xs
xsm
sm
md
lg

ชัดเจน! ทุจริตในสถานศึกษา กว่า 53% เคยเห็นกันจะจะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้เชี่ยวชาญ สพฐ.เผยผลการศึกษาพบร้อยละ 53.08 เคยเห็นการทุจริตในสถานศึกษา ทั้งเบียดบังเวลาราชการทำงานอื่น หรือใช้ทรัพย์สินราชการเพื่อประโยชน์ตน ชี้ความโลภเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทุจริต

นางพจมาน พงษ์ไพบูลย์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวภายหลังการเปิดงาน ผลการศึกษา “แนวทางการแก้ไขปัญหาทุจริตในสถานศึกษาและการสร้างนักเรียนให้เป็นคนเก่ง คนดี ที่ไม่คดโกง” ที่โรงเรียนนวมินทราชูทิศ ว่า สพฐ.ในฐานะรับผิดชอบการจัดการศึกษาและสร้างเยาวชนของชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาทุจริตและเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมด้านความซื่อสัตย์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียน จึงได้ดำเนินการโครงการ “โรงเรียนสุจริต” โดยมีผู้บริหารสถานศึกษาจากโรงเรียนนำร่องทุกภาค จำนวน 225 โรงเรียน เข้าร่วมการอบรม ในหลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา รุ่นที่ 1 ในการพัฒนาสถานศึกษาที่ส่งเสริมการป้องกันการทุจริตและปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรมของชาติ

“ไม่มีโรงเรียนใดสอนให้เด็กเป็นคนไม่ดี หากแต่เด็กเห็นพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้นและซึมซับมา ดังนั้น ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาควรประพฤติตนเป็นต้นแบบที่ดี และสร้างสิ่งแวดล้อมของความถูกต้องให้เด็กเคยชิน หากคนเราเคารพในกฏกติกาแล้ว ประเทศชาติก็จะมั่งคงมากขึ้น” นางพจมาน กล่าว

ด้าน น.ส.รุ่งนภา นุตราวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญ สพฐ.และผู้เข้าร่วมหลักสูตรจิตวิทยาความมั่นคง สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา รุ่นที่ 1 เปิดเผยผลการศึกษาเชิงปริมาณใน 45 โรงเรียน ใช้วิธีการส่งแบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างผู้บริหารโรงเรียน 45 คน ครูผู้สอน 90 คน นักเรียน 90 คน นักวิชาการ 15 คน รวมทั้งสิ้น 330 คน ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 294 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 89.09 ผลการศึกษา พบว่า ร้อยละ 53.08 เคยพบเห็นการทุจริตในสถานศึกษา พฤติกรรมการทุจริตที่พบเห็นมากที่สุด คือ การเบียดบังเวลาราชการเพื่องานอื่น รองลงมาคือ การใช้ทรัพย์สินของทางราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตน การเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง การแสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ และประพฤติมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้าง ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยของการทุจริตและประพฤติมิชอบในสถานศึกษา พบว่า ความโลภเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด รองลงมาคือ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดี ผู้นำขาดคุณธรรมจริยธรรม ความทะเยอทะยาน และการถูกบีบบังคับ ตามลำดับ การวิจัยศึกษาพบอีกว่า การเสริมสร้างจิตสำนึกและค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริตเป็นแนวทางที่มีระดับความสำเร็จสูงสุดในการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสถานศึกษา

น.ส.รุ่งนภา กล่าวต่อว่า ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย คือ ควรมีการจัดทำแผนพัฒนาเสริมสร้างความซื่อสัตย์แก่บุคลากรทางการศึกษาให้เป็นวาระแห่งชาติ ส่งเสริมให้ภาคส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดำเนินงานในระบบการศึกษา กำหนดหลักเกณฑ์ในการสรรหาบุคคลเข้าสู่ตำแหน่ง การเลื่อนตำแหน่งและการประเมินความดีความชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนหรือบุคลากรทางการศึกษาต่างๆ บนพื้นฐานคุณธรรมจริยธรรมและให้มีน้ำหนักความสำคัญเท่าเทียมกับความรู้ความสามารถด้านการปฏิบัติงาน ขณะที่ รายงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบแห่งชาติ ช่วงปี พ.ศ.2543-2548 พบว่า มีการกล่าวหาร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่กระทำการทุจริตเกือบทุกกระทรวง โดยกระทรวงมหาดไทยถูกกล่าวหามากที่สุดถึง 9,317 เรื่อง ตามด้วยกระทรวงศึกษาธิการ 1,387 เรื่อง
 


กำลังโหลดความคิดเห็น