กทม.เตรียมผุดศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิงและกู้ภัย ที่สามพราน นครปฐม หวังเพิ่มศักยภาพบุคลากร สปภ.กทม.ให้ได้มาตรฐานสากล คาดผลิตบุคลากรได้ 7,000 คนต่อปี
วันนี้ (9 ต.ค.) พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) ได้นำเสนอโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิงและกู้ภัยของกรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ กทม.มีศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยที่มีความสมบูรณ์ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานการพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับสากล สามารถรองรับการพัฒนาบุคลากรสายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้มีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญด้านงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือแลกเปลี่ยนด้านวิชาการและปฏิบัติการ สำหรับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาคเอเชีย โดยสามารถรองรับการพัฒนาบุคลากรสายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีความรู้ ทักษะ เชี่ยวชาญงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปีละ 2,000 คน บุคคลภายนอกและอาสาสมัครหน่วยงานต่างๆ ปีละ 5,000 คน
ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิงและกู้ภัยของ กทม.จะมีอาคารเรียนพร้อมห้องปฏิบัติการฐานฝึกจำลองสถานการณ์เพลิงไหม้ในอาคารประเภทต่างๆ ที่เป็นมาตรฐาน เช่น เครื่องช่วยอัดอากาศหายใจ (SCBA) และเชือกช่วยชีวิต ห้องปฏิบัติการทดสอบวัสดุทนไฟ พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือทดสอบ ห้องคอมพิวเตอร์พัฒนางานระบบควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ด้วยระบบ GIS ห้องสมุดค้นคว้าและคอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูล ห้องฝึกปฏิบัติการบัญชาการเหตุการณ์พร้อมอุปกรณ์ในการฝึก อาคารจำลองการค้นหาผู้ประสบภัยในอาคารและตึกถล่มในสถานการณ์ต่างๆ อาคารทดสอบและกู้ภัยการเกิดสาธารณภัยทางรถยนต์ อาคารทดสอบการทำลายสิ่งกีดขวางในอาคาร อาคารห้องประชุม ห้องสัมมนา ห้องสาธิตอุปกรณ์ทางการดับเพลิงและกู้ภัย ห้องทดสอบ สมรรถภาพทางร่างกายพร้อมอุปกรณ์ ห้องโรงยิมฯ เพื่อใช้ออกกำลังกาย รวมถึงห้องพิพิธภัณฑ์ดับเพลิงและสื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชน
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น สปภ.ได้พิจารณาหาพื้นที่เหมาะสม ซึ่งเป็นที่ดินบริเวณ ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม พื้นที่ 57 ไร่ 3 งาน 86 ตารางวา ซึ่งเป็นของกรุงเทพมหานครเพื่อทำการก่อสร้างศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยกรุงเทพมหานคร พร้อมเสนอต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครเพื่อขออนุมัติเห็นชอบในหลักการในแนวทางการขอใช้ที่ดิน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดขอใช้ประโยชน์ โดย สปภ.ได้เสนอเรื่องขอใช้ที่ดินผืนดังกล่าวจากคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการพัฒนาที่ดินและอาคารของ กทม.(กทอ.) ไว้แล้ว ซึ่งที่ประชุมคณะผู้บริหารเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้ สปภ.นำเรื่องดังกล่าวเสนอสภากรุงเทพมหานครทราบต่อไป
วันนี้ (9 ต.ค.) พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) ได้นำเสนอโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิงและกู้ภัยของกรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ กทม.มีศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยที่มีความสมบูรณ์ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานการพัฒนาบุคลากรด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับสากล สามารถรองรับการพัฒนาบุคลากรสายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้มีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญด้านงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือแลกเปลี่ยนด้านวิชาการและปฏิบัติการ สำหรับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาคเอเชีย โดยสามารถรองรับการพัฒนาบุคลากรสายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีความรู้ ทักษะ เชี่ยวชาญงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปีละ 2,000 คน บุคคลภายนอกและอาสาสมัครหน่วยงานต่างๆ ปีละ 5,000 คน
ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิงและกู้ภัยของ กทม.จะมีอาคารเรียนพร้อมห้องปฏิบัติการฐานฝึกจำลองสถานการณ์เพลิงไหม้ในอาคารประเภทต่างๆ ที่เป็นมาตรฐาน เช่น เครื่องช่วยอัดอากาศหายใจ (SCBA) และเชือกช่วยชีวิต ห้องปฏิบัติการทดสอบวัสดุทนไฟ พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือทดสอบ ห้องคอมพิวเตอร์พัฒนางานระบบควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ด้วยระบบ GIS ห้องสมุดค้นคว้าและคอมพิวเตอร์สืบค้นข้อมูล ห้องฝึกปฏิบัติการบัญชาการเหตุการณ์พร้อมอุปกรณ์ในการฝึก อาคารจำลองการค้นหาผู้ประสบภัยในอาคารและตึกถล่มในสถานการณ์ต่างๆ อาคารทดสอบและกู้ภัยการเกิดสาธารณภัยทางรถยนต์ อาคารทดสอบการทำลายสิ่งกีดขวางในอาคาร อาคารห้องประชุม ห้องสัมมนา ห้องสาธิตอุปกรณ์ทางการดับเพลิงและกู้ภัย ห้องทดสอบ สมรรถภาพทางร่างกายพร้อมอุปกรณ์ ห้องโรงยิมฯ เพื่อใช้ออกกำลังกาย รวมถึงห้องพิพิธภัณฑ์ดับเพลิงและสื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชน
อย่างไรก็ตามเบื้องต้น สปภ.ได้พิจารณาหาพื้นที่เหมาะสม ซึ่งเป็นที่ดินบริเวณ ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม พื้นที่ 57 ไร่ 3 งาน 86 ตารางวา ซึ่งเป็นของกรุงเทพมหานครเพื่อทำการก่อสร้างศูนย์ฝึกดับเพลิงและกู้ภัยกรุงเทพมหานคร พร้อมเสนอต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครเพื่อขออนุมัติเห็นชอบในหลักการในแนวทางการขอใช้ที่ดิน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดขอใช้ประโยชน์ โดย สปภ.ได้เสนอเรื่องขอใช้ที่ดินผืนดังกล่าวจากคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการพัฒนาที่ดินและอาคารของ กทม.(กทอ.) ไว้แล้ว ซึ่งที่ประชุมคณะผู้บริหารเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้ สปภ.นำเรื่องดังกล่าวเสนอสภากรุงเทพมหานครทราบต่อไป
