นิยามคำว่า “ความสุข” ของแต่ละคนนั้นอาจแตกต่างกันไป แต่แน่นอนว่าความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหาปรารถนาอยากให้มีอยู่ในชีวิตของเราตลอด ผู้เขียนมีวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้มีความสุขได้ โดยมีผลงานวิจัยรับรอง ดังต่อไปนี้
1.นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับนอกจากช่วยทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าและช่วยให้มีสมาธิในการทำงานแล้ว ยังช่วยทำให้เรามีความสุขอีกด้วย งานวิจัยของ BPS Research Digest ได้วิจัยศึกษาอารมณ์ทางลบและทางบวกของผู้ที่ทำงานในช่วงเวลาติดต่อกันและพบว่า คนที่ไม่ได้นอนหลับกลางวันและต้องทำงานตลอดช่วงเวลาบ่าย มีอารมณ์ทางลบมากกว่าคนที่ได้นอนกลางวัน การนอนจะมีผลโดยตรงต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนเราในตลอดทั้งวัน เราจึงต้องนอนหลับอย่างพียงพอในตอนกลางคืน เพราะมันมีผลต่อการทำงานที่จะทำให้เรามีการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และหากพอเป็นไปได้ ลองหาเวลางีบซัก 5-10 นาที ก่อนเริ่มงานช่วงบ่าย จะทำให้รู้สึกสดชื่นและมีความสุขขึ้น
2.ออกกำลังกายเพียงแค่ 7 นาทีต่อวัน เคล็ดลับของความสุขง่ายๆคือการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายช่วยให้สมองผ่อนคลายและให้สมองหลั่งสารโปรตีนและสารเอ็นโดฟิน ทำให้เรามีความสุขและทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ จากงานวิจัยเรื่องการเอาชนะความเครียด ซึ่งทำการทดลองกับคนไข้ 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 รักษาด้วยยา กลุ่มที่ 2 รักษาด้วยการออกกำลังกาย และกลุ่มที่ 3 รักษาโดยการใช้ยาและการออกกำลังกายควบคู่กัน ผลปรากฏว่า แต่ละกลุ่มมีอาการดีขึ้นในช่วงแรก แต่จากการติดตามผลหลังจากนั้น 6 เดือน พบว่า 38% กลับมาเครียดอีกในกลุ่มของคนไข้ที่ทานยาอย่างเดียว ส่วนของกลุ่มที่ใช้ยาและการออกกำลังกายควบคู่กันมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย มีประมาณ 31% ที่มีอาการกำเริบ ส่วนกลุ่มที่ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว พบว่า มีเพียง 9% กลับมีอาการเครียดอีก ดังนั้น อย่ารอให้ต้องเผชิญกับความเครียดก่อนแล้วจึงค่อยออกกำลังกาย แต่ควรให้การออกกำลังกายเป็นภูมิคุ้มกันความเครียดจะดีกว่า
3.ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อน การเข้าสังคมเป็นส่วนช่วยให้ความสุขของเราเพิ่มขึ้น มีงานวิจัยมากมายพบว่า การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนส่งผลต่อความรู้สึกและเพิ่มความสุขเป็นอย่างมาก การวิจัยของ George Vaillant ซึ่งทดลองกับผู้สูงอายุเพศชาย 268 คน ที่มีอายุ 72 ปีขึ้นไป พบว่า สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขคือการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน นอกจากนี้ ยังมีหลายการสำรวจพบว่า 1 ใน 5 สิ่งสุดท้ายที่ตัองทำก่อนตายคือการใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก นั่นจึงแสดงว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้กับคนเราได้จริงๆ
4.การย้ายที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน การเดินทางที่ใช้เวลาไม่มากมีค่ามากกว่าบ้านหลังใหญ่แต่ต้องเดินทางยาวไกล การเดินทางไปทำงานโดยต้องผจญกับรถติดถึง 5-6 วันต่อสัปดาห์ มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและความสุขของคนเราอย่างมาก ซึ่งทำให้มีทั้งความเครียด อึดอัด เหน็ดเหนื่อยและเป็นทุกข์ บางคนคิดว่าการมีบ้านหลังใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจะช่วยหาความสุขได้ แต่แท้ที่จริงแล้วเคยลองคิดดูหรือไม่ว่าเราเหลือเวลาในแต่ละวันที่จะหาความสุขจากสิ่งเหล่านั้นได้บ้างหรือเปล่า หากมีโอกาส ลองหางานที่ไม่ตัองเดินทางไกลจากที่พักมากนัก เพื่อเราจะได้มีความสุขมากขึ้นจากการเดินทางที่สะดวกและเหลือเวลามากพอที่จะหากิจกรรมที่จะสร้างความสุขหลังเลิกงานได้นั่นเอง
