สกอ.ชะลอทูลเกล้าฯ รายชื่ออธิการบดี กรรมการสภาฯ นายกสภาฯ รอดำเนินการในรัฐบาลชุดใหม่ “ทศพร” ตอบไม่เต็มคำผลสอบอธิการฯ มมส.ชี้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมาย
ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยว่า ตามที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เสนอชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็นอธิการบดี กรรมการสภามหาวิทยาลัย และนายกสภามหาวิทยาลัยให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พิจารณาเพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี จำนวน 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และเสนอขึ้นโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งกรรมการสภาฯ และนายกสภาฯ จำนวน 3 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ร้อยเอ็ด เสนอแต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เสนอแต่งตั้งนายกสภาฯ และกรรมการสภาฯ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เสนอแต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยนั้น ขณะนี้คงต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากมีผู้ทักท้วงการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในช่วงรัฐบาลรักษาการอาจจะขัดต่อข้อกฎหมาย
“เดิม สกอ.คาดว่าจะสามารถเสนอขึ้นโปรดเกล้าฯตามขั้นตอนได้ แม้จะอยู่ระหว่างรัฐบาลรักษาการ แต่มีผู้ทักท้วงว่าอาจจะขัดต่อกฎหมาย และจะต้องสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจชะลอการนำชื่อผู้ได้รับการสรรหาขึ้นทูลเกล้าฯ ไว้ก่อน และให้ไปเสนอในรัฐบาลหน้า” เลขาธิการ กกอ.กล่าวและว่า แม้จะมีการชะลอการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก็คิดว่าไม่กระทบต่อการทำงานของมหาวิทยาลัย เพราะโครงการต่างๆ ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ยกเว้นโครงการใหม่ที่ต้องเสนองบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรงนายศุภชัย สมัปปิโต รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) และผู้เกี่ยวข้อง ที่มี นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานตรวจสอบกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลเรื่องการทุจริตในการเบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างอาคารวิทยพัฒนา คณะศึกษาศาสตร์ มมส.วงเงิน 88 ล้านบาท มีพฤติการณ์ไม่ชอบด้วยระเบียบ กฎหมาย หรือมีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงิน หรือทรัพย์สินของราชการ โดยคณะกรรมการสอบสวนได้สรุปผลการสอบสวนและส่งให้ สกอ.พิจารณา ว่า ตนได้เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว และได้ส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายของ สกอ.ให้ว่าเห็นในข้อกฎหมาย ว่าสมควรจะลงโทษตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ เสนอหรือไม่ ซึ่งหากฝ่ายกฎหมายมีความเห็นอย่างไร ตนก็จะเห็นชอบตามนั้น
ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดต่างๆ คงไม่สามารถตอบได้ เพราะยังถือเป็นเรื่องลับ ส่วนกรณีที่ สตง.โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 7 เห็นชอบให้ดำเนินคดีอาญากับนายศุภชัย อดีตอธิการบดี มมส. น.ส.ใบศรี พันเทศ นักวิชาการพัสดุชำนาญการ และนายสายชล เห็มไธสง ตำแหน่งนักวิชาการพัสดุชำนาญการ กรณีที่มีผู้กล่าวหาว่า มมส.ก่อสร้างศูนย์กีฬาและนันทนาการ ลงวันที่ 27 เมษายน 2553 ซึ่งมีการเลิกสัญญาเพราะผู้รับเหมาทิ้งงาน โดยก่อนเลิกสัญญา มมส.ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างเป็นจำนวนเงินเกินกว่าผลงานที่ผู้รับจ้างได้ส่งมอบ โดยกรณีนี้ถือเป็นการชี้มูลครั้งที่ 3 ก็คงต้องตั้งกรรมการตรวจสอบต่อไป
ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยว่า ตามที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เสนอชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็นอธิการบดี กรรมการสภามหาวิทยาลัย และนายกสภามหาวิทยาลัยให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พิจารณาเพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี จำนวน 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และเสนอขึ้นโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งกรรมการสภาฯ และนายกสภาฯ จำนวน 3 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ร้อยเอ็ด เสนอแต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เสนอแต่งตั้งนายกสภาฯ และกรรมการสภาฯ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เสนอแต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยนั้น ขณะนี้คงต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากมีผู้ทักท้วงการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในช่วงรัฐบาลรักษาการอาจจะขัดต่อข้อกฎหมาย
“เดิม สกอ.คาดว่าจะสามารถเสนอขึ้นโปรดเกล้าฯตามขั้นตอนได้ แม้จะอยู่ระหว่างรัฐบาลรักษาการ แต่มีผู้ทักท้วงว่าอาจจะขัดต่อกฎหมาย และจะต้องสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจชะลอการนำชื่อผู้ได้รับการสรรหาขึ้นทูลเกล้าฯ ไว้ก่อน และให้ไปเสนอในรัฐบาลหน้า” เลขาธิการ กกอ.กล่าวและว่า แม้จะมีการชะลอการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ก็คิดว่าไม่กระทบต่อการทำงานของมหาวิทยาลัย เพราะโครงการต่างๆ ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ยกเว้นโครงการใหม่ที่ต้องเสนองบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรงนายศุภชัย สมัปปิโต รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) และผู้เกี่ยวข้อง ที่มี นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานตรวจสอบกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลเรื่องการทุจริตในการเบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างอาคารวิทยพัฒนา คณะศึกษาศาสตร์ มมส.วงเงิน 88 ล้านบาท มีพฤติการณ์ไม่ชอบด้วยระเบียบ กฎหมาย หรือมีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงิน หรือทรัพย์สินของราชการ โดยคณะกรรมการสอบสวนได้สรุปผลการสอบสวนและส่งให้ สกอ.พิจารณา ว่า ตนได้เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว และได้ส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายของ สกอ.ให้ว่าเห็นในข้อกฎหมาย ว่าสมควรจะลงโทษตามที่คณะกรรมการสอบสวนฯ เสนอหรือไม่ ซึ่งหากฝ่ายกฎหมายมีความเห็นอย่างไร ตนก็จะเห็นชอบตามนั้น
ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดต่างๆ คงไม่สามารถตอบได้ เพราะยังถือเป็นเรื่องลับ ส่วนกรณีที่ สตง.โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 7 เห็นชอบให้ดำเนินคดีอาญากับนายศุภชัย อดีตอธิการบดี มมส. น.ส.ใบศรี พันเทศ นักวิชาการพัสดุชำนาญการ และนายสายชล เห็มไธสง ตำแหน่งนักวิชาการพัสดุชำนาญการ กรณีที่มีผู้กล่าวหาว่า มมส.ก่อสร้างศูนย์กีฬาและนันทนาการ ลงวันที่ 27 เมษายน 2553 ซึ่งมีการเลิกสัญญาเพราะผู้รับเหมาทิ้งงาน โดยก่อนเลิกสัญญา มมส.ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างเป็นจำนวนเงินเกินกว่าผลงานที่ผู้รับจ้างได้ส่งมอบ โดยกรณีนี้ถือเป็นการชี้มูลครั้งที่ 3 ก็คงต้องตั้งกรรมการตรวจสอบต่อไป