กทม.ผุดโครงการ “ออมเพื่อคุ้มครองชีวิตพอเพียง” ตอกย้ำให้คนกรุงหันมาออมเงินเพิ่มขึ้น ระบุข้อดีรับเงินชดเชยเจ็บป่วย-นำเบี้ยลดหย่อนภาษี เน้นการรณรงค์ให้ครอบครัวทำบัญชีรายรับรายจ่าย
วันนี้ (29 ส.ค.) นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวและลงนามในบันทึกความร่วมมือการดำเนินการ ในโครงการประกันเพื่อการออม คุ้มครองชีวิตพอเพียง ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันชีวิตไทย
โดย นางผุสดี กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้น้อมนำ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นแนวทางในการบริหารเพื่อการพัฒนากรุงเทพมหานครในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร ได้จัดทำโครงการต่างๆ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงิน รู้จักประหยัด มีวินัยในการออม และใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อาทิ โครงการศูนย์ส่งเสริมบริหารเงินออมครอบครัว, โครงการชีวิตพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ รณรงค์ให้ประชาชนทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครอบครัว, โครงการบัญชีเงินออม เพื่อชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริ รณรงค์ และเชิญชวนให้ประชาชนได้มีการออมและเปิดบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการสานต่อ ดังนั้น กรุงเทพมหานคร จึงได้จัดทำโครงการ “ประกันเพื่อการออม คุ้มครองชีวิตพอเพียง” ส่งเสริมและหาช่องทางให้ประชาชนในกรุงเทพมหานคร มีวินัยการออม และได้รับความคุ้มครองในรูปแบบการประกันชีวิต อันจะส่งผลให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็น มหานครแห่งโอกาสของทุกคน ตามนโยบาย “รักกรุงเทพฯ ร่วมสร้างกรุงเทพฯ” ของผู้ว่าฯ กทม.โดย คปภ.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน ส่วนสมาคมประกันชีวิตไทย เป็นหน่วยงานที่ประสานความร่วมมือบริษัทประกันชีวิตที่จะเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีรูปแบบการประกันชีวิตเฉพาะที่เหมาะสมสำหรับชาวกรุงเทพมหานคร ได้แก่ การจ่ายเบี้ยประกันเพียงเดือนละ 500 บาท ครบสัญญามีเงินคืน ได้เก็บเป็นเงินออม รับเงินชดเชยในฐานะผู้ป่วยในหากต้องเข้ารักษาโรงในพยาบาล เบี้ยประกันชีวิตนำไปลดหย่อนภาษีได้
อย่างไรก็ตาม โครงการประกันเพื่อการออม คุ้มครองชีวิตพอเพียง จะเป็นโครงการหนึ่งที่ส่งเสริมให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของการออม ได้มีช่องทางในการสร้างวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมรับความคุ้มครองในรูปแบบการประกันชีวิต เพื่อคุณภาพชีวิตและความสุขของชาวกรุงเทพมหานครที่ดีขึ้น
วันนี้ (29 ส.ค.) นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวและลงนามในบันทึกความร่วมมือการดำเนินการ ในโครงการประกันเพื่อการออม คุ้มครองชีวิตพอเพียง ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันชีวิตไทย
โดย นางผุสดี กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้น้อมนำ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นแนวทางในการบริหารเพื่อการพัฒนากรุงเทพมหานครในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร ได้จัดทำโครงการต่างๆ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงิน รู้จักประหยัด มีวินัยในการออม และใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อาทิ โครงการศูนย์ส่งเสริมบริหารเงินออมครอบครัว, โครงการชีวิตพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ รณรงค์ให้ประชาชนทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของตนเองและครอบครัว, โครงการบัญชีเงินออม เพื่อชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริ รณรงค์ และเชิญชวนให้ประชาชนได้มีการออมและเปิดบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการสานต่อ ดังนั้น กรุงเทพมหานคร จึงได้จัดทำโครงการ “ประกันเพื่อการออม คุ้มครองชีวิตพอเพียง” ส่งเสริมและหาช่องทางให้ประชาชนในกรุงเทพมหานคร มีวินัยการออม และได้รับความคุ้มครองในรูปแบบการประกันชีวิต อันจะส่งผลให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็น มหานครแห่งโอกาสของทุกคน ตามนโยบาย “รักกรุงเทพฯ ร่วมสร้างกรุงเทพฯ” ของผู้ว่าฯ กทม.โดย คปภ.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน ส่วนสมาคมประกันชีวิตไทย เป็นหน่วยงานที่ประสานความร่วมมือบริษัทประกันชีวิตที่จะเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีรูปแบบการประกันชีวิตเฉพาะที่เหมาะสมสำหรับชาวกรุงเทพมหานคร ได้แก่ การจ่ายเบี้ยประกันเพียงเดือนละ 500 บาท ครบสัญญามีเงินคืน ได้เก็บเป็นเงินออม รับเงินชดเชยในฐานะผู้ป่วยในหากต้องเข้ารักษาโรงในพยาบาล เบี้ยประกันชีวิตนำไปลดหย่อนภาษีได้
อย่างไรก็ตาม โครงการประกันเพื่อการออม คุ้มครองชีวิตพอเพียง จะเป็นโครงการหนึ่งที่ส่งเสริมให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของการออม ได้มีช่องทางในการสร้างวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมรับความคุ้มครองในรูปแบบการประกันชีวิต เพื่อคุณภาพชีวิตและความสุขของชาวกรุงเทพมหานครที่ดีขึ้น
