กทม.ปรับโฉมสถานธนานุบาลในสังกัด พร้อมลดดอกเบี้ยช่วยประชาชน เพิ่มนโยบายช่วยเหลือนักศึกษาในช่วงเปิดเทอม ผุดโรงรับจำนำที่ใหม่เขตทุ่งครุ
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่อาคารสถาธนานุบาลดอนเมือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดสถานธนานุบาลดอนเมืองภาพลักษณ์ใหม่ โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้ทำการปรับปรุงบริเวณด้านหน้าอาคารของสถานธนานุบาลใหม่ทั้งหมด ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนเคาน์เตอร์ให้บริการจากเดิมที่เป็นลูกกรงเหล็กมาเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ พร้อมทั้งมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือมาใช้แทนการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยหมึก เพื่อให้ดูทันสมัยเทียบเท่ากับสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ เป็นการสร้างทัศนคติที่ดีแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานครเป็นโรงรับจำนำของ กทม. โดยขณะนี้เปิดให้บริการจำนวน 20 สาขา และตามนโยบาย 1 ใน 10 มาตรการเร่งด่วนของผู้ว่าฯ กทม. เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทำการปรับลดอัตราตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 56 ให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25 บาทต่อเดือน แก่ประชาชนที่มาจำนำเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท เงินต้นส่วนที่เกิน 5,001-15,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ส่วนเงินต้นที่เกินกว่า 15,000 บาท จะคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังมีนโยบายช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเพียงร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือและผ่อนผันแก่เจ้าของทรัพย์ที่หลุดจำนำและต้องการตามซื้อทรัพย์หลุดจำนำคืน โดยคิดราคาเพิ่มเติมเพียง 15 เปอร์เซ็นต์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ผู้ที่มาใช้บริการสถานธนานุบาลเป็นผู้ที่มีปัญหาทางการเงิน จึงจำเป็นต้องนำสิ่งของต่างๆ มาจำนำ กทม.ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแก่ประชาชน และยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งการปรับลักษณ์ของสถานธนานุบาลใหม่เพื่อให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในการเก็บทรัพย์สินของประชาชนที่นำมาฝากไว้ อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติแก่ประชาชนผู้เข้าใช้บริการอีกด้วย โดยตนพยายามปรับลดดอกเบี้ยให้ถูกที่สุดเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของการปรับภาพลักษณ์สถานธนานุบาลของ กทม.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 18 แห่ง เหลือเพียง 2 แห่ง คือ สถานธนานุบาลดินแดง และคลองเตย ที่ยังติดปัญหาเรื่องโครงสร้างอยู่ แต่จะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด อีกทั้ง กทม.ยังมีนโยบายเปิดสถานธนานุบาลเพิ่มอีก 1 แห่งในเขตทุ่งครุ ซึ่งขณะอยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่อาคารสถาธนานุบาลดอนเมือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดสถานธนานุบาลดอนเมืองภาพลักษณ์ใหม่ โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้ทำการปรับปรุงบริเวณด้านหน้าอาคารของสถานธนานุบาลใหม่ทั้งหมด ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนเคาน์เตอร์ให้บริการจากเดิมที่เป็นลูกกรงเหล็กมาเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ พร้อมทั้งมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือมาใช้แทนการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยหมึก เพื่อให้ดูทันสมัยเทียบเท่ากับสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ เป็นการสร้างทัศนคติที่ดีแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ
สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานครเป็นโรงรับจำนำของ กทม. โดยขณะนี้เปิดให้บริการจำนวน 20 สาขา และตามนโยบาย 1 ใน 10 มาตรการเร่งด่วนของผู้ว่าฯ กทม. เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทำการปรับลดอัตราตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 56 ให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25 บาทต่อเดือน แก่ประชาชนที่มาจำนำเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท เงินต้นส่วนที่เกิน 5,001-15,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ส่วนเงินต้นที่เกินกว่า 15,000 บาท จะคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังมีนโยบายช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเพียงร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือและผ่อนผันแก่เจ้าของทรัพย์ที่หลุดจำนำและต้องการตามซื้อทรัพย์หลุดจำนำคืน โดยคิดราคาเพิ่มเติมเพียง 15 เปอร์เซ็นต์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ผู้ที่มาใช้บริการสถานธนานุบาลเป็นผู้ที่มีปัญหาทางการเงิน จึงจำเป็นต้องนำสิ่งของต่างๆ มาจำนำ กทม.ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแก่ประชาชน และยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งการปรับลักษณ์ของสถานธนานุบาลใหม่เพื่อให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในการเก็บทรัพย์สินของประชาชนที่นำมาฝากไว้ อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติแก่ประชาชนผู้เข้าใช้บริการอีกด้วย โดยตนพยายามปรับลดดอกเบี้ยให้ถูกที่สุดเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของการปรับภาพลักษณ์สถานธนานุบาลของ กทม.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 18 แห่ง เหลือเพียง 2 แห่ง คือ สถานธนานุบาลดินแดง และคลองเตย ที่ยังติดปัญหาเรื่องโครงสร้างอยู่ แต่จะดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด อีกทั้ง กทม.ยังมีนโยบายเปิดสถานธนานุบาลเพิ่มอีก 1 แห่งในเขตทุ่งครุ ซึ่งขณะอยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง
