มะเร็งก้อนเนื้อร้ายที่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เนื่องจากมะเร็งในระยะแรกๆ ล้วนแต่ไม่แสดงอาการใดๆ มะเร็งตับก็เช่นกัน ผู้ป่วยจะไม่มีทางทราบได้เลยว่าตนเป็นมะเร็ง แม้กระทั่งตับจะถูกทำลายไปถึง 5 ใน 6 ส่วนแล้วก็ตาม เพราะตับยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อก้อนมีขนาดโตขึ้นหรือมีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือกระจายไปที่อื่นๆ จะทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
1.มีก้อนในท้องด้านบนขวาหรือบริเวณลิ้นปี่
2.เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อึดอัดแน่นท้อง ท้องโตขึ้น เนื่องจากมีน้ำในช่องท้อง (ท้องมาน)
3.ปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวา ซึ่งอาจร้าวไปที่ไหล่ขวา
4.ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม หรือที่เรียกว่า "ดีซ่าน" ซึ่งทำให้มีอาการคันตามมือ เท้า และผิวหนัง
5.อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
และ 6.น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ อาการดังกล่าวอาจจะเป็นจากสาเหตุอื่นก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการดังกล่าวไม่ควรนิ่งเฉย แต่ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและหาสาเหตุโดยเร็ว เพราะหากเป็นมะเร็งขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปตรวจ ก็เท่ากับกำลังปล่อยให้มะเร็งลุกลามไปเรื่อยๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็อาจเข้าระยะสุดท้ายแล้ว ชีวิตที่ควรจะยืนยาวต่อออกไป อาจจะเหลือเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อก้อนมีขนาดโตขึ้นหรือมีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือกระจายไปที่อื่นๆ จะทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
1.มีก้อนในท้องด้านบนขวาหรือบริเวณลิ้นปี่
2.เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อึดอัดแน่นท้อง ท้องโตขึ้น เนื่องจากมีน้ำในช่องท้อง (ท้องมาน)
3.ปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวา ซึ่งอาจร้าวไปที่ไหล่ขวา
4.ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม หรือที่เรียกว่า "ดีซ่าน" ซึ่งทำให้มีอาการคันตามมือ เท้า และผิวหนัง
5.อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
และ 6.น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ อาการดังกล่าวอาจจะเป็นจากสาเหตุอื่นก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการดังกล่าวไม่ควรนิ่งเฉย แต่ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและหาสาเหตุโดยเร็ว เพราะหากเป็นมะเร็งขึ้นมาแล้วไม่ได้ไปตรวจ ก็เท่ากับกำลังปล่อยให้มะเร็งลุกลามไปเรื่อยๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็อาจเข้าระยะสุดท้ายแล้ว ชีวิตที่ควรจะยืนยาวต่อออกไป อาจจะเหลือเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น