“พนิตา” มั่น! พร้อมนั่ง รมช.ศธ.หลังเกษียณอายุราชการ ระบุมีข่าวลือสะพัดจริง ยันยังไม่ถูกทาบทาม พร้อมฝาก 3 ประเด็นให้ปลัดใหม่สานต่อ
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมสำนักงานปลัด ศธ.วาระสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ว่า กระแสข่าวที่ว่าตนจะมารับตำแหน่ง รมช.ศธ.หลังเกษียณราชการนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าข่าวลือเรื่องนี้ลือกันไปมาก ในพรรคเพื่อไทยเองก็มีลือกันเยอะ ซึ่งตนก็เป็นกังวลอยู่กลัวว่ามีกระแสลือเช่นนี้ออกมามากจะกายเป็นการดับดาว หรือสกัดดาวรุ่งต้น
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตนไม่เคยเสนอตัวต่อผู้ใหญ่ในพรรค และก็ไม่สามารถที่จะตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นตำแหน่งใดได้ แต่หากมีการเสนอตำแหน่งให้จริงตนก็ไม่ปฏิเสธ และถ้าเลือกได้อยากจะกลับมาทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการมากกว่ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพราะถือว่ากระทรวงศึกษาฯ เป็นต้นทางของการแก้ปัญหาสังคมและเยาวชน ถ้าสามารถสร้างเด็กให้เป็นคนที่มีคุณภาพของชาติได้ ปัญหาสังคมทั้งหมดก็จะหมดไป
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับงานที่อยากจะฝากให้กับนางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะว่าที่ปลัด ศธ.คนใหม่นั้น อยากฝากเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ ให้เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะงบลงทุน แต่ขณะนี้งบประมาณฯยังไม่ได้จัดสรรมา แต่ขณะนี้ทราบแล้วใครได้รับตรงไหนเท่าไหร ก็ให้เริ่มดำเนินการได้เลยตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้ ไม่ต้องรองให้เม็ดเงินมา เพราะงบปี 57 ยังมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ใช้งบปี 56 ไปพลางๆก่อนไตรมาตรละ 25% ดังนั้น ใครที่มีงบลงทุนที่ดำเนินการไปแล้วก็อาจทำสัญญาได้ โดยระบุไว้ว่าจะเริ่มทำสัญญาจริงได้เมื่อได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อทำให้งบลงทุนที่ล่าช้าอยู่จะได้ทำงานงานเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดในภาพรวมของ ศธ. ทั้งนี้ เมื่อ ศธ.ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้ว ขอฝากให้เร่งเดินหน้าในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนรุ่นที่ 4 ซึ่งจะมีการสอบคัดเลือกเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ขณะนี้กระทรวงศึกษาและประเทศชาติอยากได้คนเก่ง คนดี มีความสามารถไปเรียนรู้ในสาขาต่างๆ เพื่อกลับมาพัฒนาประเทศ
ปลัด ศธ.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ก็ขอฝากเรื่องลูกเสือ เนื่องจากขณะนี้ ศธ.ได้เข้ามาเดินหน้าเรื่องลูกเสืออย่างเต็มที่ และได้นำหลักสูตรลูกเสือไปบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรม ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมี ขณะนี้ ศธ.ได้เป็นเจ้าของเรื่องลูกเสือโดยตรง และที่ทำค้างไว้คือเรื่องสมุดความดี ซึ่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้จัดพิมพ์ประมาณ 1 แสนเล่ม จำหน่วยเล่มละ 20 บาท มีทั้งสมุดและสติกเกอร์ เพื่อให้เด็กนักเรียนไปติดเวลาทำความดี ตรงนี้อยากให้ทำเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เนื่องจากว่าการที่เราจะให้เด็กทำความดีผ่านกระบวนการนี้ เป็นการทำความดีอย่างที่จดจารึกไว้เพื่อเป็นแนวทาง เป็นผลงานให้เด็กเพื่อรับรองว่าเด็กได้ทำความดีและเป็นฟอร์ฟอริโอเพื่อให้ เด็กไปประกอบการเรียนต่อในระดับสูงๆ ขึ้นไปได้ จึงอยากให้ดำรงเรื่องนี้ไว้ต่อไป
“ สุดท้าย ขอฝากว่า การทำงานต้องให้ถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด อยากอนุมัติอะไรที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ เพราะจะเป็นปัญหาให้ถูกฟ้องร้องได้” นางพนิตา กล่าว
