โฆษกส่วนตัวผู้ว่าฯ กทม.ยัน “สุขุมพันธุ์” ให้ความสำคัญแก้ปัญหายาเสพติด ติงอย่านำเรื่องไม่ได้ประชุมเองมาเป็นข้ออ้างว่าไม่ใส่ใจและให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะโฆษกประจำตัวผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ควรให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมากกว่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเองเป็นรองนายกรัฐมนตรีมา 1 ปี 8 เดือน ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยมาร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดเลยสักครั้งเดียว ว่า การที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับ ศพส. แต่ทุกครั้งที่เชิญ กทม.เข้าร่วมประชุม ผู้ว่าฯ กทม.ได้มอบหมายรองผู้ว่าฯ กทม.และข้าราชการระดับสูงของ กทม.เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง และหากมีประเด็นใดที่ ศพส.ขอความร่วมมือ หรือให้ กทม.ดำเนินการในกรณีใดๆ ก็ตาม กทม.ก็ดำเนินการทันทีโดยไม่รอช้า ในขณะเดียวกันนโยบายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีโครงการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด รวมถึงเฝ้าระวังในโรงเรียนสังกัด กทม.ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเพิ่มพื้นที่กิจกรรมให้เด็กนักเรียนมากขึ้น และสั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตสำรวจพื้นที่จัดสร้างลานกีฬาเพิ่มตามชุมชนต่างๆ เพื่อการป้องกันปัญหายาเสพติดในชุมชนโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและครอบครัว พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นชุมชนต้นแบบ อย่างน้อย 1 เขต 1 ชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของ กทม.
ทั้งนี้ กทม.ไม่มีอำนาจปราบปรามตามกฎหมายจะจับกุมผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นอำนาจของตำรวจและรัฐบาล แต่ในส่วนที่เป็นอำนาจของ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการและกำชับทุกหน่วยงานของ กทม.ดำเนินการทุกวิถีทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนั้นการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) กล่าวหาว่าผู้ว่าฯ กทม.ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพียงเพราะการไม่เข้าร่วมประชุม จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายวสันต์ กล่าวอีกว่า เนื้อหาและความจริงใจของการแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ใช่อยู่ที่รูปแบบและการสร้างภาพ เพราะความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาที่แท้จริงก็ไม่ใช่การจับกุมยาบ้าในจำนวนมากๆ ครั้งละหลายล้านเม็ด แล้วนั่งแถลงข่าว โดยมีรองนายกฯ เป็นประธาน แต่ว่าความสำเร็จที่แท้จริง คือจะต้องไม่ให้มียาบ้า หรือยาเสพติดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งรวมถึงในพื้นที่กรุงเทพฯด้วย
นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะโฆษกประจำตัวผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ว่าฯ กทม.ควรให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมากกว่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่ตนเองเป็นรองนายกรัฐมนตรีมา 1 ปี 8 เดือน ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยมาร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดเลยสักครั้งเดียว ว่า การที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับ ศพส. แต่ทุกครั้งที่เชิญ กทม.เข้าร่วมประชุม ผู้ว่าฯ กทม.ได้มอบหมายรองผู้ว่าฯ กทม.และข้าราชการระดับสูงของ กทม.เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง และหากมีประเด็นใดที่ ศพส.ขอความร่วมมือ หรือให้ กทม.ดำเนินการในกรณีใดๆ ก็ตาม กทม.ก็ดำเนินการทันทีโดยไม่รอช้า ในขณะเดียวกันนโยบายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.กับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีโครงการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด รวมถึงเฝ้าระวังในโรงเรียนสังกัด กทม.ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเพิ่มพื้นที่กิจกรรมให้เด็กนักเรียนมากขึ้น และสั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตสำรวจพื้นที่จัดสร้างลานกีฬาเพิ่มตามชุมชนต่างๆ เพื่อการป้องกันปัญหายาเสพติดในชุมชนโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและครอบครัว พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นชุมชนต้นแบบ อย่างน้อย 1 เขต 1 ชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของ กทม.
ทั้งนี้ กทม.ไม่มีอำนาจปราบปรามตามกฎหมายจะจับกุมผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นอำนาจของตำรวจและรัฐบาล แต่ในส่วนที่เป็นอำนาจของ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการและกำชับทุกหน่วยงานของ กทม.ดำเนินการทุกวิถีทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนั้นการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) กล่าวหาว่าผู้ว่าฯ กทม.ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพียงเพราะการไม่เข้าร่วมประชุม จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายวสันต์ กล่าวอีกว่า เนื้อหาและความจริงใจของการแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ใช่อยู่ที่รูปแบบและการสร้างภาพ เพราะความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาที่แท้จริงก็ไม่ใช่การจับกุมยาบ้าในจำนวนมากๆ ครั้งละหลายล้านเม็ด แล้วนั่งแถลงข่าว โดยมีรองนายกฯ เป็นประธาน แต่ว่าความสำเร็จที่แท้จริง คือจะต้องไม่ให้มียาบ้า หรือยาเสพติดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งรวมถึงในพื้นที่กรุงเทพฯด้วย