ปัตตานี - กรมควบคุมโรคเขต 12 ห่วงผู้ที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์เสี่ยงติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 เผยพบผู้ป่วยจากการประกอบพิธีฮัจญ์ จำนวน 3 ราย มีอาการคล้ายการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า แต่ศูนย์วิทย์สงขลาได้ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ จึงเตือนผู้ที่กลับจากแสวงบุญหากเกิดอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ รีบหาหมอทันที
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีผู้เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 23-24 ตุลาคม 2556 ลงเครื่องที่สนามบินนราธิวาส จำนวน 474 ราย พบมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไอ เจ็บคอ 116 ราย เข้านิยามการเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 จำนวน 3 รายในจำนวนนี้ แพทย์วินิจฉัยปอดอักเสบ ส่งต่อจากโรงพยาบาลเมกกะ 1 ราย อีก 2 ราย มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างผู้ป่วยทั้ง 3 เพื่อส่งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สงขลา และทำ chest x-ray จากการตรวจตัวอย่างทั้ง 3 ราย ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 และวันที่ 25-27 ตุลาคม 2556 มีผู้เดินทางกลับประเทศไทย ลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จำนวน 773 ราย พบมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไอ เจ็บคอ 83 ราย ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012
และจากรายงานจากเพิ่มเติมโรงพยาบาลสงขลา, โรงพยาบาลปัตตานี, โรงพยาบาลนราธิวาส และโรงพยาบาลเบตง ตั้งแต่วันที่ 25-27 ตุลาคม 2556 มีผู้ป่วยที่เดินทางเข้ารับการรักษาตัวซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 5 ราย ซึ่งเข้ารับการรักษาด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย ซึ่งแพทย์ทำการเก็บตัวอย่างเสมหะ ส่งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สงขลา เพื่อตรวจวินิจฉัย และเฝ้าระวังอาการต่อไป ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 ในพื้นที่
ด้าน ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผอ.สคร.12 สงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรงมาก คือ มีอาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หรืออาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และมีอาการไอ และเหนื่อยหอบอย่างรวดเร็ว พบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่มักจะมีอาการรุนแรงถึงเสียชีวิตในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯ
การติดต่อโดยการไอ หรือจาม และการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย โดยเฉลี่ยเมื่อรับเชื้อแล้ว จะมีอาการภายใน 2-4 วัน โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เครือข่ายบริการสุขภาพ ที่ 12 มีความห่วงใยพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางกลับจากการไปประกอบพิธีฮัจญ์ จึงขอให้ท่าน และคนในครอบครัวปฏิบัติตน และสังเกตอาการในระยะ 2 สัปดาห์ หากมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย ปวดศีรษะ ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง หรือหากมีข้อสงสัยโปรดสอบถามได้จากโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งใกล้บ้านท่าน หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ โทรสายด่วน 1422 หรือ www. ddc.moph.go.th.
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มีผู้เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 23-24 ตุลาคม 2556 ลงเครื่องที่สนามบินนราธิวาส จำนวน 474 ราย พบมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไอ เจ็บคอ 116 ราย เข้านิยามการเฝ้าระวังผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 จำนวน 3 รายในจำนวนนี้ แพทย์วินิจฉัยปอดอักเสบ ส่งต่อจากโรงพยาบาลเมกกะ 1 ราย อีก 2 ราย มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างผู้ป่วยทั้ง 3 เพื่อส่งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สงขลา และทำ chest x-ray จากการตรวจตัวอย่างทั้ง 3 ราย ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 และวันที่ 25-27 ตุลาคม 2556 มีผู้เดินทางกลับประเทศไทย ลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ จำนวน 773 ราย พบมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไอ เจ็บคอ 83 ราย ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012
และจากรายงานจากเพิ่มเติมโรงพยาบาลสงขลา, โรงพยาบาลปัตตานี, โรงพยาบาลนราธิวาส และโรงพยาบาลเบตง ตั้งแต่วันที่ 25-27 ตุลาคม 2556 มีผู้ป่วยที่เดินทางเข้ารับการรักษาตัวซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 5 ราย ซึ่งเข้ารับการรักษาด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย ซึ่งแพทย์ทำการเก็บตัวอย่างเสมหะ ส่งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สงขลา เพื่อตรวจวินิจฉัย และเฝ้าระวังอาการต่อไป ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 ในพื้นที่
ด้าน ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผอ.สคร.12 สงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่มีอาการรุนแรงมาก คือ มีอาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หรืออาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และมีอาการไอ และเหนื่อยหอบอย่างรวดเร็ว พบได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่มักจะมีอาการรุนแรงถึงเสียชีวิตในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯ
การติดต่อโดยการไอ หรือจาม และการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย โดยเฉลี่ยเมื่อรับเชื้อแล้ว จะมีอาการภายใน 2-4 วัน โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เครือข่ายบริการสุขภาพ ที่ 12 มีความห่วงใยพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางกลับจากการไปประกอบพิธีฮัจญ์ จึงขอให้ท่าน และคนในครอบครัวปฏิบัติตน และสังเกตอาการในระยะ 2 สัปดาห์ หากมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย ปวดศีรษะ ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง หรือหากมีข้อสงสัยโปรดสอบถามได้จากโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งใกล้บ้านท่าน หรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ โทรสายด่วน 1422 หรือ www. ddc.moph.go.th.