5.ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ เพียงใช้เวลาแค่ 20 นาที ในตอนเย็นๆ หลังเลิกงานหรือใช้เวลาซัก 1-2 ชั่วโมงในวันหยุดสุดสัปดาห์ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านบ้าง ก็ทำให้คุณมีความสุขได้ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยในอังกฤษพบว่า การออกไปสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้าน นอกจากทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงแล้ว ยังทำให้มีจิตใจมีความสุขสดชื่นเบิกบานและลดความเครียดได้อีกด้วย
6.ยิ้มอย่างจริงใจ งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่า คนที่ทำงานในแผนกต้อนรับที่ต้องยิ้มตลอดทั้งวัน โดยเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งจะมีประสิทธิภาพการทำงานต่ำและมีอารมณ์ที่ไม่สดใส ส่วนคนที่ยิ้มทางบวก เช่นเด็ก หรือคนที่ยิ้มจากใจจริง จะมีอารมณ์ที่สดชื่น มีความสุขสนุกสนาน นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ให้เห็นด้วยว่า การยิ้มจากภายในช่วยลดความเจ็บปวดได้
7.การมีจิตสาธารณะช่วยเหลือผู้อื่น การใช้เวลา 100 ชั่วโมงต่อปี หรือ 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในการช่วยเหลือผู้อื่น จะช่วยให้ชีวิตเรามีความสุข จากการสัมภาษณ์คนจำนวน 150 คน ที่ใช้จ่ายเงินทองในการทำกิจกรรมหรือออกไปทานอาหารนอกบ้าน พบปะสังสรรค์กับเพื่อน พบว่า คนที่ใช้จ่ายเงินเพื่อคนอื่นมีความสุขมากกว่าคนที่ใช้เงินเพื่อตัวเอง การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่า การมีจิตสาธารณะช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้ตัวเรามีความสุขเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การวางแผนไปเที่ยว ไปพักผ่อนวันหยุด การอยู่อย่างสงบ ทำสมาธิและการมีความคิดทางบวก ยังช่วยให้คนเรามีความสุขได้ ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา ลองฝึกทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ดู แล้วจะพบว่าความสุขนั้นหาได้ง่ายๆและอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง
http://blog.bufferapp.com/10-scientifically-proven-ways-to-make-yourself-happier
1.นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับนอกจากช่วยทำให้ร่างกายฟื้นตัวจากความอ่อนล้าและช่วยให้มีสมาธิในการทำงานแล้ว ยังช่วยทำให้เรามีความสุขอีกด้วย งานวิจัยของ BPS Research Digest ได้วิจัยศึกษาอารมณ์ทางลบและทางบวกของผู้ที่ทำงานในช่วงเวลาติดต่อกันและพบว่า คนที่ไม่ได้นอนหลับกลางวันและต้องทำงานตลอดช่วงเวลาบ่าย มีอารมณ์ทางลบมากกว่าคนที่ได้นอนกลางวัน การนอนจะมีผลโดยตรงต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนเราในตลอดทั้งวัน เราจึงต้องนอนหลับอย่างพียงพอในตอนกลางคืน เพราะมันมีผลต่อการทำงานที่จะทำให้เรามีการควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และหากพอเป็นไปได้ ลองหาเวลางีบซัก 5-10 นาที ก่อนเริ่มงานช่วงบ่าย จะทำให้รู้สึกสดชื่นและมีความสุขขึ้น
2.ออกกำลังกายเพียงแค่ 7 นาทีต่อวัน เคล็ดลับของความสุขง่ายๆคือการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายช่วยให้สมองผ่อนคลายและให้สมองหลั่งสารโปรตีนและสารเอ็นโดฟิน ทำให้เรามีความสุขและทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ จากงานวิจัยเรื่องการเอาชนะความเครียด ซึ่งทำการทดลองกับคนไข้ 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 รักษาด้วยยา กลุ่มที่ 2 รักษาด้วยการออกกำลังกาย และกลุ่มที่ 3 รักษาโดยการใช้ยาและการออกกำลังกายควบคู่กัน ผลปรากฏว่า แต่ละกลุ่มมีอาการดีขึ้นในช่วงแรก แต่จากการติดตามผลหลังจากนั้น 6 เดือน พบว่า 38% กลับมาเครียดอีกในกลุ่มของคนไข้ที่ทานยาอย่างเดียว ส่วนของกลุ่มที่ใช้ยาและการออกกำลังกายควบคู่กันมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย มีประมาณ 31% ที่มีอาการกำเริบ ส่วนกลุ่มที่ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว พบว่า มีเพียง 9% กลับมีอาการเครียดอีก ดังนั้น อย่ารอให้ต้องเผชิญกับความเครียดก่อนแล้วจึงค่อยออกกำลังกาย แต่ควรให้การออกกำลังกายเป็นภูมิคุ้มกันความเครียดจะดีกว่า
