สธ.เตรียมจัดใหญ่ มหกรรมงานสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 10 สร้างจุดเด่นงานแพทย์แผนไทยให้กับประเทศรองรับเปิดเออีซี ชูสมุนไพร 71 ชนิด บรรเทาอาการได้ 26 กลุ่มโรคเข้าระบบสาธารณสุขมูลฐานอาเซียน
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่กรมพัฒนาการแพทย์แพทย์ไทยและการแพทย์ทางเลือก นายสรวงค์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวแถลงข่าวเปิดโครงการงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 10 ว่า การจัดงานในครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย สุขภาพไทย เศรษฐกิจไทย” เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านศาสตร์การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกในการดูแลสุขภาพประชาชน โดยปีนี้งานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 ก.ย.ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกับกระแสที่ทั่วโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่องการดูแลสุขภาพ ดังนั้น ไทยจึงต้องมีการดึงจุดเด่นเรื่องของสมุนไพร เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการพัฒนาขีดความสามารถ เกี่ยวกับการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากสมุนไพร อาทิ เครื่องสำอางอาหารเสริม และยาแผนโบราณ ในการแข่งขันกับทั้งภายในและนอกประเทศ
นายสรวงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของสมุนไพรก่อนที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเขตเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ในด้านความร่วมมือทางการแพทย์แผนดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการส่งเสริมแพทย์แพทย์ดั้งเดิมเข้าในระบบสาธารณสุขมูลฐานของอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการและจากการพิจารณาข้อมูลสมุนไพรจากทุกประเทศที่เลือกจะมีสมุนไพรที่ผ่านการคัดเลือกประมาณ 71 ชนิด ซึ่งสามารถใช้รักษาและบรรเทาโรคได้ 26 กลุ่มอาการ
ด้าน นพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า สมุนไพรถือมีความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจ ซึ่งหากไทยรู้จักเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรก็จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับประเทศได้ ดังนั้นทางกรมฯจึงจะมีการเน้นใน 3 เรื่องสำหรับการจัดงาน ได้แก่ 1.ส่งเสริมให้มีวัตถุดิบสมุนไพรที่พอเพียงต่อความต้องการ 2.พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานการผลิต(GMP) และ 3.ผลักดันให้สมุนไพรเป็นที่รู้จักและสนใจจากทั่วโลกรวมถึงการผลักดันเรื่องสุขภาพที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่กรมพัฒนาการแพทย์แพทย์ไทยและการแพทย์ทางเลือก นายสรวงค์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวแถลงข่าวเปิดโครงการงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 10 ว่า การจัดงานในครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย สุขภาพไทย เศรษฐกิจไทย” เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านศาสตร์การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกในการดูแลสุขภาพประชาชน โดยปีนี้งานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 ก.ย.ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกับกระแสที่ทั่วโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่องการดูแลสุขภาพ ดังนั้น ไทยจึงต้องมีการดึงจุดเด่นเรื่องของสมุนไพร เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการพัฒนาขีดความสามารถ เกี่ยวกับการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากสมุนไพร อาทิ เครื่องสำอางอาหารเสริม และยาแผนโบราณ ในการแข่งขันกับทั้งภายในและนอกประเทศ
นายสรวงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของสมุนไพรก่อนที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเขตเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ในด้านความร่วมมือทางการแพทย์แผนดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการส่งเสริมแพทย์แพทย์ดั้งเดิมเข้าในระบบสาธารณสุขมูลฐานของอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการและจากการพิจารณาข้อมูลสมุนไพรจากทุกประเทศที่เลือกจะมีสมุนไพรที่ผ่านการคัดเลือกประมาณ 71 ชนิด ซึ่งสามารถใช้รักษาและบรรเทาโรคได้ 26 กลุ่มอาการ
ด้าน นพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า สมุนไพรถือมีความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจ ซึ่งหากไทยรู้จักเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรก็จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับประเทศได้ ดังนั้นทางกรมฯจึงจะมีการเน้นใน 3 เรื่องสำหรับการจัดงาน ได้แก่ 1.ส่งเสริมให้มีวัตถุดิบสมุนไพรที่พอเพียงต่อความต้องการ 2.พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานการผลิต(GMP) และ 3.ผลักดันให้สมุนไพรเป็นที่รู้จักและสนใจจากทั่วโลกรวมถึงการผลักดันเรื่องสุขภาพที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด