xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ต้านระบอบทักษิณกินรวบสภาสูง แฉ ส.ว.บางพวกหาประโยชน์จากรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธนา ชีรวินิช (แฟ้มภาพ)
ปชป.เดินหน้าขวางระบบทักษิณกินรวบสภาสูง “ธนา” ชี้ช่องอันตรายหาก ส.ว.เสพติดอำนาจ แฉวุฒิฯ บางจำพวกหาประโยชน์จากรัฐบาล ยันไม่มีสิทธิ์เบรก ส.ว. สรรหาหยุดทำหน้าที่รอผลเลือกตั้ง ส.ว.ชุดใหม่ ทำลายระบอบปกครอง ด้าน ส.ว.เมืองจันท์เดือด อัดกลับพวกปาก ปชต.ใจเผด็จการ โวยขีดวาระให้ ส.ว. แต่ ส.ส.อยู่ได้หลายสมัย ด้าน ส.ส.หญิง พท.เรียงหน้าลุกขึ้นป้อง “ปู” หลังเจอกล่าวหาหนีเที่ยวเมืองนอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมรัฐสภาในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาตรา 3 สมาชิกยังคงทยอยอภิปรายแปรญัตติกันอย่างกว้างขวาง โดยบรรยากาศการประชุมมีการลุกขึ้นประท้วงในบางช่วงแต่โดยรวมยังดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

ทั้งนี้ สมาชิกจากฝ่ายค้านยังคงขอแปรญัตติคัดค้านการให้มี ส.ว.จากการเลือกตั้ง ทั้ง 200 คน โดยย้ำว่าเป็นอันตรายที่คุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างยิ่ง วุฒิสมาชิกจะอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของพรรคการเมือง เพราะเมื่อต้องมีการหาเสียงเลือกตั้งก็จะต้องอาศัยพึ่งพิงนักการเมือง พรรคการเมือง หัวคะแนน ฐานเสียง ในที่สุดวุฒิสภาก็อยู่ภายใต้การครอบงำของพรรคการเมืองใหญ่ และลุกคืบไปสู่การแต่งตั้งองค์กรอิสระให้เป็นไปตามความต้องการของพรรคการเมือง

นายประกอบ จิรกิติ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ลดจำนวน ส.ว.เหลือ 100 คน เพราะเห็นว่ายังจำเป็นต้องอาศัยสภาสูงในการกลั่นกรองกฎหมาย ถอดถอน และแต่งตั้งบุคลากรต่างๆ ในองค์กรอิสระ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ ส.ว.มากมายเหมือน ส.ส. การให้มีเพียง 100 คนจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้น ส่งผลให้ได้คนที่มีความรู้มีความสามารถอย่างแท้จริงเข้ามา และยังลดการพึ่งพิงอำนาจทางการเมืองด้วย ถ้าจะให้มีจำนวนมากๆ ก็น่าจะมีเพียงสภาเดียวไปเลย อีกทั้งปัจจุบันเรามี ส.ว.จากเลือกตั้ง 76 คน การเพิ่ม เป็น 100 คน จะทำให้สัดส่วนจำนวน ส.ว.ในแต่ละจังหวัดไม่แตกต่างมากนัก

นายธนา ชีรวนิช ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ ส.ว.ดำรงตำแหน่งได้โดยไม่มีข้อจำกัด เป็นการเปิดกว้างให้นักการเมืองทุกองค์กรมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา และการมีเงื่อนไขเขตเลือกตั้งใหญ่สามารถหาเสียงได้ ไม่ได้คงเจตนาเดิมของรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่าคนที่จะเป็น ส.ว.ตามที่แก้ไขได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี เมื่อถึงเวลาสรรหาคนดีจะมีความเป็นกลางทางการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อมาจากพรรคการเมือง

นอกจากนี้ การเสนอร่างก็มีการตอบแทนทางการเมือง โดยผลัดกันเสนอ ส.ว.เลือกตั้งบางคนไม่กล้าเสนอเพราะรู้ว่ากฎหมายนี้ขัดต่อผลประโยชน์ที่จะได้รับ ก็เหมือนประธานที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้ ถ้าไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ลงชื่อ เห็นได้ชัดว่าขาดคุณธรรมจริยธรรม ถ้าคนไม่มีคุณธรรมจริยธรรมแล้วจะไปตัดสินพิพากษาคนอื่นได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่รู้ว่าสิ่งไหนดีไม่ดี

“ท่านก็รู้ว่าการมีอำนาจมันเสพติด หลายประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง ต่างก็รู้ว่าใครอยู่ในอำนาจนานไปจะเสพติดอำนาจนั้น จึงกำหนดให้คนที่เป็นประธานาธิบดีอยู่ในตำแหน่งแค่สองสมัยเพื่อตัดทอนปัญหา เพราะเมื่อไหร่ที่เสพติดอำนาจแล้วจะไม่มองประโยชน์ของประชาชน ซึ่ง ส.ว.ก็ไม่ต่างกัน ต้องดำรงไว้ความเป็นกลาง ความเป็นผู้ใหญ่ คนเป็น ส.ว.ต้องทำหน้าที่เป็นกลางและอิสระยิ่งต้องมีการดำรงวาระชัดเจน เพราะมี ส.ว.บางประเภทใช้อำนาจหน้าที่ติดต่อขอผลประโยชน์จากรัฐบาล แล้วใครจะให้ฟรี ก็ต้องแลกเปลี่ยนกับการทำหน้าที่ถึงบอกว่าต้องไม่อิงฐาน อิงทุนทางการเมืองเพื่อจะได้ไม่ต้องตอบแทนผลประโยชน์ทางการเมือง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายธนากล่าวมาถึงช่วงนี้ นายมงคล ศรีกำแหง ส.ว.จันทบุรี ลุกขึ้นประท้วงว่า นายธนากล่าวพาดพิง ส.ว.เลือกตั้งชุดนี้มากมายเหลือเกิน ไม่รู้หรือว่าเจตนาที่ต้องการให้แก้แล้วประชาชนจะได้สิทธิ์คืนมาในการจะเลือกตัวแทนของเขามาทำหน้าที่ ถามว่าถ้าแก้แล้ว ส.ว.เลือกตั้งชุดนี้จะได้เลยหรือไม่ เพราะต้องให้ประชาชนเลือกเข้ามา ขณะที่ยกย่องว่า ส.ว.สรรหานั้นดี ไม่เป็นความจริง เพราะบางคนก็เข้ามาซ้ำซาก บางคนเป็น สนช.(สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) 2 ปี แล้วเข้ามาเป็น ส.ว.สรรหา 3 ปี และยังสรรหาเข้ามาได้อีก 6 ปี ส่วน ส.ส.ทำไมเป็นได้ติดต่อกันไม่เห็นมีใครว่าอะไร

“พวกปากประชาธิปไตย ใจเผด็จการ อย่ามาพูดกับผม หลักการประชาธิปไตยต้องมาจากการเลือกตั้ง มากล่าวหาพวกผม แล้วที ส.ส.เป็นมากี่ครั้งกี่หนไม่เห็นเป็นปัญหาเลย”

ด้านนายกุลเดช พัวพัฒนกุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอให้นายมงคลถอนคำพูด อย่าเอานิสัยตัวเองมาว่าคนอื่น ขณะที่นายนิคมได้สั่งให้นายมงคลถอนคำพูด ฝ่ายนายมงคลได้กล่าวว่าตนไม่ได้ว่าใคร แต่ถ้าใครยอมรับหรือโดนใจใครตนก็ขอถอน พวกปากว่าตาขยิบ

จากนั้นนายธนาได้อภิปรายต่อว่า รัฐสภาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปแก้ไขในประเด็นที่ว่าหากอยู่ในช่วงมีพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้ง ส.ว.ชุดใหม่ ให้ ส.ว.สรรหาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เช่น หากขณะนี้ต้องให้มีการคัดเลือกคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาล และให้ ส.ว.ดำเนินการเรียกประชุมเพื่อคัดเลือกบุคคลภายในกำหนดเวลา จะเขียนห้าม ส.ว.ทำหน้าทีได้อย่างไร ถือเป็นการไปทำลายองค์กรหลักของระบอบประชาธิปไตย ตนจึงต้องการให้ที่ประชุมเห็นว่า การแก้ไขครั้งนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ แต่เจตนาเข้ามาสู่ขบวนการแทรกแซงวุฒิสภา และองค์กรต่างๆ ในการแต่งตั้งองค์กรระดับสูงทุกคน ตนจึงไม่สามารถเห็นด้วยต่อการแก้ไขที่มา ส.ว.ให้มาจากการเลือกตั้งได้

