กรมวิทย์เผยผลตรวจเชื้อผู้แสวงบุญฮัจญ์ ไม่พบเชื้อโคโรนาไวรัส ระบุพบแต่เชื้อไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นชนิด H1N1 และ H1N3 เตือนผู้แสวงบุญเฝ้าระวังอาการตัวเองอีก 30 วัน
วันนี้ (26 พ.ย.)นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ไปแสวงบุญพิธีฮัจญ์ ณ กรุงเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ทยอยกลับเข้ามาประเทศไทยครบแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกรมวิทย์ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 ด้วยวิธี real time RT-PCR ระหว่างวันที่ 22 ต.ค.-20 พ.ย.จำนวน 246 ตัวอย่าง พบว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด แต่ส่วนใหญ่พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ร้อยละ 25 แยกเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) ร้อยละ 55.55 ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N3) ร้อยละ 35.55 และไข้หวัดใหญ่ชนิด B ร้อยละ 8.90 อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย
นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า เชื้อไวรัสโคโรนาโดยทั่วไป เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบอื่นๆ ในคนและสัตว์ โดยอาจมีความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ส่วนเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012 ที่เพิ่งต้นพบและระบาดอยู่แถบประเทศทางคาบสมุทรอารเบียน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงร่วมกับไตวาย ดังนั้น ผู้ที่เดินทางกลับจากพิธีฮัจญ์ควรสังเกตอาการผิดปกติต่ออีก 30 วัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกควรพักผ่อนอยู่กับบ้านและปฏิบัติตามมาตรการลดการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง โดยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน หรือมีอาการไข้สูงหอบ เหนื่อยหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางในต่างประเทศ เพื่อให้การดูแลอย่างถูกต้องและทันท่วงที
วันนี้ (26 พ.ย.)นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ไปแสวงบุญพิธีฮัจญ์ ณ กรุงเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ทยอยกลับเข้ามาประเทศไทยครบแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกรมวิทย์ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วยที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2012 ด้วยวิธี real time RT-PCR ระหว่างวันที่ 22 ต.ค.-20 พ.ย.จำนวน 246 ตัวอย่าง พบว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด แต่ส่วนใหญ่พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ร้อยละ 25 แยกเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) ร้อยละ 55.55 ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N3) ร้อยละ 35.55 และไข้หวัดใหญ่ชนิด B ร้อยละ 8.90 อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีมาตรการในการเฝ้าระวังติดตามสุขภาพผู้แสวงบุญเป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย
นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า เชื้อไวรัสโคโรนาโดยทั่วไป เป็นกลุ่มของเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือระบบอื่นๆ ในคนและสัตว์ โดยอาจมีความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เช่น เป็นไข้หวัดธรรมดา หูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ส่วนเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012 ที่เพิ่งต้นพบและระบาดอยู่แถบประเทศทางคาบสมุทรอารเบียน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงร่วมกับไตวาย ดังนั้น ผู้ที่เดินทางกลับจากพิธีฮัจญ์ควรสังเกตอาการผิดปกติต่ออีก 30 วัน หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกควรพักผ่อนอยู่กับบ้านและปฏิบัติตามมาตรการลดการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง โดยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน หรือมีอาการไข้สูงหอบ เหนื่อยหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางในต่างประเทศ เพื่อให้การดูแลอย่างถูกต้องและทันท่วงที
