ติวเข้มจัดการอาหารและโภชนาการบนเรือให้คนประจำเรือ หนุนเรือเดินทะเลระหว่างประเทศของไทยผ่านมาตรฐานไอแอลโอที่เริ่มบังคับใช้ 20 ส.ค.นี้ ห่วงกระทบธุรกิจขนส่งสินค้ามูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านต่อปี ชี้ไม่ผ่านมาตรฐานประเทศเจ้าของท่าเทียบเรือมีสิทธิ์ไม่ให้จอดขนส่งสินค้า
วันนี้ (7 ส.ค.) นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.ร่วมกับสมาคมเจ้าของเรือไทยดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรการจัดการด้านอาหารและโภชนาการบนเรือให้แก่คนประจำเรือจำนวน 25 คน ในวันที่ 14-16 สิงหาคมนี้ ที่ กพร.เนื่องด้วยเรือเดินทางทะเลระหว่างประเทศของไทยจะต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล 2006 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับเรือเดินทะเลระหว่างประเทศขนาดตั้งแต่ 500 ตันกรอสส์ ขึ้นไปในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 โดยหนึ่งในข้อบังคับ 14 ข้อของอนุสัญญาดังกล่าวได้กำหนดให้คนครัวบนเรือต้องผ่านการอบรมการประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ การจัดการเก็บอาหาร การควบคุมห้องจัดเก็บอาหาร การจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการจัดเตรียมอาหารจากสถาบันที่ผ่านการรับรองหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ
“สำหรับหัวข้อหลักสูตรที่ กพร.จัดอบรมมี การแต่งกาย การเลือกวัตถุดิบ การแช่แข็งอาหาร สุขอนามัยในการประกอบอาหาร การกำจัดเศษอาหาร เป็นต้น หากประเทศเจ้าของท่าเทียบเรือมาตรวจสอบมาตรฐานแล้วเรือเดินทางระหว่างประเทศลำใดไม่ผ่านมาตรฐานข้อบังคับ ทางประเทศเจ้าของท่าเทียบเรือก็มีสิทธิ์ไม่ให้เรือลำดังกล่าวเข้าจอดเทียบท่าได้ จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่เรือเดินทะเลระหว่างประเทศของไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ทำให้ขนส่งสินค้าไม่ได้ และแรงงานไทยจะตกงานโดยเฉพาะปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้าทางทะเลรายใหญ่จำนวน 4 ราย และมีมูลค่าการขนส่งรวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปี หลังจากนั้น กพร.จะเปิดอบรมในรุ่นที่ 2 ต่อไปเพราะสมาคมเจ้าของเรือไทยขอให้ช่วยฝึกอบรมคนประจำเรือให้ได้ปีละ 50 คน โดยทั้งสองรุ่นนี้ทางสมาคมจะเป็นผู้คัดเลือก จัดส่งคนประจำเรือมาอบรมและจ่ายค่าอบรมให้แก่ กพร.”อธิบดี กพร. กล่าว
วันนี้ (7 ส.ค.) นายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.ร่วมกับสมาคมเจ้าของเรือไทยดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรการจัดการด้านอาหารและโภชนาการบนเรือให้แก่คนประจำเรือจำนวน 25 คน ในวันที่ 14-16 สิงหาคมนี้ ที่ กพร.เนื่องด้วยเรือเดินทางทะเลระหว่างประเทศของไทยจะต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยแรงงานทางทะเล 2006 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับเรือเดินทะเลระหว่างประเทศขนาดตั้งแต่ 500 ตันกรอสส์ ขึ้นไปในวันที่ 20 สิงหาคม 2556 โดยหนึ่งในข้อบังคับ 14 ข้อของอนุสัญญาดังกล่าวได้กำหนดให้คนครัวบนเรือต้องผ่านการอบรมการประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ การจัดการเก็บอาหาร การควบคุมห้องจัดเก็บอาหาร การจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการจัดเตรียมอาหารจากสถาบันที่ผ่านการรับรองหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ
“สำหรับหัวข้อหลักสูตรที่ กพร.จัดอบรมมี การแต่งกาย การเลือกวัตถุดิบ การแช่แข็งอาหาร สุขอนามัยในการประกอบอาหาร การกำจัดเศษอาหาร เป็นต้น หากประเทศเจ้าของท่าเทียบเรือมาตรวจสอบมาตรฐานแล้วเรือเดินทางระหว่างประเทศลำใดไม่ผ่านมาตรฐานข้อบังคับ ทางประเทศเจ้าของท่าเทียบเรือก็มีสิทธิ์ไม่ให้เรือลำดังกล่าวเข้าจอดเทียบท่าได้ จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่เรือเดินทะเลระหว่างประเทศของไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ทำให้ขนส่งสินค้าไม่ได้ และแรงงานไทยจะตกงานโดยเฉพาะปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้าทางทะเลรายใหญ่จำนวน 4 ราย และมีมูลค่าการขนส่งรวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปี หลังจากนั้น กพร.จะเปิดอบรมในรุ่นที่ 2 ต่อไปเพราะสมาคมเจ้าของเรือไทยขอให้ช่วยฝึกอบรมคนประจำเรือให้ได้ปีละ 50 คน โดยทั้งสองรุ่นนี้ทางสมาคมจะเป็นผู้คัดเลือก จัดส่งคนประจำเรือมาอบรมและจ่ายค่าอบรมให้แก่ กพร.”อธิบดี กพร. กล่าว
