กลุ่ม ผอ.รพ.ชุมชนออกแถลงการณ์ค้าน พ.ร.บ.นิรโทษล้างคนผิด จวกนักการเมืองใช้เสียงข้างมากออกกฎหมายไร้ความเป็นธรรม พร้อมเชิญชวนบุคลากรใน รพ.ชุมชน ดำเนินการตาม 5 มาตรการ แสดงสัญลักษณ์อารยะขัดขืน ด้าน บุคลากรทางการแพทย์ร่วมลงชื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กว่า 3,100 รายชื่อ อดีตแพทย์ประจำบ้านพฤษภาทมิฬ เตือนรัฐบาลอย่ามองคนออกมาต่อต้านว่าต้องการล้มรัฐบาล เสนอให้แก้ปัญหาด้วยการยุบสภา ชี้มาจากการเลือกตั้ง ก็ควรคืนอำนาจให้ประชาชน
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีใจความดังนี้
ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 โดยมีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ต่อนักการเมือง แกนนำผู้ชุมนุม ผู้สั่งการทุกฝ่าย และผู้รับโทษตามกระบวนการศาลยุติธรรม โดย พ.ร.บ.นิรโทษเหมาเข่งดังกล่าว มีเจตนาอันมิชอบ ลบล้างความผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมืองในรูปแบบต่างๆ ให้บุคคลบางกลุ่ม ทั้งที่ศาลยุติธรรมได้พิพากษาถึงที่สุดไปก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงยุติการดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับคดีทุจริต คอร์รัปชัน และคดีอาญาที่กำลังดำเนินการอยู่
ผลการกระทำดังกล่าวส่งผลในการสร้างความขัดแย้งและเป็นภัยต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม ระบบคุณธรรมจริยธรรมของประเทศไทย และหลักประชาธิปไตย ซึ่งบ้านเมืองเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่ของนักการเมืองเฉพาะในสภาที่ ส.ส.เสียงข้างมากจะออกกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมตามใจชอบ โดยสนใจแต่เฉพาะประโยชน์พวกพ้องเป็นหลัก ไม่สนใจเสียงและความคิดเห็นของประชาชน
ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทยในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ขอเชิญชวนโรงพยาบาลชุมชนกว่า 700 แห่ง โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป และ รพ.สต.ทุกแห่ง มีความกล้าหาญทางจริยธรรม กล้าแสดงออกคัดค้านต่อการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ที่มุ่งล้างผิดคนโกง แก้เนื้อหาจากวาระ 1 ที่ระบุให้นิรโทษกรรมแก่ประชาชน ที่ทำผิดกฎหมายมาเป็นการนิรโทษกรรมเหมาเข่งสุดซอยตลอด 9 ปี (พ.ศ.2547-2556) ในทุกฐานความผิด ซึ่งเท่ากับเป็นการนำเอาอำนาจนิติบัญญัติมารับใช้ทุนสามานย์ บิดเบือนอำนาจนิติบัญญัติให้มีอำนาจเหนืออำนาจบริหารและตุลาการ เท่ากับล้มระบบกฎหมาย ทำลายนิติรัฐ คนทำผิดไม่ต้องรับโทษ นับเป็นวิกฤตครั้งสำคัญของสังคมไทย
ขอให้กำลังใจเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชนทั้งหลายและเหล่าผู้กล้าทุกท่าน ที่ได้มารวมกันแสดงพลังของผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ออกมาแสดงพลังปกป้องหลักนิติรัฐ นิติธรรมอันเป็นหลักการสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และขอเชิญชวนให้โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งดำเนินการตามมาตรการดังต่อไปนี้
1.ขึ้นป้ายหน้าโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน และเป็นการร่วมสร้างกระแสการไม่ยอมรับการใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภา ประกาศให้สาธารณะรับรู้
2.ร่วมรณรงค์ทุกรูปแบบกับพี่น้องประชาชนในอำเภอของท่าน ให้ข้อมูลทำความเข้าใจที่แท้จริงถึงผลดีผลเสียของ พ.ร.บ.นิรโทษเหมาเข่งนี้เพื่อหยุด พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งให้จงได้
3.ขอแจ้งโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศไทย ขึ้นป้ายพร้อมเพรียงกัน เพื่อสร้างกระแสและเป็นตัวอย่างปลุกเร้าความกล้าหาญในการยืนเคียงข้างความถูกต้อง ความเป็นธรรมของประชาชนผู้สูญเสียญาติ พี่น้องจากเหตุการณ์ความรุนแรง ความไม่สงบต่างๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
4.นำภาพป้ายการอารยะคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกเผยแพร่ทางสื่อมวลชนต่างๆ facebook ชมรมต่างๆ เช่น ชมรมแพทย์ชนบท ชมรม ผอ.รพช.ชมรมทันตภูธร เป็นต้น หรือสื่อมวลชนที่ท่านรู้จัก
5.ในกรณีวุฒิสภาผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษเหมาเข่งฉบับนี้ ขอเชิญชวนบุคลากรของโรงพยาบาลชุมชนทุกคนเข้าร่วมกับกลุ่มพลังมวลชนอื่นๆ ในการคัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต่อไปจนถึงที่สุด
นพ.พรเจริญ เจียมบุญศรี
ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย
** อดีตแพทย์ประจำบ้านพฤษภาทมิฬเสนอยุบสภา คืนอำนาจให้ ปชช.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สวรรค์ กาญจนะ อดีตผู้นำแพทย์ประจำบ้านผู้ช่วยเหลือประชาชนพฤษภาทมิฬ 2535 ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายแพทย์ ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2556 ได้เผยแพร่บทความ มีใจความตอนหนึ่งว่า เมื่อแรกที่มีแนวคิดกฎหมายนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่ได้รับโทษอยู่ ประชาชนส่วนใหญ่รวมทั้งผู้เขียนเห็นด้วย แต่การที่การใช้พวกมากลากไป ถือว่ามีอำนาจรัฐอยู่ในมือ เสรีไทยสีขาวทั่วประเทศ ก็ได้ออกแสดงความคัดค้านมากกว่า กว้างขวางกว่า หากเทียบกับปี 2535 แม้กระทั่งผู้พิพากษา ยังทนไม่ไหวออกมาใช้สิทธ์ในฐานะประชาชน คัดค้าน พ.ร.บ.ดังกล่าว เมื่อ 2 พ.ย. 2556 เครือข่ายแพทย์ อาจารย์แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และครอบครัวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้ออกแถลงการณ์ ขอแสดงสิทธิ์ในฐานะประชาชนโดยทางกลุ่มมีความเห็นดังนี้
1.ควรมีการค้นหาความจริง ใครทำผิดควรยอมรับผิดแล้วผ่านกระบวนการนิรโทษกรรม 2.ควรรักษาระบบนิติรัฐ ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีคอร์รัปชัน และคดีอาญา ทั้งนี้ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ไม่ควรจะใช้เสียงข้างมากออกกฎหมายเพื่อทำหลายหลักการของนิติรัฐ ส่งเสริมให้มีการกระทำผิดซ้ำซาก ให้มีการโกงคอร์รัปชันมากขึ้น ไม่ควรออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด
ในฐานะเป็นแพทย์ และผ่านเหตุการณ์ มาตั้งพฤษภาทมิฬ 2535 รัฐประหาร 2549 พฤษภา 2553 คนสูญเสียคือคนไทยทุกคน แพทย์บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ไม่แบ่งสีค่าย ความเชื่อทางการเมือง ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าเป็นฝ่ายใด ในเมื่อ ผู้บริหาร ทำอะไรลงไปก็ต้องยอมรับ อย่าไปมองผู้เห็นต่างว่าเป็นผู้โค่นล้มรัฐบาล ผู้เขียนไม่ต้องการเห็นการปฏิวัติ รัฐประหาร เมื่อเราประกาศตนว่ามาจากการเลือกตั้ง ควรคืนอำนาจกลับให้ประชาชน ด้วยการยุบสภา จะมีประโยชน์อะไรถ้ามีอำนาจ แล้วปกครองไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ได้มีไว้เพื่อแพ้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ลงชื่อร่วมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาตลอด ล่าสุดมีผู้ลงชื่อจำนวน 3,112 คน ซึ่งมีทั้งอาจารย์แพทย์ ศาสตร์แพทย์ รองศาสตร์แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญแพทย์ด้านต่างๆ จากมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมคัดค้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดได้ขอแสดงสิทธิในฐานะประชาชน