“ผู้พันแทมมี่” จุดประกายสตรีไทยให้เชื่อมั่น ไม่กลัวแพ้

พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ร่วมงานสัมมนาวิชาการด้านสตรีและครอบครัว ความสมดุลของชีวิตและการทำงาน ย้ำผู้หญิงจะต้องมีความเชื่อมั่น และค้นพบความต้องการภายในของตนเอง อย่าจำกัดหรือกลัวการแพ้

วันนี้ (30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดการสัมมนาวิชาการด้านสตรีและครอบครัว ความสมดุลของชีวิตและการทำงาน (Work - Life Balance) โดยมี พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ส.ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เขต 8 รัฐอิลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การสร้างความสมดุลของชีวิตและการทำงานออกแบบได้ด้วยตัวคุณ”

ทั้งนี้ ก่อนเปิดงาน นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่คนไทยทุกคนต้อนรับบุคคลสำคัญอย่าง พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ สร้างความภาคภูมิใจ ให้ประเทศเพราะการเป็น ส.ส.แม้แต่ในประเทศไทย เป็นงานที่หนัก ดังนั้น การเป็นส.ส.สหรัฐฯ คงหนักยิ่งกว่า จึงขอชื่นชมด้วยใจจริง

ส่วนการสร้างสมดุลของชีวิตการทำงานเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสนใจ หลายประเทศมีนโยบายส่งเสริมให้สังคมมีการจัดการชีวิตให้สมดุล สอดคล้องกับสภาพชีวิตการทำงาน ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างชายหญิง และส่งเสริมการแบ่งเบาภาระงานบ้านให้ผู้ชายมีการลากิจเพื่อเลี้ยงลูก

“ในอดีตไทย ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้าน แต่เนื่องจากชีวิตและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้เราต้องเปลี่ยนแปลง พ่อ แม่ ออกไปทำงาน ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก ส่งผลให้เกิดปัญหาสังคม ดังนั้น หากมีการวางแผนชีวิตที่ดีก็จะสามารถดูแลลูกได้เต็มที่” นางปวีณา กล่าว

พ.ท.หญิงลัดดา กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้กลับมาประเทศไทยในฐานะ ส.ส.ของสหรัฐฯ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะทำให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งอดคิดไม่ได้ถึงอนาคตของผู้หญิงในประเทศไทย สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่จะได้รับความก้าวหน้าในประเทศ แต่เส้นทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตยังยาวไกล

ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้หญิงในสภานิติบัญญัติมีน้อยกว่า 20% แม้ว่าสหรัฐฯ จะแตกต่างกับไทยหลายด้าน แต่ต่างรู้สึกถึงความเหมือนกันว่า ผู้หญิงยังลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือทำงานบริหารบ้านเมืองน้อยเกินไป ปัจจุบันผู้หญิงทั่วโลกยังคงต่อสู้เพื่อให้ได้รับโอกาส ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตการทำงาน

“เราต้องต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติ ทั้งที่จริงแล้วผู้หญิงมีความสามารถ และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาประเทศ เราต้องมั่นใจในการก้าวไปข้างหน้า ยกตัวอย่าง ผลการสำรวจสหรัฐฯ การจะชวนผู้หญิงลงสมัครรับเลือกตั้งจะต้องชวน 6-7 ครั้ง ขณะที่ผู้ชายไม่ต้องได้รับการชักชวนเลย แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงยังไม่มั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” ส.ส.สหรัฐฯ กล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้หญิงต้องค้นพบว่าสามารถทำงานนั้นได้ จากประสบการณ์ส่วนตัว ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายปฏิบัติที่ดี แต่ไม่ค่อยไขว่คว้าหาความฝัน และไม่ได้รับในสิ่งที่ควรจะได้ จึงอยากชวนให้ทุกคนเดินออกจากกรอบเก่า อย่ากลัวที่จะเสี่ยงหรือผิดพลาด ไม่ว่าจะอาชีพอะไร มีทั้งขาขึ้นและขาลงเสมอ แต่ถ้ากล้าก้าวออกมาจะนำไปสู่สิ่งที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อน ต้องสู้เพื่อผู้หญิงรุ่นต่อไปจะได้ประสบความสำเร็จมากกว่านี้

“ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาความคาดหวังของตัวเรากับสังคม แรงกดดันที่บอกว่าเราต้องทำทุกสิ่งได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นภาระของผู้หญิงที่ต้องดิ้นรนแสวงหาความสุข สิ่งสำคัญ คือ การหาดุลยภาพที่เหมาะกับชีวิตของเรา ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อเรารู้ว่าเราทำอะไรได้แล้ว จะให้ถอยห่างออกมานั้นเป็นเรื่องที่ยาก และเมื่อพบความสุขที่บ้าน ก็ยากที่เราจะผลักตัวเองออกมา จึงหวังว่าทุกคนจะมีความกล้าที่จะค้นหาความสำเร็จของตัวเอง” พ.ท.หญิง ลัดดา กล่าว