อึ้ง! ไทยขยะมากขึ้นทุกปี เฉลี่ยวันละ 4.15 หมื่นตัน แนะเอาอย่าง ต.สาวะถี จ.ขอนแก่น ต้นแบบชุมชนคัดแยกขยะ 4 ประเภท ช่วยลดอันตรายจากขยะทั่วไปปะปนขยะสารพิษได้ เน้นมีกิจกรรมชักจูง ทั้งสะสมแต้มแลกของรางวัล สะสมเงินกองทุนสุขภาพ
วันนี้ (15 ส.ค.) นพ.บุญเลิศ ศักดิ์ชัยนานนท์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ดูงานการจัดการขยะชุมชน เทศบาลตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ว่า โดยทั่วไปขยะชุมชนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.ขยะครัวเรือน ได้แก่ ขยะเปียก ขยะแห้ง และขยะที่อันตรายไม่มาก เช่น ถ่านไฟฉาย ภาชนะใส่ยาและสารเคมี ขยะจากการกวาดถนน ซึ่งอาจมีสิ่งปฏิกูลปนมา 2.ขยะพิเศษและขยะอันตราย เช่น ขยะจากโรงพยาบาล (ขยะแบบแหลมคมหรือขยะติดเชื้อ) ขยะพิษจากสารเคมี ยา ขยะอุตสาหกรรมที่ปะปนมา อาจมีกัมมันตภาพรังสีด้วย และ 3.ขยะอื่นๆ เช่น ซากสัตว์ ซากเฟอร์นิเจอร์ ขยะจากการก่อสร้าง ซึ่งบางทีมีแร่ใยหินปน ไขมันจากบ่อดักไขมัน กากจากบ่อกำจัดน้ำเสีย
นพ.บุญเลิศ กล่าวอีกว่า ข้อมูลปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พ.ศ.2548-2553 จากกรมควบคุมมลพิษ พบว่า มีปริมาณขยะมูลฝอยรวมทั้งประเทศ ดังนี้ ปี 2548 เฉลี่ย 39,221 ตันต่อวัน, ปี 2549 เฉลี่ย 40,012 ตันต่อวัน, ปี 2550 เฉลี่ย 40,332 ตันต่อวัน, ปี 2551 เฉลี่ย 41,064 ตันต่อวัน, ปี 2552 เฉลี่ย 41,410 ตันต่อวัน และปี 2553 เฉลี่ย 41,532 ตันต่อวัน ตามลำดับ จากข้อมูลข้างต้น จะพบว่ามีปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีการจัดการขยะเหล่านี้อย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม จะสำเร็จได้ต้องเริ่มต้นจากการแยกขยะในครัวเรือนเป็นลำดับแรก และไม่นำขยะพิษหรือขยะอันตรายทิ้งปนกับขยะทั่วไป รวมถึงลดการใช้สิ่งต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดขยะในชุมชน
นพ.บุญเลิศ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดการขยะชุมชนของเทศบาลตำบลสาวะถี พบว่า เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน โดยเริ่มจากผู้นำชุมชน แกนนำจัดการขยะในชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนในชุมชน โดยมีการอบรมให้ความรู้การคัดแยกขยะในครัวเรือนกับทุกครอบครัว จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเนื่อง รับสมัครสมาชิกเข้าร่วมโครงการ และแต่งตั้งคณะทำงานผู้รับผิดชอบกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคนในชุมชน โดยประชาชนร่วมคัดแยกขยะออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ขยะรีไซเคิล หรือขยะที่สามารถนำไปขายได้ ขยะพิษ ขยะอินทรีย์ หรือขยะย่อยสลายได้ และขยะทั่วไป เช่น ขยะรีไซเคิล จัดกิจกรรมคัดแยกขยะสะสมเงินทองคุ้มครองสุขภาพ ขยะพิษ มีกิจกรรมขยะพิษแลกแต้ม เพื่อแลกรางวัลทุก 3 เดือน เป็นต้น
“ประชาชนต้องระมัดระวังในส่วนของขยะอันตรายให้มาก ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายขณะทำงานทุกครั้ง ซึ่งขยะอันตรายที่มีสารพิษเป็นส่วนประกอบไม่ควรทิ้งเศษวัสดุอุปกรณ์ที่มีอันตรายปนเปื้อน หรือปะปนกับขยะทั่วไปควรใส่ถุงแยกไว้ต่างหาก หรือทิ้งในถังที่ระบุว่าเป็นขยะอันตราย หากขยะอันตรายเหล่านั้นปะปนกับขยะทั่วไปจะเกิดอันตรายรุนแรงมาก เพราะกรดหรือก๊าซไข่เน่าในขยะทั่วไปจะไปทำปฏิกิริยากับสารพิษทำให้เกิดความเป็นพิษมากขึ้น” นพ.บุญเลิศ กล่าว
