xs
xsm
sm
md
lg

รบ.บอกเสียใจเหตุรุนแรง ส่ง “ประดิษฐ” ขอโทษ วอนหันหน้าคุยสันติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ประดิษฐ” เผยรัฐบาลเสียใจ และอยากขอโทษกับเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น วอนผู้ชุมนุมหันหน้าคุยให้ทุกอย่างจบอย่างสันติ ลั่นต้องไม่ใช่แนวทาง “เทพเทือก” หวังหาทางออกของประเทศ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แพทย์รามาฯเผย รายถูกยิงอกทะลุช่องท้องอาการดีขึ้น

วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น.ที่โรงพยาบาลสงฆ์ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมศูนย์บัญชาการการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข ว่า จากการทำงานร่วมกันกับศูนย์เอราวัณกรุงเทพมหานคร รพ.ศิริราช และ รพ.รามาธิบดี ขณะนี้ได้มีการปรับแผนจุดรับส่งผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะทางการเมืองเพิ่มเป็น 4 จุด คือ พระที่นั่งวิมานเมฆ แยกวัดเบญจมบพิตร แยกเทวกรรม และทางขึ้นทางด่วนยมราช ส่วนพื้นที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะนั้น เป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การสั่งการของ รพ.พระนั่งเกล้า โดยมีจุดรับที่เมืองทองธานี แต่อาจมีการปรับพื้นที่ตามความเหมาะสม โดยมีทีมแพทย์จาก 8 จังหวัดพร้อมเข้าสนับสนุน

นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่กระทรวงการคลัง ยังไม่มีทีมแพทย์เข้าประจำจุด ต้องรอการประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม มีทีมแพทย์ที่พร้อมสนับสนุนอยู่ที่ สธ.40 ทีม จาก 25 จังหวัด โดยศูนย์นเรนทร รพ.ราชวิถี จะทำหน้าที่ในการสั่งการการส่งต่อไปโรงพยาบาลต่างๆ และการสำรองเตียง ทั้งนี้ เรื่องการสนับสนุนน้ำเกลือนั้น ขอยืนยันว่า มีการสนับสนุนให้แพทย์หรือโรงพยาบาลสนามและจุดที่มีการชุมนุม

เมื่อเวลา 13.45 น. นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมศูนย์ส่วนหน้าและเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ทางการเมือง ที่ รพ.ราชวิถี และ รพ.รามาธิบดี ว่า นายกรัฐมนตรียังคงยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงใช้เพียงกระบองและโล่เท่านั้น ไม่มีการใช้อาวุธปืนแต่อย่างใด ที่สำคัญผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นการถูกยิงระยะใกล้ ไม่ได้มาจากตำรวจที่อยู่ในระยะไกล ส่วนกลุ่มแพทย์อาสาที่อยากเข้าไปในพื้นที่ขอให้ประสานมายังศูนย์ส่วนหน้า เพื่อที่จะได้จัดแบ่งเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และไม่เป็นภาระสำหรับผู้ดูแล รวมถึงเกิดความสับสนในพื้นที่ด้วย

นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า นายกฯได้กำชับให้ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างเท่าเทียมทุกฝ่ายด้วย โดยมีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงมหาดไทย เป็นคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ยังให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน เพื่อแสดงความจริงใจ และเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ว่ารัฐบาลมีความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากจะให้ทุกอย่างจบอย่างสันติ

"รัฐบาลเสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ที่ต้องมีคนไทยได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ซึ่งเราไม่สบายใจและเสียใจตลอด และอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็มีการต่อว่าว่าทำไมไม่มีการดูแล ซึ่งทางเราก็อธิบายไป และก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรในการมาเยี่ยม จึงคิดว่าน่าจะมีการปรองดองพูดคุยโดยสันติได้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมอาจมีทางออกอย่างอื่นอีก ก็อยากจะให้เข้ามาร่วมพูดคุยกัน แต่หากยึดตามแนวทางของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็อาจจะไปต่อไม่ได้ และขณะนี้ใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษาแล้ว อยากให้มาคุยอย่างสันติ เพื่อเป็นสิ่งดีๆ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ประดิษฐ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลอยากจะดูแลประชาชนให้ดีมากกว่านี้ และอยากให้บุคลากรทางการแพทย์มาดูแลประชาชน อย่าเกี่ยงงอนเลือกไปตั้งแยกโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ ซึ่ง สธ.ขอยืนยันว่า ตั้งใจดูแลเต็มที่ไม่งอมืองอเท้า หรือใส่เกียร์ว่างในการดูแลประชาชน ส่วนการดูแลนักศึกษา ม.รามคำแหง ก็ต้องขอโทษที่ดูแลไม่ดี ขอทำความเข้าใจว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ภายใต้ข้อจำกัดหลายอย่าง เพราะแม้แต่หน่วยพยาบาลก็ยังเข้าไปไม่ได้ สำหรับเรื่องความชอบธรรมในการใช้แก๊สน้ำตาต่อผู้
ชุมนุม ก็เป็นการทำตามหน้าที่ รัฐบาลก็อยากจะขอโทษ และก็จะเข้าไปเยียวยา ซึ่งการดูแลทางการแพทย์ก็จะมีสถาบันทางการแพทย์ต่างๆ ดูแลเต็มที่อยู่แล้ว

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.ที่ ม.รามคำแหงนั้น เราปฏิเสธการเรียกร้องความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ไม่อยากให้ด่วนสรุปว่ารัฐบาลเป็นผู้กระทำ โดยเฉพาะน้องนักศึกษา ม.รามคำแหง ซึ่งหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะหาคนกระทำผิดให้ได้ ส่วนการเยียวยาเป็นหน้าที่ของ พม.และกระทรวงมหาดไทยในการดูแล ส่วนตน รมว.สาธารณสุข และปลัด สธ.จะดูแลรับผิดชอบการฟื้นฟูร่างกายของประชาชนตามที่นายกฯมอบหมาย

นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.ราชวิถี ให้การดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 22 ราย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย แบ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ ม.รามคำแหง 12 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท โดยมี 1 รายคาดว่าถูกสะเก็ดระเบิดใส่ และอีก 1 ราย ถูกกระสุนปืนเข้าที่เข่าด้านขวา ซึ่งทั้งสองรายทำการผ่าตัดให้หายดีแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลมีทั้งหมด 10 ราย ถูกแก๊สน้ำตา 8 ราย ซึ่งให้การรักษาเบื้องต้นแล้ว ส่วนอีก 1 รายเป็นผู้สูงอายุมาด้วยอาการเป็นลม และ 1 รายมีอาการหอบ ซึ่งได้ให้การรักษาจนสามารถกลับบ้านได้แล้ว

ด้าน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ขณะนี้เหลือผู้ได้รับบาดเจ็บนอนที่โรงพยาบาล 7 ราย เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ ม.รามคำแหง 3 ราย และเหตุปะทะบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล 4 ราย สำหรับผู้บาดเจ็บที่ถูกกระสุนจริงยิงที่หน้าอกทะลุช่องท้องนั้น ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

นายธีรพล คะมุง อายุ 23 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะจากบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ได้รับบาดเจ็บจากการโดนสะเก็ดระเบิดที่โยนลงมาจากบริเวณทางยกระดับรามคำแหงที่ตัดผ่านหน้ามหาวิทยาลัย ขณะกำลังจะเดินออกจากมหาวิทยาลัย ในเวลา 07.00 น.ทำให้เส้นเลือดบริเวณขาฉีกขาด

นางวัฒนา สายเสน อายุ 52 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตพระนคร พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า มาเข้าร่วมการชุมนุมเป็นครั้งคราว จนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระป๋องแก๊สน้ำตายิงกระแทกเข้าใส่ ทำให้กระดูกบริเวณโคนนิ้วก้อยแตก ขณะนี้รอแพทย์ประเมินอาการ


กำลังโหลดความคิดเห็น