สธ.เตือนหญิงตั้งครรภ์เลิกงมงายใช้สมุนไพรทำยาดองเหล้าซดเชื่อช่วยคลอดง่าย ชี้เสี่ยงอันตรายถึงลูก เหตุฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำอันตรายเซลล์สมอง สติปัญญาพัฒนาช้า ตัวเล็กกว่าเด็กปกติ หรืออาจพิการ จี้กรมแพทย์แผนไทยให้ความรู้
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ว่า จากการทำงานคลุกคลีกับประชาชนในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท พบว่าสวนใหญ่ยังมีความเชื่อ ศรัทธาการแพทย์แผนไทย และยาสมุนไพรไทยอยู่พอสมควร อาจถูกบ้างผิดบ้างตามที่ได้รับสืบทอดความเชื่อสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ ในการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร เช่น บางพื้นที่มีความเชื่อบอกเล่าสืบต่อกันมาแบบปากต่อปากว่าการดื่มยาดองเหล้าช่วยทำให้สุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี มีเลือดฝาด และที่น่าห่วงมากคือเชื่อว่าหากหญิงตั้งครรภ์ดื่มยาดองเหล้าเป็นประจำจะทำให้คลอดง่าย ไม่เจ็บปวดมากซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดและมีอันตราย โดยเฉพาะอันตรายต่อทารกในครรภ์
นายสรวงศ์กล่าวต่อว่า ตามข้อมูลวิชาการทางการแพทย์ระบุว่า สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ผู้ที่เป็นไข้ ไม่ควรดื่มยาดองเหล้า เพราะส่วนประกอบหลักของยาดองเหล้าก็คือเหล้า และเหล้าที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเหล้าขาว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ แอลกอฮอล์ที่แม่ดื่มเข้าไปจะไปถึงลูกผ่านทางรก ทำให้ทารกเกิดความพิการได้ทั้งทางร่างกายและสมอง โดยเฉพาะในช่วงที่แม่มีอายุครรภ์ 6-8 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงการสร้างอวัยวะของตัวอ่อนเด็กในครรภ์ ทารกที่แม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เมื่อเกิดมาจะมีความพิการทางไต หรือที่กระดูกซี่โครงหรือกระดูกไขสันหลัง รูปร่างแคระแกร็น ตัวเล็กกว่าเด็กปกติ ที่สำคัญคือแอลกอฮอล์จะทำไปทำลายระบบประสาทส่วนกลางของทารก ทำให้โครงสร้างของสมองผิดปกติ เช่น ไม่มีสมองใหญ่ สมองใหญ่มีร่องผิดปกติ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กด้านสติปัญญา ความจำ และการเคลื่อนไหว เสี่ยงต่อการเกิดโรคทางจิตเวช วิตกกังวล ซึมเศร้า พฤติกรรมอันธพาล อาจมีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ซุกซนไม่อยู่นิ่ง สมาธิสั้น เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อตัวเด็กในการใช้ชีวิตในสังคม
“ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเร่งให้ข้อมูลความรู้เรื่องยาดองเหล้าให้ประชาชนและรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันผลกระทบที่กล่าวมา โดยใช้พลัง อสม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพิ่มการให้ความรู้เรื่องสมุนไพร ยาสมุนไพร เพื่อสร้างการยอมรับ โดยกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนใช้ยาสมุนไพร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 14 ของยาที่ใช้ทั้งหมด” รมช.สาธารณสุขกล่าว
ด้าน นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สมุนไพรที่ใช้ดองเหล้าส่วนใหญ่จะมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เจริญอาหาร บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย เช่น สมุนไพรจะค้าน (สะค้าน) มีสรรพคุณเป็นยาธาตุ ฝางใช้บำรุงโลหิต แก้ปอดพิการ ขับเสมหะและระดู สมุนไพรปิดปิวแดงใช้ขับประจำเดือน กระจายลม บำรุงธาตุ ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุไฟ สมุนไพรกำลังเสือโคร่งใช้บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย มะเขือแจ้เครือใช้ทั้งต้นต้มหรือดองเหล้าเป็นยาแก้ปวดหลังหรือบั้นเอว สมุนไพรรางแดงแก้กระษัย แก้เส้นเอ็นตึง ผสมยาเจริญอาหารและเป็นยาอายุวัฒนะพริกไทยช่วยขับลม บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร เถาฮ่อสะพายควายใช้ดองเหล้า บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย สมุนไพรแส้ม้าทะลายโรงใช้เถาดองเหล้าดื่มแก้ปวดหลังปวดเอว
