ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐชิลี ชมวัดโพธิ์ “พระสุธีธรรมานุวัตร” ชี้ผู้นำประเทศมาเที่ยว กระตุ้นให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลมาเพิ่มขึ้น อ้อนกรุงเทพฯ ปรับภูมิทัศน์รอบวัด
วันนี้ (5 ต.ค.) เวลา 11.30 น. นายเซบาสเตียน ปิเญรา เอเซนีเก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี พร้อมภริยา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยมีพระสุธีธรรมานุวัตร (เทียบ สิริวณฺโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พร้อมด้วย พระอุดรคณารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ให้การต้อนรับ
พระสุธีธรรมานุวัตร กล่าวภายหลังต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลีว่า นายเซบาสเตียน บอกว่าตนได้เดินทางมาประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนวัดพระเชตุพนฯ อย่างไรก็ดี การที่ผู้นำประเทศต่างๆ มาชมวัดพระเชตุพนฯ ส่งผลให้วัดพระเชตุพนฯเป็นที่รู้จักแก่ชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางเว็บไซต์ TripAdvisor (ทริปแอดไวเซอร์) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แจ้งมายังวัดว่า ในปี 2556 วัดพระเชตุพนฯ ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เป็นอันดับ 8 จากสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ 25 แห่งในทวีปเอเชีย ได้แก่
อันดับ 1 คือ นครวัด ประเทศกัมพูชา อันดับ 2 ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย อันดับ 3 ปราสาทบายน ประเทศกัมพูชา อันดับ 4 กำแพงเมืองจีน ประเทศจีน อันดับ 5 เจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า อันดับ 6 วิหารทองคำ (วิหารหริมันทีร์) ประเทศอินเดีย อันดับ 7 พระราชวังแอมเบอร์ ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ในประเทศไทยติดใน 25 อันดับดังกล่าวอีกประกอบด้วย อันดับ 10 พระบรมมหาราชวัง อันดับ 11 วัดอรุณราชวราราม อันดับ 12 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้วมรกต) อันดับ 21 วัดพระธาตุดอยสุเทพ และเมื่อจัดอันดับเฉพาะในประเทศไทยนักท่องเที่ยวได้โหวตให้วัดพระเชตุพนฯ เป็นสถานที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อันดับ 1 ของประเทศไทย
ด้าน พระอุดรคณารักษ์ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันนี้มีชาวต่างชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาวัดพระเชตุพนฯ เฉลี่ยวันละ 6,000-7,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งทางวัดมีค่าใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และอื่นๆ เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท โดยที่รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนด้านงบประมาณ ซึ่งทางวัดมีรายได้จากการเก็บค่าเข้าชาวต่างชาติ และเงินบริจาค มาเป็นต่าใช้จ่าย แต่มีสิ่งที่ต้องการให้ช่วยเหลือก็คืออยากให้กรุงเทพมหานคร ปรับปรุงฟุตบาท และปรับภูมิทัศน์รอบวัดพระเชตุพนฯ เพื่อให้สวยงาม เนื่องจากมีหลายจุดชำรุดทรุดโทรม