กรมการจัดหางาน เตือนแรงงานไทยระวังการนำยารักษาโรคติดตัวเข้าไปในไต้หวัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการไต้หวัน เพราะถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีแรงงานไทย เดินทางไปทำงานในไต้หวันหลายราย ได้รับหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลไต้หวัน ในข้อหานำเข้ายาแก้ปวดและแก้ไขหวัดที่มีส่วนผสมของสารเสพติด ได้แก่ ตัวยาพีพีเอ หรือฟินิลโปรปาโลนามี ซึ่งถือเป็นยาต้องห้ามที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ของไต้หวัน โดยข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมของไต้หวันพบว่า ทางการไต้หวันประสบปัญหากรณีที่มีญาติแรงงานต่างชาติส่งยามาให้ญาติที่ทำงานอยู่ในไต้หวันแล้วถูกดำเนินคดี ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำเนื่องจากการนำเข้ายามาในไต้หวันโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งแรงงานไทยมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าร้อยละ 50
ล่าสุดได้มีแรงงานไทยรายหนึ่ง ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดกำแพงเพชร เดินทางไปทำงานในโรงงานหล่อโลหะในไต้หวัน (บริษัท Shin Yin Precision Casting Co,Ltd) ตั้งอยู่ที่เมืองชิงสุ่ย นครไทจง ถูกออกหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลเพื่อให้ปากคำ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าญาติของแรงงานไทยดังกล่าวได้ส่งยาที่มีส่วนผสมของตัวยา Phenobarbitone (ฟิโนบาบิทโตน) มาให้ทางไปรษณีย์ โดยยาดังกล่าวถือเป็นยาที่ห้ามนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ จากการสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายตรวจสอบฯ ทราบว่า คนงานนั้นมีโรคประจำตัว คือ โรคลมชัก ต้องกินยาจากโรงพยาบาลที่กำแพงเพชรออกให้เป็นประจำทุกวัน แต่ยาที่นำติดตัวมาใกล้หมดจึงให้ญาติส่งมาให้ที่ไต้หวัน โดยไม่ทราบว่ายาที่ส่งมามีส่วนผสมอะไรบ้าง ดังนั้นจึงไม่มีเจตนากระทำความผิด แต่เนื่องจากยาดังกล่าวมีส่วนผสมของสารเสพติด ฝ่ายตรวจสอบฯ จึงได้ส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดีตามกฎหมายไต้หวันต่อไป
อย่างไรก็ดี เนื่องจากไต้หวันห้ามไม่ให้นำเข้ายาทุกชนิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเพื่อป้องกันการกระทำผิดโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในไต้หวันระมัดระวังเรื่องการนำยารักษาโรคติดตัวเข้าไปในไต้หวัน โดยหากมีความจำเป็นต้องนำยาติดตัวไปในระยะแรก ขอให้มีหนังสือรับรองแพทย์ (ฉบับภาษาอังกฤษ) ไปด้วย เพื่อจะได้ใช้เป็นหลักฐานและข้อมูลเบื้องต้นในการตรวจโรคที่ไต้หวัน
นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีแรงงานไทย เดินทางไปทำงานในไต้หวันหลายราย ได้รับหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลไต้หวัน ในข้อหานำเข้ายาแก้ปวดและแก้ไขหวัดที่มีส่วนผสมของสารเสพติด ได้แก่ ตัวยาพีพีเอ หรือฟินิลโปรปาโลนามี ซึ่งถือเป็นยาต้องห้ามที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ของไต้หวัน โดยข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมของไต้หวันพบว่า ทางการไต้หวันประสบปัญหากรณีที่มีญาติแรงงานต่างชาติส่งยามาให้ญาติที่ทำงานอยู่ในไต้หวันแล้วถูกดำเนินคดี ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำเนื่องจากการนำเข้ายามาในไต้หวันโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งแรงงานไทยมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าร้อยละ 50
ล่าสุดได้มีแรงงานไทยรายหนึ่ง ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดกำแพงเพชร เดินทางไปทำงานในโรงงานหล่อโลหะในไต้หวัน (บริษัท Shin Yin Precision Casting Co,Ltd) ตั้งอยู่ที่เมืองชิงสุ่ย นครไทจง ถูกออกหมายเรียกให้ไปขึ้นศาลเพื่อให้ปากคำ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าญาติของแรงงานไทยดังกล่าวได้ส่งยาที่มีส่วนผสมของตัวยา Phenobarbitone (ฟิโนบาบิทโตน) มาให้ทางไปรษณีย์ โดยยาดังกล่าวถือเป็นยาที่ห้ามนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ จากการสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายตรวจสอบฯ ทราบว่า คนงานนั้นมีโรคประจำตัว คือ โรคลมชัก ต้องกินยาจากโรงพยาบาลที่กำแพงเพชรออกให้เป็นประจำทุกวัน แต่ยาที่นำติดตัวมาใกล้หมดจึงให้ญาติส่งมาให้ที่ไต้หวัน โดยไม่ทราบว่ายาที่ส่งมามีส่วนผสมอะไรบ้าง ดังนั้นจึงไม่มีเจตนากระทำความผิด แต่เนื่องจากยาดังกล่าวมีส่วนผสมของสารเสพติด ฝ่ายตรวจสอบฯ จึงได้ส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดีตามกฎหมายไต้หวันต่อไป
อย่างไรก็ดี เนื่องจากไต้หวันห้ามไม่ให้นำเข้ายาทุกชนิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นเพื่อป้องกันการกระทำผิดโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในไต้หวันระมัดระวังเรื่องการนำยารักษาโรคติดตัวเข้าไปในไต้หวัน โดยหากมีความจำเป็นต้องนำยาติดตัวไปในระยะแรก ขอให้มีหนังสือรับรองแพทย์ (ฉบับภาษาอังกฤษ) ไปด้วย เพื่อจะได้ใช้เป็นหลักฐานและข้อมูลเบื้องต้นในการตรวจโรคที่ไต้หวัน