วันนี้ (15 ส.ค.) นพ.บุญเลิศ ศักดิ์ชัยนานนท์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ดูงานการจัดการขยะชุมชน เทศบาลตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ว่า โดยทั่วไปขยะชุมชนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.ขยะครัวเรือน ได้แก่ ขยะเปียก ขยะแห้ง และขยะที่อันตรายไม่มาก เช่น ถ่านไฟฉาย ภาชนะใส่ยาและสารเคมี ขยะจากการกวาดถนน ซึ่งอาจมีสิ่งปฏิกูลปนมา 2.ขยะพิเศษและขยะอันตราย เช่น ขยะจากโรงพยาบาล (ขยะแบบแหลมคมหรือขยะติดเชื้อ) ขยะพิษจากสารเคมี ยา ขยะอุตสาหกรรมที่ปะปนมา อาจมีกัมมันตภาพรังสีด้วย และ 3.ขยะอื่นๆ เช่น ซากสัตว์ ซากเฟอร์นิเจอร์ ขยะจากการก่อสร้าง ซึ่งบางทีมีแร่ใยหินปน ไขมันจากบ่อดักไขมัน กากจากบ่อกำจัดน้ำเสีย
นพ.บุญเลิศ กล่าวอีกว่า ข้อมูลปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พ.ศ.2548-2553 จากกรมควบคุมมลพิษ พบว่า มีปริมาณขยะมูลฝอยรวมทั้งประเทศ ดังนี้ ปี 2548 เฉลี่ย 39,221 ตันต่อวัน, ปี 2549 เฉลี่ย 40,012 ตันต่อวัน, ปี 2550 เฉลี่ย 40,332 ตันต่อวัน, ปี 2551 เฉลี่ย 41,064 ตันต่อวัน, ปี 2552 เฉลี่ย 41,410 ตันต่อวัน และปี 2553 เฉลี่ย 41,532 ตันต่อวัน ตามลำดับ จากข้อมูลข้างต้น จะพบว่ามีปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องมีการจัดการขยะเหล่านี้อย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม จะสำเร็จได้ต้องเริ่มต้นจากการแยกขยะในครัวเรือนเป็นลำดับแรก และไม่นำขยะพิษหรือขยะอันตรายทิ้งปนกับขยะทั่วไป รวมถึงลดการใช้สิ่งต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดขยะในชุมชน
นพ.บุญเลิศ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดการขยะชุมชนของเทศบาลตำบลสาวะถี พบว่า เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน โดยเริ่มจากผู้นำชุมชน แกนนำจัดการขยะในชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนในชุมชน โดยมีการอบรมให้ความรู้การคัดแยกขยะในครัวเรือนกับทุกครอบครัว จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเนื่อง รับสมัครสมาชิกเข้าร่วมโครงการ และแต่งตั้งคณะทำงานผู้รับผิดชอบกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคนในชุมชน โดยประชาชนร่วมคัดแยกขยะออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ขยะรีไซเคิล หรือขยะที่สามารถนำไปขายได้ ขยะพิษ ขยะอินทรีย์ หรือขยะย่อยสลายได้ และขยะทั่วไป เช่น ขยะรีไซเคิล จัดกิจกรรมคัดแยกขยะสะสมเงินทองคุ้มครองสุขภาพ ขยะพิษ มีกิจกรรมขยะพิษแลกแต้ม เพื่อแลกรางวัลทุก 3 เดือน เป็นต้น
“ประชาชนต้องระมัดระวังในส่วนของขยะอันตรายให้มาก ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายขณะทำงานทุกครั้ง ซึ่งขยะอันตรายที่มีสารพิษเป็นส่วนประกอบไม่ควรทิ้งเศษวัสดุอุปกรณ์ที่มีอันตรายปนเปื้อน หรือปะปนกับขยะทั่วไปควรใส่ถุงแยกไว้ต่างหาก หรือทิ้งในถังที่ระบุว่าเป็นขยะอันตราย หากขยะอันตรายเหล่านั้นปะปนกับขยะทั่วไปจะเกิดอันตรายรุนแรงมาก เพราะกรดหรือก๊าซไข่เน่าในขยะทั่วไปจะไปทำปฏิกิริยากับสารพิษทำให้เกิดความเป็นพิษมากขึ้น” นพ.บุญเลิศ กล่าว