ศปภ.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 27 ธ.ค. 56 วันแรกการรณรงค์ “ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” เกิดอุบัติเหตุ 392 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 399 คน สั่งการจังหวัดเข้มจัดตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลัก ควบคุมเมาแล้วขับ ขับรถเร็วไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายชาญชัย สุวิสุทธะกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 เปิดเผยว่า “ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รวมรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” เกิดอุบัติเหตุ 392ครั้ง (ปี 2556 เกิด 313 ครั้ง) เพิ่มขึ้น 79 ครั้ง ร้อยละ 25.24 ผู้เสียชีวิต 39 ราย (ปี2556 เสียชีวิต 32 ราย) เพิ่มขึ้น 7 ราย ร้อยละ 21.88 ผู้บาดเจ็บ 399 คน (ปี 2556 บาดเจ็บ 321 คน) เพิ่มขึ้น 78 คน ร้อยละ 24.30 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 30.36 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 23.47 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.82 รถปิคอัพ ร้อยละ 7.37 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 60.97 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 43.88 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 25.77 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01- 20.00 น. ร้อยละ 32.40 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 54.34 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,220 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 62,780 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 511,322 ราย มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 73,944 ราย โดยมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่มากที่สุด 21,953 ราย ลองลงมาไม่สวมหมวกนิรภัย 21,682 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก และสมุทรสาคร (20 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี ปราจีนบุรี และสุราษฎร์ธานี (3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก (23 คน) จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ 12 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ นครนายก บึงกาฬ พังงา ยโสธร ยะลา ระยอง เลย สกลนคร สมุทรปราการ และสมุทรสงคราม จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) 14 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ 51 จังหวัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันแรกของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าประชาชนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวทำให้เส้นทางสายหลักที่ออกสู่ภูมิภาคต่างๆ มีปริมาณรถหนาแน่น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้สั่งการจังหวัดเข้มการจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการบนถนนสายหลัก โดยพิจารณาจัดตั้งในบริเวณที่เหมาะสม เช่น จุดจอดรถ จุดพักรถ สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความคล่องตัว ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตลอดจนกวดขันรถโดยสารสาธารณะเป็นพิเศษ ตรวจสอบมาตรฐานและความพร้อมของรถให้มีความปลอดภัย คุมเข้มพนักงานขับรถ พนักงานประจำรถ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเป็น “ศูนย์” มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากขับรถระยะทางไกลต้องมีพนักงานขับรถผลัดเปลี่ยนทุกระยะ 400 กิโลเมตร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน นอกจากนี้ ได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมระบบบริการแพทย์ฉุกเฉิน โดยจัดทีมแพทย์ พยาบาล อุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ จุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับจังหวัดที่เป็นเส้นทางหลักไปยังภูมิภาคต่างๆ ให้อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงจุดอันตราย เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ประธานศูนย์ข้อมูลการสื่อสารเพื่อความปลอดภัย (ศสป.) กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในวันแรกของการรณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยภาพรวมเกิดจากผู้ขับขี่รถจักยานยนต์และไม่สวมหมวกนิรภัยสูงสุด ส่งผลให้ส่วนใหญ่เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุทันที ดังนั้นมาตรการป้องกันที่สำคัญ ณ ขณะนี้คือการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนใส่หมวกนิรภัยเวลาขับขี่ทุกครั้ง เนื่องจากหมวกนิรภัยสามารถช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้ถึง 4 เท่า สามารถช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจปรับและจับอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการช่วยชีวิตคน นอกจากนี้ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองอย่าใช้บุตรหลานออกไปธุระ ซื้อของในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีปริมาณรถมาก หลีกเลี่ยงการผ่านถนนสายหลัก เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูง
ทั้งนี้ ช่วงเฝ้าระวังในเทศกาลปีใหม่ 2557 ทาง สคอ.ได้มีการตั้งศูนย์ข้อมูลการสื่อสารเพื่อความปลอดภัย (ศสป.) ขึ้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 - 2 มกราคม 2557 เพื่อให้การสนับสนุนข้อมูลข่าวสารแก่สื่อมวลชนทุกสาขาในการรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยอื่นๆ เกาะติดสถานการณ์อุบัติเหตุรายวัน สร้างความร่วมมือกับภาคประชาสังคมเฝ้าระวังเรื่องจุดเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง การละเมิดกฎหมาย และเฝ้าระวังการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยศูนย์ฯดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำหน้าที่ประสานข้อมูลจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสื่อมวลชน กำหนดประเด็นนำเสนอข่าว ข้อสั่งการ ผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงรุก ผลิตและนำเสนอข่าวเชิงรุกผ่านสื่อมวลชนทุกสาขา
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางช่วงปีใหม่นี้ ขอให้ทุกคน ตั้งสติ.. ก่อนสตาร์ท ง่วงไม่ขับ ดื่มไม่ขับ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ....
