“ประดิษฐ” สั่งนักสาธารณสุขทั่วประเทศเปลี่ยนมุมมองการทำงานให้เป็นเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ เน้นจัดทำฐานข้อมุลที่เป็นมาตรฐานของประเทศ ใช้อ้างอิงเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ยกเคสน้ำมันดิบรั่วที่ระยอง หากมีจะช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพ ประชาชนไม่ตระหนก แต่ตระหนัก
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งชาติครั้งที่ 14 และการประชุมวิชาการสาธารณสุขนานาชาติ ครั้งที่ 6 เรื่อง “มุมมองเชิงนิเวศในงานสาธารณสุขเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงและความท้าทาย” ว่า สธ.เพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถกำหนดนโยบายด้านสุขภาพของประเทศได้สำเร็จ เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมนุษย์มากกว่าการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ โดยความเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน การทำงานของนักวิชาการสาธารณสุข จึงต้องปรับการทำงานแนวใหม่ เพิ่มงานเชิงรุกเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดผลกระทบกับสุขภาพ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเชิงตั้งรับ คือแก้เมื่อปัญหาเกิดแล้วจึงป้องกัน
“ผมอยากให้เปลี่ยนมุมมองเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยใช้องค์ความรู้อย่างเป็นระบบ มีฐานข้อมูลที่เป็นมาตรฐานของประเทศที่ชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ อย่างทันท่วงที เช่น ปรากฏการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่วในทะเล ที่จังหวัดระยอง จะต้องมีการรวบรวมองค์ความรู้ วิชาการ สามารถใช้อ้างอิง มีขบวนการสื่อสารให้ความรู้ที่เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้ ทั้งในระดับระดับพื้นที่ ระดับประเทศ นานาชาติ ทำให้ประชาชนไม่ตระหนก แต่มีความตระหนักในปัญหา” รมว.สาธารณสุข กล่าว
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดประชุมวิชาการสาธารณสุขแห่งชาติครั้งที่ 14 และการประชุมวิชาการสาธารณสุขนานาชาติ ครั้งที่ 6 เรื่อง “มุมมองเชิงนิเวศในงานสาธารณสุขเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงและความท้าทาย” ว่า สธ.เพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถกำหนดนโยบายด้านสุขภาพของประเทศได้สำเร็จ เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมนุษย์มากกว่าการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ โดยความเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน การทำงานของนักวิชาการสาธารณสุข จึงต้องปรับการทำงานแนวใหม่ เพิ่มงานเชิงรุกเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดผลกระทบกับสุขภาพ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นเชิงตั้งรับ คือแก้เมื่อปัญหาเกิดแล้วจึงป้องกัน
“ผมอยากให้เปลี่ยนมุมมองเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยใช้องค์ความรู้อย่างเป็นระบบ มีฐานข้อมูลที่เป็นมาตรฐานของประเทศที่ชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ อย่างทันท่วงที เช่น ปรากฏการณ์ท่อน้ำมันดิบรั่วในทะเล ที่จังหวัดระยอง จะต้องมีการรวบรวมองค์ความรู้ วิชาการ สามารถใช้อ้างอิง มีขบวนการสื่อสารให้ความรู้ที่เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้ ทั้งในระดับระดับพื้นที่ ระดับประเทศ นานาชาติ ทำให้ประชาชนไม่ตระหนก แต่มีความตระหนักในปัญหา” รมว.สาธารณสุข กล่าว