“พงศ์เทพ” ฝากบอร์ด สมศ.พิจารณาตัวบ่งชี้ ย้ำควรเน้นส่งเสริมคุณภาพผู้เรียน พร้อมแนะทำงานร่วมกับ ศธ.จัดระบบประเมินสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาการศึกษาขณะที่ ผอ.สมศ.เผยทัศนคติที่ติดลบ และความไม่เข้าใจในวิถีการประเมิน เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เล็งพัฒนาระบบประเมินคุณภาพรอบสี่ใหม่ เตรียมเผยตัวบ่งชี้ที่ใช้ประเมินในการประชุมวิชานานาชาติ 7-8 พ.ย.นี้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลการดำเนินงานของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) (องค์การมหาชน) กล่าวในที่ประชุมหารือนโยบายการประเมินคุณภาพภายนอกและประกันคุณภาพการศึกษา โดยมีคณะกรรมการบริหาร สมศ.ชุดใหม่ และ ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการ สมศ.เข้าร่วม ตอนหนึ่ง ว่าภารกิจของ สมศ.มีความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องของการประเมินคุณภาพและมาตรฐานที่ขณะนี้ทุกวงการต้องมี โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ประเทศเปิดกว้างคนต่างชาติสามารถมาเรียนในประเทศไทย และเด็กไทยไปเรียนที่ต่างประเทศได้ ซึ่งคุณภาพมาตรฐานการศึกษาจะเป็นสิ่งที่ทำให้ต่างชาติมั่นใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ตนอยากฝากคณะกรรมการบริหาร สมศ.และ ผอ.สมศ.ให้พิจารณาตัวบ่งชี้ต่างๆ ของ สมศ.โดยเน้นเรื่องของการส่งเสริมคุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ อีกทั้ง สมศ.ควรมองว่าตัวเอง คือ หน่วยงานภาคบริการ มีหน้าที่ให้บริการ โดยมีผู้ถูกประเมินเป็นผู้ใช้บริการ จะทำอย่างไรให้ผู้ถูกประเมินสบาย และ สมศ.ก็ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ต้องมีการจัดระบบให้สบายด้วยกันทั้งคู่ และอยากให้ สมศ.ทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งการประเมินต้องสอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาการศึกษาของ ศธ.เพราะหากมีการประเมินที่ดีก็จะนำไปสู่เป้าหมาย การพัฒนาที่ ศธ.ตั้งไว้ได้
ด้าน ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวว่า จากการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามที่ผ่านมา พบว่า ปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงานการประเมิน คือ สถานศึกษา ผู้ประเมินยังมีทัศนคติที่ไม่ดี และเข้าใจผิดในเรื่องวิถีการประเมิน โดยสถานศึกษาเข้าใจว่าการประเมินเป็นการตัดสินให้คุณให้โทษ และกลัวการประเมิน ทั้งที่การประเมินเป็นการสะท้อนการทำงาน เป็นประโยชน์และเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาสถานศึกษา ดังนั้น ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559-2561) สมศ.จะพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพ เพราะหากสถานศึกษา ผู้ประเมินยังมีทัศนคติที่ติดลบจะทำให้เกิดอุปสรรคในการประเมิน และส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ อย่างไรก็ตาม สมศ.จะประกาศตัวบ่งชี้ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ การประกันคุณภาพ ในวันที่ 7-8 พ.ย.2556 ที่ศูนย์การประชุมนิทรรศการไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนทาง www.onesqa.or.th หรือ โทร.02-216-3955
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลการดำเนินงานของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) (องค์การมหาชน) กล่าวในที่ประชุมหารือนโยบายการประเมินคุณภาพภายนอกและประกันคุณภาพการศึกษา โดยมีคณะกรรมการบริหาร สมศ.ชุดใหม่ และ ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการ สมศ.เข้าร่วม ตอนหนึ่ง ว่าภารกิจของ สมศ.มีความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องของการประเมินคุณภาพและมาตรฐานที่ขณะนี้ทุกวงการต้องมี โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ประเทศเปิดกว้างคนต่างชาติสามารถมาเรียนในประเทศไทย และเด็กไทยไปเรียนที่ต่างประเทศได้ ซึ่งคุณภาพมาตรฐานการศึกษาจะเป็นสิ่งที่ทำให้ต่างชาติมั่นใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ตนอยากฝากคณะกรรมการบริหาร สมศ.และ ผอ.สมศ.ให้พิจารณาตัวบ่งชี้ต่างๆ ของ สมศ.โดยเน้นเรื่องของการส่งเสริมคุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ อีกทั้ง สมศ.ควรมองว่าตัวเอง คือ หน่วยงานภาคบริการ มีหน้าที่ให้บริการ โดยมีผู้ถูกประเมินเป็นผู้ใช้บริการ จะทำอย่างไรให้ผู้ถูกประเมินสบาย และ สมศ.ก็ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ต้องมีการจัดระบบให้สบายด้วยกันทั้งคู่ และอยากให้ สมศ.ทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งการประเมินต้องสอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาการศึกษาของ ศธ.เพราะหากมีการประเมินที่ดีก็จะนำไปสู่เป้าหมาย การพัฒนาที่ ศธ.ตั้งไว้ได้
ด้าน ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวว่า จากการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามที่ผ่านมา พบว่า ปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินงานการประเมิน คือ สถานศึกษา ผู้ประเมินยังมีทัศนคติที่ไม่ดี และเข้าใจผิดในเรื่องวิถีการประเมิน โดยสถานศึกษาเข้าใจว่าการประเมินเป็นการตัดสินให้คุณให้โทษ และกลัวการประเมิน ทั้งที่การประเมินเป็นการสะท้อนการทำงาน เป็นประโยชน์และเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาสถานศึกษา ดังนั้น ในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559-2561) สมศ.จะพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพ เพราะหากสถานศึกษา ผู้ประเมินยังมีทัศนคติที่ติดลบจะทำให้เกิดอุปสรรคในการประเมิน และส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ อย่างไรก็ตาม สมศ.จะประกาศตัวบ่งชี้ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ การประกันคุณภาพ ในวันที่ 7-8 พ.ย.2556 ที่ศูนย์การประชุมนิทรรศการไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนทาง www.onesqa.or.th หรือ โทร.02-216-3955