3.ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อน การเข้าสังคมเป็นส่วนช่วยให้ความสุขของเราเพิ่มขึ้น มีงานวิจัยมากมายพบว่า การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนส่งผลต่อความรู้สึกและเพิ่มความสุขเป็นอย่างมาก การวิจัยของ George Vaillant ซึ่งทดลองกับผู้สูงอายุเพศชาย 268 คน ที่มีอายุ 72 ปีขึ้นไป พบว่า สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขคือการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน นอกจากนี้ ยังมีหลายการสำรวจพบว่า 1 ใน 5 สิ่งสุดท้ายที่ตัองทำก่อนตายคือการใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก นั่นจึงแสดงว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้กับคนเราได้จริงๆ
4.การย้ายที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน การเดินทางที่ใช้เวลาไม่มากมีค่ามากกว่าบ้านหลังใหญ่แต่ต้องเดินทางยาวไกล การเดินทางไปทำงานโดยต้องผจญกับรถติดถึง 5-6 วันต่อสัปดาห์ มีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและความสุขของคนเราอย่างมาก ซึ่งทำให้มีทั้งความเครียด อึดอัด เหน็ดเหนื่อยและเป็นทุกข์ บางคนคิดว่าการมีบ้านหลังใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจะช่วยหาความสุขได้ แต่แท้ที่จริงแล้วเคยลองคิดดูหรือไม่ว่าเราเหลือเวลาในแต่ละวันที่จะหาความสุขจากสิ่งเหล่านั้นได้บ้างหรือเปล่า หากมีโอกาส ลองหางานที่ไม่ตัองเดินทางไกลจากที่พักมากนัก เพื่อเราจะได้มีความสุขมากขึ้นจากการเดินทางที่สะดวกและเหลือเวลามากพอที่จะหากิจกรรมที่จะสร้างความสุขหลังเลิกงานได้นั่นเอง
5.ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ เพียงใช้เวลาแค่ 20 นาที ในตอนเย็นๆ หลังเลิกงานหรือใช้เวลาซัก 1-2 ชั่วโมงในวันหยุดสุดสัปดาห์ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านบ้าง ก็ทำให้คุณมีความสุขได้ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยในอังกฤษพบว่า การออกไปสัมผัสกับธรรมชาตินอกบ้าน นอกจากทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงแล้ว ยังทำให้มีจิตใจมีความสุขสดชื่นเบิกบานและลดความเครียดได้อีกด้วย
6.ยิ้มอย่างจริงใจ งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่า คนที่ทำงานในแผนกต้อนรับที่ต้องยิ้มตลอดทั้งวัน โดยเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งจะมีประสิทธิภาพการทำงานต่ำและมีอารมณ์ที่ไม่สดใส ส่วนคนที่ยิ้มทางบวก เช่นเด็ก หรือคนที่ยิ้มจากใจจริง จะมีอารมณ์ที่สดชื่น มีความสุขสนุกสนาน นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ให้เห็นด้วยว่า การยิ้มจากภายในช่วยลดความเจ็บปวดได้
7.การมีจิตสาธารณะช่วยเหลือผู้อื่น การใช้เวลา 100 ชั่วโมงต่อปี หรือ 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในการช่วยเหลือผู้อื่น จะช่วยให้ชีวิตเรามีความสุข จากการสัมภาษณ์คนจำนวน 150 คน ที่ใช้จ่ายเงินทองในการทำกิจกรรมหรือออกไปทานอาหารนอกบ้าน พบปะสังสรรค์กับเพื่อน พบว่า คนที่ใช้จ่ายเงินเพื่อคนอื่นมีความสุขมากกว่าคนที่ใช้เงินเพื่อตัวเอง การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่า การมีจิตสาธารณะช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้ตัวเรามีความสุขเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การวางแผนไปเที่ยว ไปพักผ่อนวันหยุด การอยู่อย่างสงบ ทำสมาธิและการมีความคิดทางบวก ยังช่วยให้คนเรามีความสุขได้ ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา ลองฝึกทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ดู แล้วจะพบว่าความสุขนั้นหาได้ง่ายๆและอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง
http://blog.bufferapp.com/10-scientifically-proven-ways-to-make-yourself-happier