“ยาดองเหล้าโดยทั่วไป มักใช้ส่วนต่างๆ ของพืชสมุนไพรได้แก่ ราก ลำต้น เถา หรือแก่น มาสับเป็นชิ้นเล็กๆให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการ แล้วนำไปแช่ในเหล้า ปริมาณยาของแต่ละสูตรจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ประสบการณ์ของหมอยา บางคนใช้สมุนไพรเพียงชนิดเดียว หรือบางคนใช้หลายๆ ชนิดปรุงรวมกันเป็นยาดอง โดยใช้เหล้าเป็นตัวทำละลายและดึงเอาตัวยาออกมาจากสมุนไพร ยาดองเหล้าทุกสูตรควรรับประทานเมื่อมีอาการเจ็บป่วย เพียงวันละ 2 ครั้งคือ ก่อนอาหารเช้าและเย็น ครั้งละประมาณ 30 ซีซี หรือ 1 ถ้วยตะไลเท่านั้นไม่ควรดื่มต่อเนื่องทุกวันเพราะอาจทำให้กลายเป็นโรคติดสุราเรื้อรังได้” อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าว
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า สมุนไพรบางชนิดมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงกำหนัด เช่น โด่ไม่รู้ล้มใช้แก้เหน็บชา บำรุงหัวใจ บำรุงกำหนัด ขับน้ำเหลืองเสียใช้เป็นยาบำรุงหลังคลอดได้ มะเขือแจ้ป่าเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด เป็นต้น แต่ในทางการค้าผู้ขายยาดองเหล้ามักจะตั้งชื่อยาดองเหล้าให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดว่า เป็นยาบำรุงกำลังทางเพศเพิ่มความแข็งแรง เช่น กระโดดกำแพง สาวน้อยตกเตียง กำลังเสือโคร่ง และเฒ่าชูงวง เป็นต้น ทั้งที่สมุนไพรดังกล่าวมีสรรพคุณแค่ใช้บำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงเลือด คลายเส้นเอ็นแก้ปวดเมื่อยเท่านั้น
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ว่า จากการทำงานคลุกคลีกับประชาชนในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท พบว่าสวนใหญ่ยังมีความเชื่อ ศรัทธาการแพทย์แผนไทย และยาสมุนไพรไทยอยู่พอสมควร อาจถูกบ้างผิดบ้างตามที่ได้รับสืบทอดความเชื่อสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ ในการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร เช่น บางพื้นที่มีความเชื่อบอกเล่าสืบต่อกันมาแบบปากต่อปากว่าการดื่มยาดองเหล้าช่วยทำให้สุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี มีเลือดฝาด และที่น่าห่วงมากคือเชื่อว่าหากหญิงตั้งครรภ์ดื่มยาดองเหล้าเป็นประจำจะทำให้คลอดง่าย ไม่เจ็บปวดมากซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดและมีอันตราย โดยเฉพาะอันตรายต่อทารกในครรภ์
นายสรวงศ์กล่าวต่อว่า ตามข้อมูลวิชาการทางการแพทย์ระบุว่า สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ผู้ที่เป็นไข้ ไม่ควรดื่มยาดองเหล้า เพราะส่วนประกอบหลักของยาดองเหล้าก็คือเหล้า และเหล้าที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเหล้าขาว ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ แอลกอฮอล์ที่แม่ดื่มเข้าไปจะไปถึงลูกผ่านทางรก ทำให้ทารกเกิดความพิการได้ทั้งทางร่างกายและสมอง โดยเฉพาะในช่วงที่แม่มีอายุครรภ์ 6-8 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงการสร้างอวัยวะของตัวอ่อนเด็กในครรภ์ ทารกที่แม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เมื่อเกิดมาจะมีความพิการทางไต หรือที่กระดูกซี่โครงหรือกระดูกไขสันหลัง รูปร่างแคระแกร็น ตัวเล็กกว่าเด็กปกติ ที่สำคัญคือแอลกอฮอล์จะทำไปทำลายระบบประสาทส่วนกลางของทารก ทำให้โครงสร้างของสมองผิดปกติ เช่น ไม่มีสมองใหญ่ สมองใหญ่มีร่องผิดปกติ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กด้านสติปัญญา ความจำ และการเคลื่อนไหว เสี่ยงต่อการเกิดโรคทางจิตเวช วิตกกังวล ซึมเศร้า พฤติกรรมอันธพาล อาจมีปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ซุกซนไม่อยู่นิ่ง สมาธิสั้น เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อตัวเด็กในการใช้ชีวิตในสังคม
“ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเร่งให้ข้อมูลความรู้เรื่องยาดองเหล้าให้ประชาชนและรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันผลกระทบที่กล่าวมา โดยใช้พลัง อสม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเพิ่มการให้ความรู้เรื่องสมุนไพร ยาสมุนไพร เพื่อสร้างการยอมรับ โดยกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนใช้ยาสมุนไพร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 14 ของยาที่ใช้ทั้งหมด” รมช.สาธารณสุขกล่าว
ด้าน นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สมุนไพรที่ใช้ดองเหล้าส่วนใหญ่จะมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เจริญอาหาร บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย เช่น สมุนไพรจะค้าน (สะค้าน) มีสรรพคุณเป็นยาธาตุ ฝางใช้บำรุงโลหิต แก้ปอดพิการ ขับเสมหะและระดู สมุนไพรปิดปิวแดงใช้ขับประจำเดือน กระจายลม บำรุงธาตุ ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุไฟ สมุนไพรกำลังเสือโคร่งใช้บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย มะเขือแจ้เครือใช้ทั้งต้นต้มหรือดองเหล้าเป็นยาแก้ปวดหลังหรือบั้นเอว สมุนไพรรางแดงแก้กระษัย แก้เส้นเอ็นตึง ผสมยาเจริญอาหารและเป็นยาอายุวัฒนะพริกไทยช่วยขับลม บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร เถาฮ่อสะพายควายใช้ดองเหล้า บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย สมุนไพรแส้ม้าทะลายโรงใช้เถาดองเหล้าดื่มแก้ปวดหลังปวดเอว
“ยาดองเหล้าโดยทั่วไป มักใช้ส่วนต่างๆ ของพืชสมุนไพรได้แก่ ราก ลำต้น เถา หรือแก่น มาสับเป็นชิ้นเล็กๆให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการ แล้วนำไปแช่ในเหล้า ปริมาณยาของแต่ละสูตรจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ประสบการณ์ของหมอยา บางคนใช้สมุนไพรเพียงชนิดเดียว หรือบางคนใช้หลายๆ ชนิดปรุงรวมกันเป็นยาดอง โดยใช้เหล้าเป็นตัวทำละลายและดึงเอาตัวยาออกมาจากสมุนไพร ยาดองเหล้าทุกสูตรควรรับประทานเมื่อมีอาการเจ็บป่วย เพียงวันละ 2 ครั้งคือ ก่อนอาหารเช้าและเย็น ครั้งละประมาณ 30 ซีซี หรือ 1 ถ้วยตะไลเท่านั้นไม่ควรดื่มต่อเนื่องทุกวันเพราะอาจทำให้กลายเป็นโรคติดสุราเรื้อรังได้” อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าว
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า สมุนไพรบางชนิดมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงกำหนัด เช่น โด่ไม่รู้ล้มใช้แก้เหน็บชา บำรุงหัวใจ บำรุงกำหนัด ขับน้ำเหลืองเสียใช้เป็นยาบำรุงหลังคลอดได้ มะเขือแจ้ป่าเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงกำหนัด เป็นต้น แต่ในทางการค้าผู้ขายยาดองเหล้ามักจะตั้งชื่อยาดองเหล้าให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดว่า เป็นยาบำรุงกำลังทางเพศเพิ่มความแข็งแรง เช่น กระโดดกำแพง สาวน้อยตกเตียง กำลังเสือโคร่ง และเฒ่าชูงวง เป็นต้น ทั้งที่สมุนไพรดังกล่าวมีสรรพคุณแค่ใช้บำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงเลือด คลายเส้นเอ็นแก้ปวดเมื่อยเท่านั้น