่ยงต่อการที่อาจต้องเผชิญความรุนแรงที่จะลุกลามบานปลายออกไป
3.เราเห็นว่ารัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์รักษาความสงบ ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบต่อ “ความรุนแรง” ที่ได้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งจนถึงเหตุร้ายครั้งนี้ การที่รัฐไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมชี้ให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพ เราขอเรียกร้องรัฐให้มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องปรามการกระทำรุนแรงอันอาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตอันใกล้
4.ในสถานการณ์ที่วิกฤตการเมืองกำลังก้าวเข้าสู่การเผชิญหน้าระหว่างคู่ขัดแย้งโดยไม่อาจประนีประนอม เราเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้อง ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลื่อนการเลือกตั้ง และพิจารณาคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นความหวัง แม้เพียงน้อยนิดที่จะแก้ไขความขัดแย้ง โดยคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจา แสวงหาข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม เพื่อคลี่คลายวิกฤตการเมืองครั้งนี้ให้จงได้
เราขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้สติ ลดละทิฐิ แสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา หยุดยั่วยุ ใช้สันติวิธีและการเจรจา เพื่อระงับยับยั้งมิให้ศานติสุขของสังคมมลายไปในท่ามกลางกระแสความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน
วันนี้ (27 ม.ค.) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) แถลงการณ์ประณามความรุนแรง สนับสนุนสันติวิธีและการเจรจา มีใจความว่า ตามที่กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) ร่วมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ได้พยายามรณรงค์คัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้า ณ หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าต่างๆ ในวันที่ 26 มกราคม 2557 ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง บริเวณหน่วยเลือกตั้งวัดศรีเอี่ยม บางนา กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ นายสุทิน ธราทิน อดีตผู้ปฏิบัติงานขององค์กรพัฒนาเอกชน แกนนำของ กปท.ถูกสังหารด้วยอาวุธปืน และผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งถูกทำร้าย คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ซึ่งรับทราบเหตุร้ายดังกล่าวด้วยความสะเทือนใจยิ่ง ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวตลอดจนญาติมิตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ และใคร่ขอแสดงความเห็นและข้อเรียกร้องไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.ขอประณามอย่างรุนแรงต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุร้ายครั้งนี้ ทั้งผู้ลงมือกระทำการ และผู้อยู่เบื้องหลัง เราเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิด “สิทธิในชีวิต” อันเป็นสิทธิสูงสุดของมนุษย์
2.เราเห็นว่าการที่ผู้เสียชีวิตถูกยิงอย่างเหี้ยมโหดที่บริเวณศีรษะ ตลอดจนการที่กลุ่มคนร้ายได้ทำร้ายผู้ชุมนุมในลักษณะที่อุกอาจ ทำให้เกิดข้อกังขาที่ว่า อาจมีผู้จงใจที่จะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง โดยเห็นแก่อามิสสินจ้าง หรือหวังผลทางการเมืองเฉพาะหน้า เราขอเรียกร้องให้บุคคลเหล่านี้เหนี่ยวรั้งการกระทำอันไร้ซึ่งมนุษยธรรมและเมตตาธรรมของตน โดยต้องตระหนักว่า การกระทำเช่นนี้จะโหมกระพือความโกรธแค้นระหว่างคู่ขัดแย้ง ทำให้สังคมไทยสุ่มเสี่ยงต่อการที่อาจต้องเผชิญความรุนแรงที่จะลุกลามบานปลายออกไป
3.เราเห็นว่ารัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์รักษาความสงบ ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบต่อ “ความรุนแรง” ที่ได้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งจนถึงเหตุร้ายครั้งนี้ การที่รัฐไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมชี้ให้เห็นความไร้ประสิทธิภาพ เราขอเรียกร้องรัฐให้มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องปรามการกระทำรุนแรงอันอาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตอันใกล้
4.ในสถานการณ์ที่วิกฤตการเมืองกำลังก้าวเข้าสู่การเผชิญหน้าระหว่างคู่ขัดแย้งโดยไม่อาจประนีประนอม เราเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้อง ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลื่อนการเลือกตั้ง และพิจารณาคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นความหวัง แม้เพียงน้อยนิดที่จะแก้ไขความขัดแย้ง โดยคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจา แสวงหาข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม เพื่อคลี่คลายวิกฤตการเมืองครั้งนี้ให้จงได้
เราขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายใช้สติ ลดละทิฐิ แสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา หยุดยั่วยุ ใช้สันติวิธีและการเจรจา เพื่อระงับยับยั้งมิให้ศานติสุขของสังคมมลายไปในท่ามกลางกระแสความเกลียดชังระหว่างคนไทยด้วยกัน
