สวรส.ออกแถลงการณ์หนุนลุยจัดเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 แต่ให้ทำประชามติในบัตรเลือกตั้งพ่วงด้วย หวังประชาชนลงความเห็นจัดตั้งองค์กรอิสระปฏิรูปการเมือง จี้ รบ.รักษาการ-กปปส.ทำสัตยาบันกำหนดกรอบการทำงานองค์กรปฏิรูป หยุดปัญหาคอร์รัปชันใน 2 ปี หมอชนบทจวกเป็นใบสั่งการเมือง
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ออกแถลงการณ์ว่า สวรส.รู้สึกห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่หลายฝ่าย ที่มีความขัดแย้งแตกแยกกันนั้นที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้ บัดนี้ ในภาวการณ์ที่ประเทศไม่มีสภาผู้แทนราษฎร การเร่งหาทางออกของประเทศ เพื่อยุติความขัดแย้งให้กลับสู่สภาพที่ทุกภาคส่วน ได้ร่วมนำพาประเทศสู่ความเจริญให้เร็วที่สุด สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขขอเรียกร้องให้ 1.ยึดปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 2.หยุดการฟ้องร้อง ดำเนินคดีทางกฎหมายแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการเรียกร้องครั้งนี้ ทั้งจากฝ่ายรัฐบาล และ กปปส.
3.จัดให้มีเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามพระราชกฤษฎีกายุบสภาที่ต้องจัดให้มี
เลือกตั้งภายใน 60 วัน 4.จัดทำประชามติ โดยผนวกไปในบัตรเลือกตั้ง ให้ประชาชนได้ลงความเห็นในการจัดตั้งองค์กร เพื่อการปฏิรูปการเมืองให้ถูกต้องเป็นไปตามสาระสำคัญแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ที่มุ่งเน้นเสียงความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อแนวคิดการจัดตั้งองค์กรอิสระนี้ได้ผ่านประชามติแล้ว ก็ถือเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สวรส.ใคร่ขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองทุกฝ่าย ไม่ว่าเป็นฝ่ายรัฐบาล กปปส.พรรคการเมืองทุกพรรค ร่วมกันทำสัตยาบัน กำหนดกรอบการทำงานขององค์กรปฏิรูปสร้างกลไกในการหยุดปัญหาคอร์รัปชันของประเทศ ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และให้เป็นที่พอใจจากภาคประชาชน แล้วจึงยุบสภา เพื่อเลือกตั้งตามเจตนารมณ์ใหม่นี้ จากกระบวนการปฏิรูปการเมืองจากภาคประชาชนอย่างแท้จริง
ด้าน นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช และอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า จากแถลงการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สวรส.เดินตามใบสั่งของฝ่ายการเมือง เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าเกิดสถานการณ์ใด สวรส.ในฐานะหน่วยงานวิจัยสาธารณสุขของประเทศ หากจะนำเสนอข้อคิดเห็นใดๆ จะต้องมีผลการศึกษาหรือผลวิจัยแนบท้ายให้น่าเชื่อถือ อย่างเรื่องนี้ก็ควรมีแนบท้ายหรือข้อมูลผลการศึกษา หรือตัวอย่างประเทศ แต่ก็ไม่มี และคงไม่มีใครทำกันที่จะให้การหย่อนบัตรเลือกตั้งมีพ่วงข้อเสนอแนะประชามติใดๆ ที่สำคัญประชาคมสาธารณสุขก็ออกแถลงการณ์มาแล้วว่า สมควรต้องตั้งองค์กรอิสระเพื่อปฏิรูปประเทศก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่ยาก แค่เพียงมีการตั้งองค์กรอิสระเพื่อมาปฏิรูปประเทศโดยประชาชนให้แล้วเสร็จ มีกฎกติกาอย่างเข้มแข็ง จากนั้นนักการเมืองค่อยเข้ามาก็ไม่มีใครคัดค้าน ไม่ใช่เผด็จการในคราบประชาธิปไตยเช่นนี้
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ออกแถลงการณ์ว่า สวรส.รู้สึกห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่หลายฝ่าย ที่มีความขัดแย้งแตกแยกกันนั้นที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้ บัดนี้ ในภาวการณ์ที่ประเทศไม่มีสภาผู้แทนราษฎร การเร่งหาทางออกของประเทศ เพื่อยุติความขัดแย้งให้กลับสู่สภาพที่ทุกภาคส่วน ได้ร่วมนำพาประเทศสู่ความเจริญให้เร็วที่สุด สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขขอเรียกร้องให้ 1.ยึดปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 2.หยุดการฟ้องร้อง ดำเนินคดีทางกฎหมายแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการเรียกร้องครั้งนี้ ทั้งจากฝ่ายรัฐบาล และ กปปส.
3.จัดให้มีเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามพระราชกฤษฎีกายุบสภาที่ต้องจัดให้มี
เลือกตั้งภายใน 60 วัน 4.จัดทำประชามติ โดยผนวกไปในบัตรเลือกตั้ง ให้ประชาชนได้ลงความเห็นในการจัดตั้งองค์กร เพื่อการปฏิรูปการเมืองให้ถูกต้องเป็นไปตามสาระสำคัญแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ที่มุ่งเน้นเสียงความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อแนวคิดการจัดตั้งองค์กรอิสระนี้ได้ผ่านประชามติแล้ว ก็ถือเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สวรส.ใคร่ขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองทุกฝ่าย ไม่ว่าเป็นฝ่ายรัฐบาล กปปส.พรรคการเมืองทุกพรรค ร่วมกันทำสัตยาบัน กำหนดกรอบการทำงานขององค์กรปฏิรูปสร้างกลไกในการหยุดปัญหาคอร์รัปชันของประเทศ ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และให้เป็นที่พอใจจากภาคประชาชน แล้วจึงยุบสภา เพื่อเลือกตั้งตามเจตนารมณ์ใหม่นี้ จากกระบวนการปฏิรูปการเมืองจากภาคประชาชนอย่างแท้จริง
ด้าน นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช และอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า จากแถลงการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สวรส.เดินตามใบสั่งของฝ่ายการเมือง เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าเกิดสถานการณ์ใด สวรส.ในฐานะหน่วยงานวิจัยสาธารณสุขของประเทศ หากจะนำเสนอข้อคิดเห็นใดๆ จะต้องมีผลการศึกษาหรือผลวิจัยแนบท้ายให้น่าเชื่อถือ อย่างเรื่องนี้ก็ควรมีแนบท้ายหรือข้อมูลผลการศึกษา หรือตัวอย่างประเทศ แต่ก็ไม่มี และคงไม่มีใครทำกันที่จะให้การหย่อนบัตรเลือกตั้งมีพ่วงข้อเสนอแนะประชามติใดๆ ที่สำคัญประชาคมสาธารณสุขก็ออกแถลงการณ์มาแล้วว่า สมควรต้องตั้งองค์กรอิสระเพื่อปฏิรูปประเทศก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่ยาก แค่เพียงมีการตั้งองค์กรอิสระเพื่อมาปฏิรูปประเทศโดยประชาชนให้แล้วเสร็จ มีกฎกติกาอย่างเข้มแข็ง จากนั้นนักการเมืองค่อยเข้ามาก็ไม่มีใครคัดค้าน ไม่ใช่เผด็จการในคราบประชาธิปไตยเช่นนี้