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายชาญชัย สุวิสุทธะกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 เปิดเผยว่า “ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รวมรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” เกิดอุบัติเหตุ 392ครั้ง (ปี 2556 เกิด 313 ครั้ง) เพิ่มขึ้น 79 ครั้ง ร้อยละ 25.24 ผู้เสียชีวิต 39 ราย (ปี2556 เสียชีวิต 32 ราย) เพิ่มขึ้น 7 ราย ร้อยละ 21.88 ผู้บาดเจ็บ 399 คน (ปี 2556 บาดเจ็บ 321 คน) เพิ่มขึ้น 78 คน ร้อยละ 24.30 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 30.36 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 23.47 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.82 รถปิคอัพ ร้อยละ 7.37 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 60.97 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 43.88 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 25.77 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01- 20.00 น. ร้อยละ 32.40 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 54.34 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,220 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 62,780 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 511,322 ราย มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 73,944 ราย โดยมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่มากที่สุด 21,953 ราย ลองลงมาไม่สวมหมวกนิรภัย 21,682 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก และสมุทรสาคร (20 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี ปราจีนบุรี และสุราษฎร์ธานี (3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก (23 คน) จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ 12 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ นครนายก บึงกาฬ พังงา ยโสธร ยะลา ระยอง เลย สกลนคร สมุทรปราการ และสมุทรสงคราม จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) 14 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ 51 จังหวัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันแรกของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าประชาชนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวทำให้เส้นทางสายหลักที่ออกสู่ภูมิภาคต่างๆ มีปริมาณรถหนาแน่น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้สั่งการจังหวัดเข้มการจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการบนถนนสายหลัก โดยพิจารณาจัดตั้งในบริเวณที่เหมาะสม เช่น จุดจอดรถ จุดพักรถ สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความคล่องตัว ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตลอดจนกวดขันรถโดยสารสาธารณะเป็นพิเศษ ตรวจสอบมาตรฐานและความพร้อมของรถให้มีความปลอดภัย คุมเข้มพนักงานขับรถ พนักงานประจำรถ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเป็น “ศูนย์” มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากขับรถระยะทางไกลต้องมีพนักงานขับรถผลัดเปลี่ยนทุกระยะ 400 กิโลเมตร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน นอกจากนี้ ได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมระบบบริการแพทย์ฉุกเฉิน โดยจัดทีมแพทย์ พยาบาล อุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ จุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับจังหวัดที่เป็นเส้นทางหลักไปยังภูมิภาคต่างๆ ให้อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงจุดอันตราย เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ประธานศูนย์ข้อมูลการสื่อสารเพื่อความปลอดภัย (ศสป.) กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในวันแรกของการรณรงค์ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยภาพรวมเกิดจากผู้ขับขี่รถจักยานยนต์และไม่สวมหมวกนิรภัยสูงสุด ส่งผลให้ส่วนใหญ่เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุทันที ดังนั้นมาตรการป้องกันที่สำคัญ ณ ขณะนี้คือการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนใส่หมวกนิรภัยเวลาขับขี่ทุกครั้ง เนื่องจากหมวกนิรภัยสามารถช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้ถึง 4 เท่า สามารถช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจปรับและจับอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการช่วยชีวิตคน นอกจากนี้ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองอย่าใช้บุตรหลานออกไปธุระ ซื้อของในช่วงเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีปริมาณรถมาก หลีกเลี่ยงการผ่านถนนสายหลัก เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูง
ทั้งนี้ ช่วงเฝ้าระวังในเทศกาลปีใหม่ 2557 ทาง สคอ.ได้มีการตั้งศูนย์ข้อมูลการสื่อสารเพื่อความปลอดภัย (ศสป.) ขึ้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 - 2 มกราคม 2557 เพื่อให้การสนับสนุนข้อมูลข่าวสารแก่สื่อมวลชนทุกสาขาในการรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยอื่นๆ เกาะติดสถานการณ์อุบัติเหตุรายวัน สร้างความร่วมมือกับภาคประชาสังคมเฝ้าระวังเรื่องจุดเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง การละเมิดกฎหมาย และเฝ้าระวังการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยศูนย์ฯดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำหน้าที่ประสานข้อมูลจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสื่อมวลชน กำหนดประเด็นนำเสนอข่าว ข้อสั่งการ ผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงรุก ผลิตและนำเสนอข่าวเชิงรุกผ่านสื่อมวลชนทุกสาขา
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางช่วงปีใหม่นี้ ขอให้ทุกคน ตั้งสติ.. ก่อนสตาร์ท ง่วงไม่ขับ ดื่มไม่ขับ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ....
