สมเด็จพระเทพฯ เตรียมเสด็จฯเป็นองค์ประธานงาน “เขาชะโงกซูเปอร์มาราธอน 56” ด้าน จปร.จับมือ สสส.ชวนคนไทยร่วมแข่งเดินวิ่งลดพุงลดโรค ชูนักเรียนนายร้อย จปร.หุ่นดี เพราะมีระเบียบวินัย ส่วนนักเรียนอ้วนจัดเข้าคอร์สดูแลเป็นพิเศษ
พล.ท.พอพล มณีรินทร์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) กล่าวแถลงข่าวจัดงาน “เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 56” ครั้งที่ 19 ภายใต้แนวคิด “ลดพุงลดโรค” ซึ่งจัดร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. 2556 ณ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า วิถีชีวิตของนักเรียนนายร้อยจปร.เป็นชีวิตที่มีระเบียบวินัย ซึ่ง“ระเบียบวินัย” เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ทุกคนมีสุขภาพและรูปร่างที่ดี ไม่อ้วนลงพุง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการมีระเบียบปฏิบัติประจำวัน ซึ่งกำหนดเวลาที่ชัดเจน ทั้งการรับประทานอาหาร เน้นให้ความสำคัญกับอาหารที่ครบ 5 หมู่ หลากหลายและการออกกำลังกายที่ยึดหลัก “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่จะออกกำลังกายอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ทั้งตามระเบียบปฏิบัติประจำวัน (รปจ.) และตามตารางการฝึกศึกษาที่เหมาะสม
พล.ท.พอพล กล่าวอีกว่า ส่วนนักเรียนที่มีภาวะโรคอ้วน โรคผอมจะแก้ไขโดยจัดคอร์สดูแลเป็นกรณีพิเศษให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของ นนร.แต่ละนาย ทั้งนี้เพื่อให้ นนร. มีความสมบูรณ์แข็งแรง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า “จิตใจที่แจ่มใส อยู่ในร่างกายที่แข็งแรง” หรือ “Sound Mind in Sound Body” เพื่อพร้อมที่จะออกไปรับใช้ชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป
“จปร.ร่วมกับ สสส.ขอเชิญเฝ้าทูลละอองพระบาท พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในการแข่งขันเดิน-วิ่ง “เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 56” ครั้งที่ 19 เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายอันเป็นการส่งเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง” ผู้บัญชาการ จปร.กล่าว
ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า การรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจในสุขภาพ ถือเป็นภารกิจหลักของ สสส.โดยเฉพาะการส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพ สำหรับการแข่งขันเดิน-วิ่ง “เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 56” ภายใต้แนวคิด “ลดพุงลดโรค” ถือเป็นแคมเปญหนึ่งที่ สสส.และหน่วยงานภาคีด้านอาหารและการออกกำลังกาย ได้พยายามชี้ให้เห็นถึงอันตรายของ “โรคอ้วนลงพุง” ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด และที่สำคัญ คือ โรคอ้วน ซึ่งมีแนวโน้มความชุกของโรคอ้วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทพ.กฤษดา กล่าวด้วยว่า สำหรับ “โรคอ้วน” เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้วิถีชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบของคนเมืองมากขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารรสจัด ทั้งรสหวาน มัน และเค็ม เพิ่มมากขึ้น กินผักผลไม้ น้อยลง ซ้ำยังขาดการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เช่น การเดินเร็ว หรือการวิ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เริ่มมีผู้ให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และถือเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้กับคนไทยทุกช่วงวัย
“ที่ผ่านมา สสส.ได้เข้ามาร่วมงานกับกองทัพในหลายกิจกรรม ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนต้นแบบ “คนสุขภาพดี” เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในสังคม ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถนำหลักการเดียวกับของนักเรียนนายร้อย จปร.ไปประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกัน สำหรับวิธีการลดพุงและลดโรคง่ายๆ ด้วยการยึดหลัก 3 อ.ได้แก่ อ.อาหาร อ.ออกกำลังกาย และ อ.อารมณ์ โดย “อ.อาหาร” เราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม ส่วน “อ.ออกกำลังกาย” สามารถทำได้โดยการเดินเร็วอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งการออกกำลังกาย จะช่วยส่งผลให้เกิด “อ.” ที่ 3 คือ “อ.อารมณ์” รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ ปรับทัศนคติต่อสิ่งต่างๆไปในทางบวกมองโลกในแง่ดี สำหรับผู้สนใจร่วมกิจกรรมสอบถามรายละเอียดที่ 0-2241-1706 (วันและเวลาราชการ)” ผู้จัดการ สสส.กล่าว
