อธิการบดี ม.อ.เดินหน้าสร้างความเข้าใจ นศ.-บุคลากร ยันออกนอกระบบไม่ขึ้นค่าเรียน พร้อมกำหนดผู้บริหารต้องยึดหลักธรรมาภิบาล ชูประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ เตรียมนำร่าง พ.ร.บ.ร่างที่ 4 ทำประชาพิจารณาอีกครั้ง ธ.ค.56 ถึง ม.ค.57 ใน 5 วิทยาเขต หากไม่มีปัญหาเตรียมเสนอสภามหา’ลัยเห็นชอบ ก่อนเสนอ ศธ.และ ครม.ชุดต่อไป
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นการออกกฎหมายที่กำหนดให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ว่า จากการจัดทำเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาคมมหาวิทยาลัยทั้ง 5 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตหาดใหญ่ ตรัง ภูเก็ต ปัตตานี และสุราษฎร์ธานี ครั้งแรกไปแล้วนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้นำความคิดเห็นของประชาคมมาปรับแก้ไขเพิ่มเติมนำมาสู่ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่างที่ 4 ซึ่งตนในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ จะนำประธานคณะกรรมการย่อย 3 ฝ่ายคือ คณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ. คณะกรรมการยกร่างข้อบังคับ และคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น จะรับฟังความคิดเห็นจากประชาคมทั้ง 5 วิทยาเขตอีกครั้ง ก่อนจะนำร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยฯ เสนอขอความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยภายในวันที่ 1 มีนาคม 2557
“นักศึกษาส่วนใหญ่จะกังวลว่าหากมหาวิทยาลัยเป็น ม.ในกำกับของรัฐ คือออกนอกระบบไปแล้วจะขึ้นค่าเล่าเรียน ซึ่งผมก็ได้ยืนยันกับนักศึกษาแล้วว่าการขึ้นค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยจะ กระทำการ 5 ปี ต่อ 1 ครั้ง และเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งการที่มหาวิทยาลัยเปลี่ยนสถานะเป็น ม.ในกำกับของรัฐนั้น เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการทั้งในเรื่องของงบประมาณ การบริหารงาน และการจัดการเรียนการสอน ส่วนสิ่งที่บุคลากรกังวลนั้น จะเป็นเรื่องการบริหารงานของผู้บริหาร ที่อาจจะไม่โปร่งใส ไม่มีหลักธรรมาภบาลในการบริหารงาน ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้กำหนดไว้ว่าในการบริหารมหาวิทยาลัย ผู้บริหารต้องมีหลังธรรมาภิบาลในการบริหารงาน และต้องคำนึงถึงประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก และเท่าที่ได้ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาคม คาดว่าร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยฯ ร่าง 4 นี้ น่าจะได้รับการเห็นชอบจากประชาคม” อธิการบดี ม.อ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลประยุบสภา แต่มหาวิทยาลัยก็ยังคงเดินหน้าไปตามกระบวนการที่วางไว้ คือ ทำประชาพิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกครั้ง ในช่วงเดือนธันวาคม 2556 ถึงมกราคม 2557 หากไม่มีข้อขัดข้องจะนำเสนอผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย ก่อนจะนำเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการและเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อไป
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นการออกกฎหมายที่กำหนดให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ว่า จากการจัดทำเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาคมมหาวิทยาลัยทั้ง 5 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตหาดใหญ่ ตรัง ภูเก็ต ปัตตานี และสุราษฎร์ธานี ครั้งแรกไปแล้วนั้น ทางมหาวิทยาลัยได้นำความคิดเห็นของประชาคมมาปรับแก้ไขเพิ่มเติมนำมาสู่ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่างที่ 4 ซึ่งตนในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ จะนำประธานคณะกรรมการย่อย 3 ฝ่ายคือ คณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ. คณะกรรมการยกร่างข้อบังคับ และคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น จะรับฟังความคิดเห็นจากประชาคมทั้ง 5 วิทยาเขตอีกครั้ง ก่อนจะนำร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยฯ เสนอขอความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยภายในวันที่ 1 มีนาคม 2557
“นักศึกษาส่วนใหญ่จะกังวลว่าหากมหาวิทยาลัยเป็น ม.ในกำกับของรัฐ คือออกนอกระบบไปแล้วจะขึ้นค่าเล่าเรียน ซึ่งผมก็ได้ยืนยันกับนักศึกษาแล้วว่าการขึ้นค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยจะ กระทำการ 5 ปี ต่อ 1 ครั้ง และเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งการที่มหาวิทยาลัยเปลี่ยนสถานะเป็น ม.ในกำกับของรัฐนั้น เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการทั้งในเรื่องของงบประมาณ การบริหารงาน และการจัดการเรียนการสอน ส่วนสิ่งที่บุคลากรกังวลนั้น จะเป็นเรื่องการบริหารงานของผู้บริหาร ที่อาจจะไม่โปร่งใส ไม่มีหลักธรรมาภบาลในการบริหารงาน ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้กำหนดไว้ว่าในการบริหารมหาวิทยาลัย ผู้บริหารต้องมีหลังธรรมาภิบาลในการบริหารงาน และต้องคำนึงถึงประโยชน์ของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก และเท่าที่ได้ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาคม คาดว่าร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยฯ ร่าง 4 นี้ น่าจะได้รับการเห็นชอบจากประชาคม” อธิการบดี ม.อ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลประยุบสภา แต่มหาวิทยาลัยก็ยังคงเดินหน้าไปตามกระบวนการที่วางไว้ คือ ทำประชาพิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกครั้ง ในช่วงเดือนธันวาคม 2556 ถึงมกราคม 2557 หากไม่มีข้อขัดข้องจะนำเสนอผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย ก่อนจะนำเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการและเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อไป
