กพร.ดันสถานประกอบการทั่วประเทศตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน หวังยกระดับฝีมือลูกจ้าง-เพิ่มผลผลิต สั่งสถาบันภาค-ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดจัดหน่วยเคลื่อนที่ลงพื้นที่แนะนำใช้สิทธิกู้เงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน-ขอลดหย่อนภาษี
นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.มีนโยบายจะขยายการพัฒนาฝีมือแรงงานในสาขาต่างๆ เพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงานและแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยจะส่งเสริมให้สถานประกอบการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานขึ้นภายในสถานประกอบการ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้สั่งการให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคและศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ จัดหน่วยเคลื่อนที่ลงพื้นที่ตั้งแต่เดือน ธ.ค.เพื่อประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่สถานประกอบการในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งให้คำแนะนำเรื่องการใช้สิทธิขอลดหย่อนภาษีตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 โดยสถานประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานไปยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าจากค่าใช้จ่ายฝึกอบรมทั้งหมด
อธิบดี กพร.กล่าวอีกว่า ส่วนแหล่งทุนในการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานโดยในส่วนของ กพร.มีกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานที่ขณะนี้มีเงินกองทุนอยู่กว่า 900 ล้านบาท ซึ่งสถานประกอบการสามารถมายื่นกู้เงินจากกองทุนนี้ได้เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายฝึกอบรมและเข้าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และหากกู้เงินกองทุนในเดือนธ.ค.2556 คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 0.1 ต่อปี เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ หลังจากนั้นตั้งแต่เดือน ม.ค.ปี 2557 หากสถานประกอบการมายื่นกู้จะคิดดอกเบี้ยในอัตราเดิมคือร้อยละ 3 ต่อปี นอกจากนี้ กพร.จะช่วยประสานแหล่งเงินทุนอื่นๆในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เช่น ธนาคารเอสเอ็มอีให้แก่สถานประกอบการด้วย
“การที่ กพร.ส่งเสริมให้สถานประกอบการที่มีความพร้อมเป็นศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานย่อยๆ ในสาขาที่มีศักยภาพ จะช่วยยกระดับฝีมือแรงงานและทำให้ผลผลิตของสถานประกอบการเพิ่มขึ้น เพราะลำพัง กพร.คงไม่สามารถพัฒนาฝีมือแรงงานได้จำนวนมากๆ ในเวลาอันสั้น จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายคือสถานประกอบการต่างๆ ให้ช่วยดำเนินการอีกทางหนึ่งด้วย” นายนคร กล่าว
นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.มีนโยบายจะขยายการพัฒนาฝีมือแรงงานในสาขาต่างๆ เพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงานและแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยจะส่งเสริมให้สถานประกอบการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานขึ้นภายในสถานประกอบการ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้สั่งการให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคและศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ จัดหน่วยเคลื่อนที่ลงพื้นที่ตั้งแต่เดือน ธ.ค.เพื่อประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่สถานประกอบการในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งให้คำแนะนำเรื่องการใช้สิทธิขอลดหย่อนภาษีตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 โดยสถานประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานไปยื่นขอลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าจากค่าใช้จ่ายฝึกอบรมทั้งหมด
อธิบดี กพร.กล่าวอีกว่า ส่วนแหล่งทุนในการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานโดยในส่วนของ กพร.มีกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานที่ขณะนี้มีเงินกองทุนอยู่กว่า 900 ล้านบาท ซึ่งสถานประกอบการสามารถมายื่นกู้เงินจากกองทุนนี้ได้เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายฝึกอบรมและเข้าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และหากกู้เงินกองทุนในเดือนธ.ค.2556 คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 0.1 ต่อปี เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ หลังจากนั้นตั้งแต่เดือน ม.ค.ปี 2557 หากสถานประกอบการมายื่นกู้จะคิดดอกเบี้ยในอัตราเดิมคือร้อยละ 3 ต่อปี นอกจากนี้ กพร.จะช่วยประสานแหล่งเงินทุนอื่นๆในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เช่น ธนาคารเอสเอ็มอีให้แก่สถานประกอบการด้วย
“การที่ กพร.ส่งเสริมให้สถานประกอบการที่มีความพร้อมเป็นศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานย่อยๆ ในสาขาที่มีศักยภาพ จะช่วยยกระดับฝีมือแรงงานและทำให้ผลผลิตของสถานประกอบการเพิ่มขึ้น เพราะลำพัง กพร.คงไม่สามารถพัฒนาฝีมือแรงงานได้จำนวนมากๆ ในเวลาอันสั้น จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายคือสถานประกอบการต่างๆ ให้ช่วยดำเนินการอีกทางหนึ่งด้วย” นายนคร กล่าว