พล.ท.พอพล มณีรินทร์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) กล่าวแถลงข่าวจัดงาน “เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 56” ครั้งที่ 19 ภายใต้แนวคิด “ลดพุงลดโรค” ซึ่งจัดร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. 2556 ณ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อ.เมือง จ.นครนายก เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า วิถีชีวิตของนักเรียนนายร้อยจปร.เป็นชีวิตที่มีระเบียบวินัย ซึ่ง“ระเบียบวินัย” เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ทุกคนมีสุขภาพและรูปร่างที่ดี ไม่อ้วนลงพุง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการมีระเบียบปฏิบัติประจำวัน ซึ่งกำหนดเวลาที่ชัดเจน ทั้งการรับประทานอาหาร เน้นให้ความสำคัญกับอาหารที่ครบ 5 หมู่ หลากหลายและการออกกำลังกายที่ยึดหลัก “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่จะออกกำลังกายอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ทั้งตามระเบียบปฏิบัติประจำวัน (รปจ.) และตามตารางการฝึกศึกษาที่เหมาะสม
พล.ท.พอพล กล่าวอีกว่า ส่วนนักเรียนที่มีภาวะโรคอ้วน โรคผอมจะแก้ไขโดยจัดคอร์สดูแลเป็นกรณีพิเศษให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของ นนร.แต่ละนาย ทั้งนี้เพื่อให้ นนร. มีความสมบูรณ์แข็งแรง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า “จิตใจที่แจ่มใส อยู่ในร่างกายที่แข็งแรง” หรือ “Sound Mind in Sound Body” เพื่อพร้อมที่จะออกไปรับใช้ชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป
“จปร.ร่วมกับ สสส.ขอเชิญเฝ้าทูลละอองพระบาท พลเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในการแข่งขันเดิน-วิ่ง “เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 56” ครั้งที่ 19 เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายอันเป็นการส่งเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง” ผู้บัญชาการ จปร.กล่าว
ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า การรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจในสุขภาพ ถือเป็นภารกิจหลักของ สสส.โดยเฉพาะการส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพ สำหรับการแข่งขันเดิน-วิ่ง “เขาชะโงกซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 56” ภายใต้แนวคิด “ลดพุงลดโรค” ถือเป็นแคมเปญหนึ่งที่ สสส.และหน่วยงานภาคีด้านอาหารและการออกกำลังกาย ได้พยายามชี้ให้เห็นถึงอันตรายของ “โรคอ้วนลงพุง” ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด และที่สำคัญ คือ โรคอ้วน ซึ่งมีแนวโน้มความชุกของโรคอ้วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทพ.กฤษดา กล่าวด้วยว่า สำหรับ “โรคอ้วน” เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้วิถีชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบของคนเมืองมากขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารรสจัด ทั้งรสหวาน มัน และเค็ม เพิ่มมากขึ้น กินผักผลไม้ น้อยลง ซ้ำยังขาดการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เช่น การเดินเร็ว หรือการวิ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เริ่มมีผู้ให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และถือเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้กับคนไทยทุกช่วงวัย
“ที่ผ่านมา สสส.ได้เข้ามาร่วมงานกับกองทัพในหลายกิจกรรม ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนต้นแบบ “คนสุขภาพดี” เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในสังคม ซึ่งคนทั่วไปก็สามารถนำหลักการเดียวกับของนักเรียนนายร้อย จปร.ไปประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกัน สำหรับวิธีการลดพุงและลดโรคง่ายๆ ด้วยการยึดหลัก 3 อ.ได้แก่ อ.อาหาร อ.ออกกำลังกาย และ อ.อารมณ์ โดย “อ.อาหาร” เราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม ส่วน “อ.ออกกำลังกาย” สามารถทำได้โดยการเดินเร็วอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งการออกกำลังกาย จะช่วยส่งผลให้เกิด “อ.” ที่ 3 คือ “อ.อารมณ์” รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ ปรับทัศนคติต่อสิ่งต่างๆไปในทางบวกมองโลกในแง่ดี สำหรับผู้สนใจร่วมกิจกรรมสอบถามรายละเอียดที่ 0-2241-1706 (วันและเวลาราชการ)” ผู้จัดการ สสส.กล่าว