สอศ.เล็งของบกลาง 57 พัฒนากำลังคน รองรับโครงการ 2.2 ล้านล้านบาท เตรียมผุดหลักสูตรบูรณาการวางแผนผลิตช่างก่อสร้างทางรถไฟ รถไฟฟ้า
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตั้งกรรมการระดับกระทรวง โดยมีสำนักงานคณะกรรมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นฝ่ายเลขานุการ เพื่อหารือเรื่องการผลิตกำลังคนรองรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่งมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท โดยได้มีการวิเคราะห์ว่า ภายใน 7 ปี ต้องการกำลังคนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) กว่า 100,000 คน เฉพาะ 3 ปีแรก ต้องการกำลังคนมากกว่า 70,000 คน เพื่อรองรับโครงการใหญ่ดังกล่าวของรัฐบาล แต่ สอศ.มีกำลังผลิต ปวช.และปวส.ในสาขาที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง แค่ประมาณ 6,000 คนต่อปี และ สอศ.ก็ไม่มีงบประมาณสำหรับเพิ่มการผลิตกำลังคนตามยอดที่โครงการใหญ่ต้องการ ขณะที่ภารกิจในการผลิตกำลังคนตรงนี้เป็นภารกิจของ สอศ.โดยตรง
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น สอศ.จะเสนอขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับเพิ่มกำลังผลิตแรงงานฝีมือของ สอศ.ซึ่งตามแผนที่ สอศ.เตรียมไว้ การเพิ่มแรงงานฝีมืออย่างเร่งด่วนนั้น จะดำเนินการใน 3 ลักษณะ อันดับแรก สอศ.จะสร้างหลักสูตรแบบบูรณาการสำหรับผลิตช่างก่อสร้างทางรถไฟ รถไฟฟ้า โดยเฉพาะ และเชิญชวนให้เด็กมาเรียนในหลักสูตรนี้ รวมถึงเชิญชวนให้เด็กที่เลือกเรียนสาขาอื่น เปลี่ยนมาเรียนหลักสูตรนี้แทน ด้วยวิธีจะสามารถเพิ่มกำลังคนได้ทันตามความต้องการของประเทศ นอกจากนั้น จะทำหลักสูตรอบรมแรงงานที่อยู่ในตลาดแรงงานแล้ว ให้มีทักษะสำหรับการก่อสร้างทางรถไฟและระบบขนส่งอื่นๆ
“ตัวเลขงบประมาณของโครงการ 2.2 ล้านล้านบาทนั้น มีแต่งบก่อสร้างล้วนๆ ไม่มีงบพัฒนากำลังคนรองรับการก่อสร้างและการบำรุงรักษาระบบเลย ซึ่งการโหมผลิตแรงงานฝีมือล็อตใหญ่อย่างเร่งด่วนเพื่อรองรับการก่อสร้าง รวมถึงการพัฒนาแรงงานในตลาดแรงงานให้เข้ามาทำงานในโครงการนี้ได้ ต้องใช้งบประมาณพอสมควร ซึ่งงบประมาณปกติที่ สอศ.ได้ประจำปี ไม่สามรถแบกรับได้ ซึ่ง สอศ.จะเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนเงินให้ สอศ.โดยอาจใช้วิธีกำหนดไว้ใน TOR เลยว่า บริษัทเอกชนที่ชนะประมูลโครงการนี้ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับพัฒนากำลังคนไว้แล้วทำงานร่วมกับภาครัฐ และ สอศ.ในการพัฒนากำลังคน หรือรัฐบาลอาจนำงบกลางมาใช้แทน ปัญหาคือยังไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมนั้น ต้องการกำลังคนรองรับจำนวนเท่าใด ในสาขาอะไรบ้าง” นายชัยพฤกษ์ กล่าว