นพ.วรงค์ เดชิกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายคัดค้านการมี ส.ว.เลือกตั้งทั้งชุด โดยช่วงหนึ่ง ได้กล่าวถึงพาดพิง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อ้างว่าไปปฏิบัติราชการต่างประเทศ แต่กลับเที่ยวโดยไม่ให้ความสนใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทย เช่น นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่าใส่ร้ายป้ายสีทำให้เสียหาย เพราะนายกฯได้รับเชิญไป ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ผู้นำประเทศ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง แต่ นพ.วรงค์ยังยืนยันว่าไม่ได้ใส่ร้าย หรือพูดจาโกหก เพราะมีภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถ่ายรูปกับทัชมาฮาลซึ่งไม่ใช่สถานที่ทำงาน แบบนี้ไม่ไปท่องเที่ยวแล้วจะเรียกว่าอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมเริ่มร้อนอีกครั้ง เมื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พากันลุกขึ้นประท้วงเรียกร้องให้ นพ.วรงค์ถอนคำพูด ทำให้ น.ส.รัชฏาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถึงพากันประท้วงเมื่อมีการพูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใครแตะนายกฯแล้วต้องลุกขึ้นมาประท้วง ตนขอดูกำหนดการของนายกฯ หน่อยว่าไปที่ไหน ทำอะไร จนทำให้นายนิคมต้องตัดไมค์ ขณะที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง และกล่าวว่า จะมาพูดว่านายกฯไปเที่ยวไม่ได้ เพราะเขาเชิญไป ไม่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีใครเขาเชิญไป เพราะจัดตั้งในค่ายทหาร

ด้านนางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นตอบโต้ว่า น.ส.รัชฏาภรณ์อย่ามาวิจารณ์นายกฯ เพราะถ้าไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อก็ไมได้มาเป็น ส.ส. เพราะลงเขตก็สอบตก ทำให้ น.ส.รัชฏาภรณ์โต้ว่า ตนยอมรับว่าเขตลงสมัคร ส.ส.เขตมาหนึ่งครั้งแล้วสอบตก แต่นายกฯ ก็ไมได้ลงเลือกตั้งแบบเขตเหมือนกัน อยากให้ดูตัวเองก่อนว่าคนอื่น และเรียกร้องให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ถอนคำพูดเรื่องรัฐบาลจัดตั้งในค่ายทหาร ทำให้นายนิคมได้สั่งให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ถอนคำพูด แต่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงและไม่ถอนคำพูด โดยพร้อมที่จะออกจากห้อง จากนั้นได้ลุกออกจากห้องไปพร้อมกับโบกมือลา ทำให้นายนิคมสั่งให้ไปอยู่ข้างนอก 1 ชั่วโมง

จากนั้นได้สลับให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ขึ้นมาทำหน้าที่ประธานที่ประชุมแทน แต่กลับคำวินิจฉัย ลดเวลาให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ อยู่นอกห้องประชุมเพียงครึ่งชั่วโมง ทำให้ นพ.วรงค์ประท้วงว่าต้องยึดตามคำวินิจฉัยของประธานคนก่อน มิเช่นนั้น สมาชิกก็จะเอาเยี่ยงอย่างลุกขึ้นมาด่าแล้วไม่ยอมรับผิด จากนั้นเดินออกจากห้องไปนั่งกินกาแฟ สักพักก็เดินเข้ามาในห้องประชุมได้อีก ถ้าเป็นแบบนี้พวกตนก็สามารถด่าได้ แต่นายสมศักดิ์ได้กล่าวประชดว่า ถ้าเห็นว่าดีก็ทำกันไป อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็ยอมสั่งให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์อยู่นอกห้องประชุมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้การประชุมดำเนินต่อไปได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง จ.ส.ต.ประสิทิ์ได้ย่องเข้ามาในห้องประชุม ทำให้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วง จนนายสมศักดิ์ต้องสั่งให้ออกไปจากห้องประชุมจนกว่าจะครบ 1 ชั่วโมงตามคำสั่ง





กำลังโหลดความคิดเห็น