xs
xsm
sm
md
lg

ลูกจ้าง สพฐ.เฮ! ครม.ไฟเขียวจ่ายเพิ่มค่าครองชีพย้อนหลัง 1 ต.ค.55

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลูกจ้าง สพฐ.เฮ! ครม.ไฟเขียวจ่ายเพิ่มค่าครองชีพ 1.5 หมื่นบาท มีผลย้อนหลัง 1 ต.ค.55 ทั้งเห็นชอบบรรจุนักศึกษาทุนพระราชทาน “บัณฑิตครูคืนถิ่น” เป็นขรก.ครูในสังกัด สพฐ.เป็นครั้งแรก ขณะที่อนุมัติ มศว ออกนอกระบบแล้ว

วันนี้ (8 ต.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.คณะที่ 1 ตามที่ ศธ.ขออนุมัติให้ลูกจ้างรายเดือน นักการภารโรง และบุคลากรอื่นๆ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่จ้างด้วยงบประมาณดำเนินการ จำนวน 65,172 อัตรา ให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ตามนัยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ฉบับที่ 5 พ.ศ.2555 โดยผู้ที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพรวมเป็นค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท วุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพเพิ่มขึ้น รวมเป็นค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อรองรับการปรับเงินค่าครองชีพแล้วประมาณ 3,300 ล้านบาท โดยจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบให้ สพฐ.ใช้อัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากการเกษียณอายุราชการในทุกปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 เป็นต้นไป เพื่อรองรับการบรรจุนักศึกษาทุนพระราชทาน “บัณฑิตครูคืนถิ่น” ในโครงการกองทุนการศึกษา สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี เท่ากับจำนวนนักศึกษาทุนที่สำเร็จการศึกษาในแต่ละปีการศึกษาให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครู สังกัด สพฐ.ในโรงเรียนที่อยู่ในโครงการกองทุนการศึกษา หรือโรงเรียนเครือข่ายในภูมิลำเนาท้องถิ่นของตนเอง ที่ประสบปัญหาหาผู้บรรจุได้ยาก เพื่อให้บุคคลกลับไปบรรจุเป็นข้าราชการเพื่อพัฒนาท้องถิ่นตนเป็นการตอบสนองความต้องการครูของโรงเรียนในพื้นที่พิเศษ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนักศึกษาที่จบจากโครงการดังกล่าวรุ่นแรก จำนวน 11 คน ขณะที่ สพฐ.มีอัตรารองรับประมาณ 300 กว่าอัตรา

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ... ที่แก้ไขปรับปรุงจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้ว มีหลักการสำคัญ คือ ปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยของรัฐที่เป็นส่วนราชการไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และมีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยกำหนดให้มหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน แต่พนักงานมหาวิทยาลัยต้องได้รับการคุ้มครอง และประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าว แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะประกันตนด้วยความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม ส่วนรายได้ของมหาวิทยาลัยนั้นมหาวิทยาลัยจะมีรายได้ส่วนหนึ่งจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี ซึ่งเงินหรือทรัยพ์สินที่มีผู้อุทิศให้ และเงินกองทุนที่รัฐบาลหรือมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น และรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุน ตลอดจนรายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมาย
 


กำลังโหลดความคิดเห็น