xs
xsm
sm
md
lg

วิจัยพบเหล้ามีเกร่อหาดื่มง่ายกระตุ้นนักดื่มหน้าใหม่ ชี้กระทบสุขภาพอับดับ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิจัยปัญหาสุราพบเหล้ามีเกร่อ หาดื่มง่าย เป็นปัจจัยสร้างนักดื่มหน้าใหม่เพิ่ม ด้านเกาหลีวิจัยพบคนดื่มเป็นวัฒนธรรม เร่งแก้ถ่ายทอดการดี่ม ชี้ต้องทำให้คนไทยเข้าถึงการบำบัดการติดสุรา
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ผศ.ดร.สุรศักดิ์ ไชยสงค์ นักวิจัยสำนักนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ (สวน.) คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และรองผู้จัดการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวถึง "การควบคุมและจัดการปัญหาจากการบริโภคแอลกอฮอล์" ภายในการประชุมนานาชาติด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ครั้งที่ 21 ว่า จากผลสำรวจ International Alcohol Control in Thailand ปี 2555-2556 จากประชาชน 6,260 คนใน 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พิจิตร ชลบุรี ชัยนาท ขอนแก่น มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี สตูล พบว่า กลุ่มตัวอย่างดื่มสุรา 5,817 คน คิดเป็นร้อยละ 92.9 โดยร้อยละ 41 เป็นผู้ที่ดื่มติดต่อกันมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และ 2 ใน 3 ของผู้ดื่มมักจะดื่มในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น เทศกาลงานบุญในวัด ใกล้สถานศึกษา โดยมีปัจจัยที่เอื้อต่อการติดเหล้า ได้แก่ ติดนิสัยชอบดื่มบนรถ ร้อยละ 8.1 ซื้อได้ทุกเวลา ร้อยละ 7.2 และหาซื้อได้ง่าย ร้อยละ 6.8 เป็นต้น เหล่านี้เป็นเหตุผลทำให้อัตรานักดื่มหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน ศ.ดร.ซังซู ชุน ผู้อำนวยการสถาบันจัดการปัญหาสุราแห่งเกาหลีใต้ (Korean Institute of Alcohol Problems : KIAP) กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาการบริโภคแอลกอฮอล์ในประเทศเกาหลีใต้ ว่า จากผลสำรวจจำนวนประชากรที่ดื่มสุราในกลุ่มสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development : OECD) พบว่า คนเกาหลีใต้มีอัตราการดื่มเหล้า ร้อยละ 17.1 สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศสมาชิก ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนมากถึง ร้อยละ 32.7 โดยมีสาเหตุหลักมาจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนเกาหลีที่นิยมดื่ม โดยมีวัฒนธรรมการสั่งสอนลักษณะนิสัยเพื่อสร้างวัฒนธรรมการดื่มที่ดีภายในครอบครัว จากการถ่ายทอดของรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ซึ่งร้อยละ 47.9 เห็นด้วยว่าต้องแก้ปัญหานี้

พญ.พันธ์นภา กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้จัดการแผนงานการพัฒนาระบบการดูแลผู้มีปัญหาการดื่มสุรา (ผรส.) กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาผู้ป่วยที่ติดสุรา ว่าที่ผ่านมาการจัดการปัญหาจะตั้งเป้าการรักษาไปที่ผู้ป่วยที่มีอาการติดสุราในระดับรุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่อยู่บนยอดพีระมิดคือ มีจำนวนน้อยที่สุดในกลุ่มผู้ปัญหาการดื่มสุรา แต่ต้องใช้ทรัพยากรและความสามารถในการดูแลรักษาค่อนข้างสูง ดังนั้น การดูแลคนที่ปัญหาการดื่มสุราควรจะต้องดูแลตั้งแต่เริ่มมีปัญหาหรือคนที่เพิ่งเริ่มติดสุรา ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหานี้ง่ายขึ้น ด้วยการเสริมแนวทางการเลิกดื่มสุราตั้งแต่ยังเพิ่งเริ่มติดสุรา เปลี่ยนจากการรักษาเป็นการบำบัด และสร้างโอกาสการเข้าถึงการรักษาให้ครอบคลุมทุกสถานบริการสุขภาพทั่วประเทศ เพราะพบช่องว่างการเข้าถึงการรักษาโรคติดสุราสูงถึง ร้อยละ 98 นับเป็นภาระโรคอันดับหนึ่งในประเทศไทย

นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากดูจากตัวอย่างของประเทศเกาหลีใต้ พบว่า ปัญหาแอลกอฮอล์เป็นปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพอันดับหนึ่งของประเทศไทยโดยมีจำนวนประชากรกว่า 5 ล้านคนที่ประสบปัญหาจากการดื่มสุราและไม่สามารถเข้าถึงระบบการรักษา เนื่องจากสถานการณ์การให้บริการสุขภาพนั้นไม่มีการจัดการกับปัญหานี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีการพัฒนาอาการติดสุราจากระดับน้อยไปจนถึงขั้นติดสุรารุนแรง ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการแก้ไขปัญหา โดยกลไกสำคัญในการแก้ปัญหา คือ การลงทุนในมาตรการที่ได้ผลและคุ้มค่า และจริงจังในการแก้ปัญหา


กำลังโหลดความคิดเห็น