ประกันสังคมปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี และโรคเอดส์ โดยปรับสูตรยาต้านไวรัสเอชไอวี ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ สธ.เชื่อช่วยให้ได้รับยาต้านไวขึ้น
วันนี้ (15 ส.ค.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2556 มีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ในความดูแลของ สปส.จำนวน 65,000 ราย ในปี 2556 สปส.ได้จัดซื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีไปแล้วเป็นเงิน 356.53 ล้านบาท ทั้งนี้ การให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์นั้น จะได้รับการรักษาและการรับยาต้านไวรัสนี้ได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพบว่าผู้ประกันตนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
นายจีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน สปส.ได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ตามประกาศคณะกรรมการแพทย์ฯ เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนติดเชื้อเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 5 มิ.ย. 2556 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2556 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์สามารถรับยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น หรือได้ปรับการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี จากเดิมผู้ป่วยต้องมี CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 Cells/mm3 เป็น CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 350 Cells/mm3 ผู้ประกันตนสามารถได้รับยาต้านไวรัสได้ทันที และยังได้มีการปรับสูตรยาต้านไวรัส ซึ่งทั้งเกณฑ์การเริ่มการให้ยาและสูตรยาต้านไวรัสที่ปรับปรุง เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับการรักษาและยาต้านไวรัสทั้งสูตรพื้นฐาน สูตรทางเลือก และสูตรดื้อยา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
เลขาธิการกล่าวต่อไปว่า สปส.ได้ดูแลผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ให้ได้รับยาต้านไวรัสอย่างทั่วถึงและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และ สปส.ขอฝากถึงผู้ประกันตนที่ไม่ได้ติดเชื้อ และกลุ่มวัยรุ่นควรที่จะป้องกันและดูแลตนเอง อาทิ ใช้ถุงยางอนามัยก่อนการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรมีการตรวจเลือดหาเชื้อไวรัสเอชไอวีก่อนแต่งงาน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มมากขึ้น หากนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือ โทร.1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันในเวลาราชการ
วันนี้ (15 ส.ค.) นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2556 มีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ในความดูแลของ สปส.จำนวน 65,000 ราย ในปี 2556 สปส.ได้จัดซื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีไปแล้วเป็นเงิน 356.53 ล้านบาท ทั้งนี้ การให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์นั้น จะได้รับการรักษาและการรับยาต้านไวรัสนี้ได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพบว่าผู้ประกันตนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
นายจีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน สปส.ได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ตามประกาศคณะกรรมการแพทย์ฯ เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนติดเชื้อเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 5 มิ.ย. 2556 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2556 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์สามารถรับยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น หรือได้ปรับการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี จากเดิมผู้ป่วยต้องมี CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 Cells/mm3 เป็น CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 350 Cells/mm3 ผู้ประกันตนสามารถได้รับยาต้านไวรัสได้ทันที และยังได้มีการปรับสูตรยาต้านไวรัส ซึ่งทั้งเกณฑ์การเริ่มการให้ยาและสูตรยาต้านไวรัสที่ปรับปรุง เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับการรักษาและยาต้านไวรัสทั้งสูตรพื้นฐาน สูตรทางเลือก และสูตรดื้อยา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
เลขาธิการกล่าวต่อไปว่า สปส.ได้ดูแลผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ให้ได้รับยาต้านไวรัสอย่างทั่วถึงและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และ สปส.ขอฝากถึงผู้ประกันตนที่ไม่ได้ติดเชื้อ และกลุ่มวัยรุ่นควรที่จะป้องกันและดูแลตนเอง อาทิ ใช้ถุงยางอนามัยก่อนการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรมีการตรวจเลือดหาเชื้อไวรัสเอชไอวีก่อนแต่งงาน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อเพิ่มมากขึ้น หากนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือ โทร.1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันในเวลาราชการ