กทม.เตรียมเพิ่มความพร้อมให้ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ทั้งเรื่องภาษา เทคโนโลยี และความใฝ่รู้ หวังขับเคลื่อนเป็นมหานครชั้นนำของอาเซียน
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องอัมรินทร์ โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเปิดการอบรมโครงการส่งเสริมพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและวิชาชีพสำหรับครู ผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องของเขตคลองสาน ว่า บุคลากรครูเป็นกำลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการพัฒนา ครูจะต้องเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล กล้าปรับตัว ยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการพัฒนาการศึกษา ซึ่งก็คือการเตรียมความพร้อมให้แก่ข้าราชการครู ผู้บริหารสถานศึกษา และเด็กนักเรียน โดย กทม.ได้เน้นการเตรียมความพร้อม 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องภาษาต่างประเทศ โดยเน้นภาษาอังกฤษและภาษาจีน 2.ความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร์ให้เด็กนักเรียนใช้ พัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตและระบบไวไฟให้มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน และ 3.ความใฝ่รู้ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
“ประเทศกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะต้องมีความเคลื่อนไหวในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลากร เงิน วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ครูจะต้องวิเคราะห์ว่าทำอย่างไรให้วัฒนธรรมที่ดีของไทยเป็นที่ยอมรับของอีก 9 ประเทศเพื่อนบ้าน และจะนำวัฒนธรรมที่ดีของประเทศเพื่อนบ้านมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศของเราอย่างไร ซึ่ง กทม.จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งครู นักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้มีความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและพร้อมเป็นพลังคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครชั้นนำในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวและว่า นอกจากนี้ ขอฝากให้ดูแลเป็นพิเศษในเรื่องของภาษาไทยที่นักเรียนจะต้องอ่านออก เขียนคล่อง รวมถึงให้เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และหลักสูตรโตไปไม่โกง รวมถึงการสร้างวินัยและมารยาทที่ดีเพื่อเป็นการปลูกฝังและสร้างวัฒนธรรมที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและวิชาชีพสำหรับครู ผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องของเขตคลองสาน เป็นความร่วมมือของเขตคลองสานกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้าราชการครู ผู้บริหารสถานศึกษาได้พัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และเกิดผลสัมฤทธิ์กับนักเรียนในการเตรียมตัวเป็นพลเมืองของอาเซียน
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องอัมรินทร์ โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเปิดการอบรมโครงการส่งเสริมพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและวิชาชีพสำหรับครู ผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องของเขตคลองสาน ว่า บุคลากรครูเป็นกำลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการพัฒนา ครูจะต้องเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล กล้าปรับตัว ยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการพัฒนาการศึกษา ซึ่งก็คือการเตรียมความพร้อมให้แก่ข้าราชการครู ผู้บริหารสถานศึกษา และเด็กนักเรียน โดย กทม.ได้เน้นการเตรียมความพร้อม 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องภาษาต่างประเทศ โดยเน้นภาษาอังกฤษและภาษาจีน 2.ความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร์ให้เด็กนักเรียนใช้ พัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตและระบบไวไฟให้มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน และ 3.ความใฝ่รู้ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
“ประเทศกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะต้องมีความเคลื่อนไหวในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคลากร เงิน วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ครูจะต้องวิเคราะห์ว่าทำอย่างไรให้วัฒนธรรมที่ดีของไทยเป็นที่ยอมรับของอีก 9 ประเทศเพื่อนบ้าน และจะนำวัฒนธรรมที่ดีของประเทศเพื่อนบ้านมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศของเราอย่างไร ซึ่ง กทม.จะต้องเตรียมความพร้อมทั้งครู นักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้มีความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและพร้อมเป็นพลังคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครชั้นนำในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวและว่า นอกจากนี้ ขอฝากให้ดูแลเป็นพิเศษในเรื่องของภาษาไทยที่นักเรียนจะต้องอ่านออก เขียนคล่อง รวมถึงให้เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และหลักสูตรโตไปไม่โกง รวมถึงการสร้างวินัยและมารยาทที่ดีเพื่อเป็นการปลูกฝังและสร้างวัฒนธรรมที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและวิชาชีพสำหรับครู ผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องของเขตคลองสาน เป็นความร่วมมือของเขตคลองสานกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้าราชการครู ผู้บริหารสถานศึกษาได้พัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และเกิดผลสัมฤทธิ์กับนักเรียนในการเตรียมตัวเป็นพลเมืองของอาเซียน
