กทม.รับห่วงฝนตลอดสัปดาห์ ชี้น้ำเหนือขณะนี้ลดลงยังไม่น่าห่วง ด้าน “ชายหมู” แจ้งผ่านเฟซบุ๊ก วันนี้คนกรุงเตรียมฉ่ำช่วงบ่ายมีฝนกว่า 80% ของพื้นที่
วันนี้ (3 ต.ค.) นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าตลอดสัปดาห์นี้ยังคงต้องเฝ้าจับตาปริมาณฝนตก ที่คาดว่าจะตกหนักในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมจนถึงสุดสัปดาห์ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม มีฝนตกสะสมสูงสุดที่สำนักงานเขตบึงกุ่ม 67 มิลลิเมตร (มม.) ทำให้มีน้ำรอระบายในหลายพื้นที่แต่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนน้ำเหนือในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเริ่มลดปริมาณลง เมื่อวานนี้วัดได้ที่ประมาณ 1,900 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และวันนี้อยู่ที่ประมาณ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่ากรมชลประทานต้องการบริหารจัดการน้ำโดยไม่ให้ จ.อยุธยา และปทุมธานี ได้รับผลกระทบ สำหรับกรณีที่น้ำใน จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีปริมาณมากนั้น พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน โดยได้ระบายลงแม่น้ำบางปะกง และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าส่งผลกระทบต่อพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ
"น้ำเหนือที่ปล่อยลงมายังไม่น่าห่วง แต่ห่วงฝนที่กำลังจะตกมาตลอดสัปดาห์นี้ กทม.จึงเริ่มลดบานประตูน้ำบางแห่ง เพื่อพร่องน้ำตามคลองหลักด้านในไว้รองรับแล้ว” นายสัญญา กล่าว
เมื่อเวลา 12.32 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่า “วันนี้อากาศจะครึ้มไปตลอด ทั้งวันแบบนี้นะครับ มีเมฆมาก โอกาสเกิดฝนร้อยละ 80 ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้นช่วงบ่ายเป็นต้นไป จะมีฝนตกเยอะ อาจตกเกือบตลอดทั้งวัน ดูจากก้อนเมฆแล้วอยู่แถวตะวันออกค่อนข้างเยอะทีเดียว บริเวณฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ฝนที่ว่านี้จะเคลื่อนตัวผ่านเข้ามาทางตะวันออก เข้ามาในเมืองผ่านไปทางฝั่งธน สมุทรปราการ สมุทรสาคร บอกเส้นทางของการเดินทางของฝนเอาไว้นะครับ เผื่อว่าพี่น้องประชาชน จะได้วางแผนการเดินทางในการทำภารกิจชีวิตประจำวันได้ อย่างน้อยการไม่ผ่านเข้าไปในช่วงคับขัน ในช่วงที่ฝนตกหนัก และบางจุดมีน้ำท่วมขัง ก็ทำให้การขับยวดยานพาหนะบนท้องถนน ต้องชะลอตัวเพื่อความปลอดภัย ส่งผลทำให้สภาพการจราจรเกิดความไม่คล่องตัวขึ้น รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ผมและเจ้าหน้าที่ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร เราเตรียมความพร้อมในการรับมือกับฤดูฝนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และจะเร่งแก้ไขปัญหาในจุดที่ฝนตกหนักและต้องใช้เวลาในการระบายให้เร็วที่สุดนะครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า วันที่ 3 ตุลาคม มีน้ำเหนือที่ปล่อยมาวัดได้ 1,870 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล่าสุดวัดได้ที่ 0.69 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลาประมาณ 18.00 น.คาดการณ์จะสูง 1.70 ม.รทก.
วันนี้ (3 ต.ค.) นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าตลอดสัปดาห์นี้ยังคงต้องเฝ้าจับตาปริมาณฝนตก ที่คาดว่าจะตกหนักในพื้นที่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมจนถึงสุดสัปดาห์ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม มีฝนตกสะสมสูงสุดที่สำนักงานเขตบึงกุ่ม 67 มิลลิเมตร (มม.) ทำให้มีน้ำรอระบายในหลายพื้นที่แต่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนน้ำเหนือในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเริ่มลดปริมาณลง เมื่อวานนี้วัดได้ที่ประมาณ 1,900 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และวันนี้อยู่ที่ประมาณ 1,800 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่ากรมชลประทานต้องการบริหารจัดการน้ำโดยไม่ให้ จ.อยุธยา และปทุมธานี ได้รับผลกระทบ สำหรับกรณีที่น้ำใน จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีปริมาณมากนั้น พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน โดยได้ระบายลงแม่น้ำบางปะกง และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าส่งผลกระทบต่อพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ
"น้ำเหนือที่ปล่อยลงมายังไม่น่าห่วง แต่ห่วงฝนที่กำลังจะตกมาตลอดสัปดาห์นี้ กทม.จึงเริ่มลดบานประตูน้ำบางแห่ง เพื่อพร่องน้ำตามคลองหลักด้านในไว้รองรับแล้ว” นายสัญญา กล่าว
เมื่อเวลา 12.32 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่า “วันนี้อากาศจะครึ้มไปตลอด ทั้งวันแบบนี้นะครับ มีเมฆมาก โอกาสเกิดฝนร้อยละ 80 ในส่วนของกรุงเทพมหานครนั้นช่วงบ่ายเป็นต้นไป จะมีฝนตกเยอะ อาจตกเกือบตลอดทั้งวัน ดูจากก้อนเมฆแล้วอยู่แถวตะวันออกค่อนข้างเยอะทีเดียว บริเวณฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ฝนที่ว่านี้จะเคลื่อนตัวผ่านเข้ามาทางตะวันออก เข้ามาในเมืองผ่านไปทางฝั่งธน สมุทรปราการ สมุทรสาคร บอกเส้นทางของการเดินทางของฝนเอาไว้นะครับ เผื่อว่าพี่น้องประชาชน จะได้วางแผนการเดินทางในการทำภารกิจชีวิตประจำวันได้ อย่างน้อยการไม่ผ่านเข้าไปในช่วงคับขัน ในช่วงที่ฝนตกหนัก และบางจุดมีน้ำท่วมขัง ก็ทำให้การขับยวดยานพาหนะบนท้องถนน ต้องชะลอตัวเพื่อความปลอดภัย ส่งผลทำให้สภาพการจราจรเกิดความไม่คล่องตัวขึ้น รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ผมและเจ้าหน้าที่ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร เราเตรียมความพร้อมในการรับมือกับฤดูฝนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และจะเร่งแก้ไขปัญหาในจุดที่ฝนตกหนักและต้องใช้เวลาในการระบายให้เร็วที่สุดนะครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่า วันที่ 3 ตุลาคม มีน้ำเหนือที่ปล่อยมาวัดได้ 1,870 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล่าสุดวัดได้ที่ 0.69 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยน้ำจะขึ้นสูงสุดในเวลาประมาณ 18.00 น.คาดการณ์จะสูง 1.70 ม.รทก.