โวย! ศธ.สั่งตัดต้นไม้ใหญ่อายุนับ 100 ปี เหลือแต่ลำต้น อ้าง! เตรียมปรับภูมิทัศน์เพื่อความสวยงามทุ่มงบไม่อั้นถึง 12 ล.บาท แต่ถูกเบรกในที่ประชุมจนเหลือเพียง 3.5 แสนบาท ด้าน “ศิริพร” แจงในฐานะดูแลอาคารสถานที่เห็นว่าเข้าช่วงฤดูฝนหวั่นลมพายุพัดหัก จึงให้ปรับเพื่อความสวยงาม และป้องกันเหตุกิ่งไม้หักทับทรัพย์สินเสียหาย
แหล่งข่าวกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แจ้งว่า สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ได้มีนโยบายให้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ ภายในกระทรวงศึกษาฯ อีกทั้งเห็นว่าขณะนี้มีฝนตกบ่อย เพราะเข้าสู่ฤดูฝน และภายใน ศธ.มีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก จึงเกรงว่าหากมีลมพัดแรงอาจจะเกิดเหตุการณ์ลมพัดกิ่งหักโค่นสร้างความเสียหายได้ เพราะฉะนั้น จึงได้มีการประชุมเพื่อทำการปรับภูมิทัศน์และได้ตั้งงบดำเนินการไว้สูงถึง 12 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้ติดต่อให้ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาตัด แต่เนื่องจากต้นไม้ใหญ่ต้องใช้รถเครน ซึ่งทาง กทม.ไม่มีเครื่องมือดังกล่าว จึงได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งให้มาดำเนินการตัดแต่งกิ่งไม้และต้นไม้ใหญ่ ภายในกระทรวงศึกษาฯ ในราคา 3.5 แสนบาท และวางแผนจะปรับพื้นที่โดยรอบกระทรวง นำไม้ดอกไม้ประดับมาปลูกใหม่แทนของเดิม และปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณหน้ากระทรวง เพื่อให้เกิดความสวยงามด้วย
“งบประมาณที่ตั้งไว้ 12 ล้านบาทสูงมาก ดังนั้นมีการท้วงติงและคัดค้านเมื่อมีการประชุมภายในว่าขอให้ปรับลดลง และสุดท้ายก็เห็นชอบปรับงบลดลงเหลือเพียง 4-5 ล้านบาท และประสานให้ทางวิทยาลัยเกษตรบางพูน จ.ปทุมธานี วิทยาลับเกษตรกาญจนบุรี วิทยาลัยเกษตรราชบุรี และวิทยาลัยเกษตรชลบุรี เข้ามาช่วยปรับภูมิทัศน์ให้”แหล่งข่าว ศธ.กล่าว
ด้านนางศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัด ศธ.กล่าวว่า ในฐานะที่ตนดูแลด้านอาคารสถานที่ของสำนักงานปลัด ยืนยันว่า การดำเนินการปรับภูมิทัศน์ ครั้งนี้ เพราะเห็นว่ากระทรวงศึกษาฯมีต้นไม้ใหญ่หลายต้น และแตกกิ่งก้านปกคลุมไปมาก จึงให้มีการปรับแต่งให้เกิดความสวยงามและที่สำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมา เพราะในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์ จนเกิดความเสียหายมาแล้ว และขณะนี้เป็นฤดูฝน ต้นไม้สามารถแตกกิ่งใหม่ได้ภายใน 1-2 เดือน ส่วนงบที่จะใช้ดำเนินการก็ไม่ได้มากตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ของสำนักงานปลัดฯ ครั้งนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการที่ทำงานใน ศธ.อย่างมาก โดยเฉพาะการตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ซึ่งเดิมให้ร่มเงาแก่ผู้คนได้สามารถเดินหลบร้อนได้ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่บริเวณหน้าประตูทางเข้า-ออกของ ศธ.รวมไปถึงบริเวณหน้าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำกระทรวง พบว่า ต้นไม้เหล่านี้ถูกตัดกิ่งและใบออกจนหมดเหลือเพียงลำต้นโล้นๆ เท่านั้น นอกจากนี้ มีเสียงสะท้อนด้วยว่ารู้สึกเสียดายต้นไม้ และกลัวว่าบางต้นจะไม่สามารถแตกกิ่งได้อีกเนื่องจากหลายต้นมีอายุยาวนานเกือบ 100 ปี และเติบโตอยู่กับ ศธ.มาตลอด ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีการตัดแต่งกิ่งต้นไม้บ้างแต่ก็ไม่เคยตัดเยอะขนาดนี้ ทั้งยังมีเสียงตำหนิด้วยว่า ในขณะที่รณรงค์บอกให้คนปลูกต้นไม้แต่ทำไมต้นในกระทรวงกลับตัดซะจนจะไม่เหลือเช่นนี้
