“สุขุมพันธุ์” รุดตรวจแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรพ.ศิริราช ชี้เสร็จ ต.ค.นี้พบอุปสรรคร้านอาหารไม่ให้ความร่วมมือ เตรียมเซ็นสัญญาก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์บางซื่อ 12 ก.ย. นี้
วันนี้(5ก.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโรงพยาบาลศิริราช และท่าเรือพรานนก และตรอกวังหลัง ความยาวประมาณ 610 เมตร โดยบริเวณดังกล่าวยังไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร และได้ใช้แนวรั้วของโรงพยาบาลและถนนตรอกวังหลังเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว ซึ่งประชาชนมักจะประสบปัญหาน้ำท่วมและได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง และน้ำเหนือหลาก โดยที่ผ่านมากทม. ได้ใช้มาตรการชั่วคราวโดยวิธีการเรียงกระสอบทราย ซึ่งทำให้เสียงบประมาณและแรงงานเป็นอย่างมาก สำนักการระบายน้ำจึงได้ทำการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการก่อสร้าจะมีการเสริมเขื่อนแนวเดิมที่ยังมีปัญหาน้ำซึม เพิ่มความสูงของแนวเขื่อนจาก 2.7 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เป็น 3.4 ม.รทก. โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนต.ค. 56 ทั้งนี้การแก้ไขจุดอ่อนน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงบางจุดที่เอกชนเจ้าของพื้นที่ยังไม่ยินยอมให้กทม.เข้าไปดำเนินการ เช่น บริเวณร้านอาหารขนาบน้ำ ที่กทม.ได้เข้าไปเจรจาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ฉะนั้นจึงต้องหาวิธีการป้องกันน้ำท่วมแบบชั่วคราวไปก่อน แต่คงจะไม่มีการฟ้องร้องแต่อย่างใด ส่วนปัญหาการรุกล้ำพื้นที่คลองต่างๆ ในกรุงเทพฯ จะต้องมีการเจรจากับประชาชนให้ย้ายที่พักอาศัยออกไปบ้าง อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมของการป้องกันน้ำท่วมของกทม.นั้นดีขึ้น ซึ่งในวันที่ 12 ก.ย.นี้จะมีการลงนามในสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวตามภารกิจที่รัฐบาลมอบให้กทม.ดำเนินการนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
วันนี้(5ก.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโรงพยาบาลศิริราช และท่าเรือพรานนก และตรอกวังหลัง ความยาวประมาณ 610 เมตร โดยบริเวณดังกล่าวยังไม่มีแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร และได้ใช้แนวรั้วของโรงพยาบาลและถนนตรอกวังหลังเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว ซึ่งประชาชนมักจะประสบปัญหาน้ำท่วมและได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง และน้ำเหนือหลาก โดยที่ผ่านมากทม. ได้ใช้มาตรการชั่วคราวโดยวิธีการเรียงกระสอบทราย ซึ่งทำให้เสียงบประมาณและแรงงานเป็นอย่างมาก สำนักการระบายน้ำจึงได้ทำการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการก่อสร้าจะมีการเสริมเขื่อนแนวเดิมที่ยังมีปัญหาน้ำซึม เพิ่มความสูงของแนวเขื่อนจาก 2.7 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เป็น 3.4 ม.รทก. โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนต.ค. 56 ทั้งนี้การแก้ไขจุดอ่อนน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงบางจุดที่เอกชนเจ้าของพื้นที่ยังไม่ยินยอมให้กทม.เข้าไปดำเนินการ เช่น บริเวณร้านอาหารขนาบน้ำ ที่กทม.ได้เข้าไปเจรจาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ฉะนั้นจึงต้องหาวิธีการป้องกันน้ำท่วมแบบชั่วคราวไปก่อน แต่คงจะไม่มีการฟ้องร้องแต่อย่างใด ส่วนปัญหาการรุกล้ำพื้นที่คลองต่างๆ ในกรุงเทพฯ จะต้องมีการเจรจากับประชาชนให้ย้ายที่พักอาศัยออกไปบ้าง อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมของการป้องกันน้ำท่วมของกทม.นั้นดีขึ้น ซึ่งในวันที่ 12 ก.ย.นี้จะมีการลงนามในสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวตามภารกิจที่รัฐบาลมอบให้กทม.ดำเนินการนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
