ยอดป่วยไข้เลือดออกพุ่งเกือบ 6 หมื่นรายแล้ว ตาย 68 ราย สธ.ชี้หากไม่เร่งกำจัดลูกน้ำยุงลาย มีสิทธิป่วยเพิ่มถึง 1.5 แสนราย ตายอีกกว่า 200 ราย “หมอประดิษฐ” จัดคาราวานรณรงค์ประชาสัมพันธ์แนะนำป้องกันไข้เลือดออก หวังลดผู้ป่วยและการตาย
วันนี้ (10 ก.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออก ในโครงการ “รวมพลัง อสม.ขจัดภัยร้าย กำจัดยุงลาย พิชิตไข้เลือดออก” พร้อมมอบธงรณรงค์ กระเช้าสื่อประชาสัมพันธ์ และสมุนไพรกันยุงแก่ภาคีเครือข่าย ผู้ตรวจราชการ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รวมถึงปล่อยขบวนรถคาราวานรณรงค์ ว่า ไทยอยู่ในช่วงฤดูกาลระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยเดือน ก.ค.เป็นช่วงที่จะพบผู้ป่วยสูงที่สุดกว่าทุกเดือน ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดทั่วประเทศมีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 2 ก.ค.รวม 59,318 ราย คิดเป็นอัตราการป่วย 92.57 คนต่อประชากร 1 แสนคน เสียชีวิต 68 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.11 ของผู้ป่วยทั้งหมด จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2555 ร้อยละ 219 หรือประมาณ 3 เท่าตัว กลุ่มอายุที่ป่วยและเสียชีวิตสูงสุดคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน หากประชาชนและภาครัฐไม่ร่วมมือกันกำจัดยุงลาย ความเสี่ยงถูกยุงกัดและการป่วยจะสูงขึ้น อาจเพิ่มสูงถึง 120,000-150,000 ราย ผู้เสียชีวิตอาจมีถึง 140-200 ราย สูญเสียค่าใช้จ่ายรักษาถึง 2,000 ล้านบาท
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า การควบคุมแก้ไขปัญหาต้องใช้ 2 มาตรการควบคู่กันคือ 1.การดูแลรักษาผู้ป่วย โดย สธ.ได้จัดจุดตรวจคัดกรองรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเป็นการเฉพาะในโรงพยาบาลทุกแห่ง และ 2.การลดจำนวนยุงลาย เพื่อลดจำนวนผู้ป่วย โดยตลอดช่วงวันที่ 10-16 ก.ค.จะเน้นกิจกรรมรณรงค์ โดยให้ อสม.และภาคีเครือข่ายร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย และให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันยุงกัด พร้อมเร่งค้นหาผู้ป่วย หากมีไข้สูง ไม่ไอ กินยาแล้วไข้ไม่ลดลงภายใน 1-2 วัน ให้นึกถึงไข้เลือดออกไว้ก่อนและให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หากได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ จะลดการเสียชีวิตได้
