ย้ำคนท้องห้ามกินยาปฏิชีวนะ เหตุฆ่าจุลินทรีย์ดีแทนเชื้อร้าย กระทบลูกไม่แข็งแรง

นักวิชาการเผยเด็กคลอดตามธรรมชาติ แข็งแรงกว่าผ่าตัดคลอด เหตุช่องคลอดแม่มีเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดี เชื่อมโยงคำเตือนห้ามคนท้องกินยาใดๆ ระบุจุลินทรีย์ดีอาจตายแทนเชื้อร้าย เผยเชื้อดื้อยาลามในสัตว์ ชี้มีการผสมลงในอาหารเพื่อเร่งเจริญเติบโต

วันนี้ (7 พ.ย.) ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา (กพย.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วง ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมวิชาการเชื้อดื้อยานานาชาติ ที่ประเทศเอกวาดอร์ พบว่า ขณะนี้ปัญหาเชื้อดื้อยาไม่ใช่แค่การรับประทานยา จนเกิดภาวะดื้อยาจนไม่สามารถรักษาโรคได้เท่านั้น เพราะยังพบว่าปัญหาเชื้อดื้อยาส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะในการเลี้ยงสัตว์ด้วย โดยพบว่ามีการผสมยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งถือว่าอันตรายในแง่ของการบริโภคเข้าไป เพราะไม่มีทางทราบว่าจะมียาปฏิชีวนะเจือปนอยู่ในเนื้อสัตว์เหล่านี้หรือไม่ ซึ่งในประเทศไทยเคยเกิดคำถามว่า สาเหตุที่เด็กไทยอ้วนและโตเร็ว มาจากภาวะการรับประทานเนื้อไก่ที่มียาปฏิชีวนะหลงเหลืออยู่หรือไม่ แต่ยังไม่มีข้อมูลวิชาการยืนยัน จำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

“การศึกษาที่ผ่านมายังพบว่า ยาปฏิชีวนะมีผลกระทบต่อเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีของร่างกายด้วย โดยที่ผ่านมาโรงพยาบาลเด็ก พบว่า เด็กทารกที่มารดาคลอดเองจะออกมามีร่างกายแข็งแรงกว่าเด็กที่คลอดด้วยการผ่าตัด เนื่องจากมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า น่าจะเชื่อมโยงกับเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีในช่องคลอดของแม่ก็เป็นได้ เพราะร่างกายคนเรามีเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดีอยู่ แต่หากทานยาปฏิชีวนะมากๆ นอกจากเชื้อจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีจะไม่ตายแล้ว แต่ทำให้จุลินทรีย์ชนิดดีตายแทน แพทย์จึงไม่แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานยาใดๆ โดยไม่จำเป็น เรื่องนี้จะมีการเปิดเผยในวันที่ 18 พ.ย.ภายในงานประชุมวิชาการเชื้อดื้อยา ที่โรงพยาบาลเด็ก” ผศ.ภญ.นิยดา กล่าว