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมสำนักงานปลัด ศธ.วาระสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ว่า กระแสข่าวที่ว่าตนจะมารับตำแหน่ง รมช.ศธ.หลังเกษียณราชการนั้นไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าข่าวลือเรื่องนี้ลือกันไปมาก ในพรรคเพื่อไทยเองก็มีลือกันเยอะ ซึ่งตนก็เป็นกังวลอยู่กลัวว่ามีกระแสลือเช่นนี้ออกมามากจะกายเป็นการดับดาว หรือสกัดดาวรุ่งต้น
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตนไม่เคยเสนอตัวต่อผู้ใหญ่ในพรรค และก็ไม่สามารถที่จะตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นตำแหน่งใดได้ แต่หากมีการเสนอตำแหน่งให้จริงตนก็ไม่ปฏิเสธ และถ้าเลือกได้อยากจะกลับมาทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการมากกว่ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพราะถือว่ากระทรวงศึกษาฯ เป็นต้นทางของการแก้ปัญหาสังคมและเยาวชน ถ้าสามารถสร้างเด็กให้เป็นคนที่มีคุณภาพของชาติได้ ปัญหาสังคมทั้งหมดก็จะหมดไป
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับงานที่อยากจะฝากให้กับนางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะว่าที่ปลัด ศธ.คนใหม่นั้น อยากฝากเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ ให้เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะงบลงทุน แต่ขณะนี้งบประมาณฯยังไม่ได้จัดสรรมา แต่ขณะนี้ทราบแล้วใครได้รับตรงไหนเท่าไหร ก็ให้เริ่มดำเนินการได้เลยตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้ ไม่ต้องรองให้เม็ดเงินมา เพราะงบปี 57 ยังมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ใช้งบปี 56 ไปพลางๆก่อนไตรมาตรละ 25% ดังนั้น ใครที่มีงบลงทุนที่ดำเนินการไปแล้วก็อาจทำสัญญาได้ โดยระบุไว้ว่าจะเริ่มทำสัญญาจริงได้เมื่อได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อทำให้งบลงทุนที่ล่าช้าอยู่จะได้ทำงานงานเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดในภาพรวมของ ศธ. ทั้งนี้ เมื่อ ศธ.ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้ว ขอฝากให้เร่งเดินหน้าในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนรุ่นที่ 4 ซึ่งจะมีการสอบคัดเลือกเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ขณะนี้กระทรวงศึกษาและประเทศชาติอยากได้คนเก่ง คนดี มีความสามารถไปเรียนรู้ในสาขาต่างๆ เพื่อกลับมาพัฒนาประเทศ
ปลัด ศธ.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ก็ขอฝากเรื่องลูกเสือ เนื่องจากขณะนี้ ศธ.ได้เข้ามาเดินหน้าเรื่องลูกเสืออย่างเต็มที่ และได้นำหลักสูตรลูกเสือไปบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรม ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมี ขณะนี้ ศธ.ได้เป็นเจ้าของเรื่องลูกเสือโดยตรง และที่ทำค้างไว้คือเรื่องสมุดความดี ซึ่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้จัดพิมพ์ประมาณ 1 แสนเล่ม จำหน่วยเล่มละ 20 บาท มีทั้งสมุดและสติกเกอร์ เพื่อให้เด็กนักเรียนไปติดเวลาทำความดี ตรงนี้อยากให้ทำเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เนื่องจากว่าการที่เราจะให้เด็กทำความดีผ่านกระบวนการนี้ เป็นการทำความดีอย่างที่จดจารึกไว้เพื่อเป็นแนวทาง เป็นผลงานให้เด็กเพื่อรับรองว่าเด็กได้ทำความดีและเป็นฟอร์ฟอริโอเพื่อให้ เด็กไปประกอบการเรียนต่อในระดับสูงๆ ขึ้นไปได้ จึงอยากให้ดำรงเรื่องนี้ไว้ต่อไป
“ สุดท้าย ขอฝากว่า การทำงานต้องให้ถูกต้อง เป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด อยากอนุมัติอะไรที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ เพราะจะเป็นปัญหาให้ถูกฟ้องร้องได้” นางพนิตา กล่าว
